SUS: ฮันนีแบดเจอร์ตัวเท่าหมาคอร์กี้
แต่ได้ชื่อว่า 'ห้าว' ที่สุดในโลก
เพราะพวกมันคือสายแทงก์แท้ๆ
หนังหนาสุดๆ แถมต้านพิษได้!
.
‘ฮันนีแบดเจอร์’ (Honey Badger) หรืออีกชื่อว่า 'ราเทล' (Ratel) คือสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความห้าวหรือไร้ความกลัวที่สุดในโลก ซึ่งตำแหน่งนี้ก็ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะพวกมันอึดถึกทนจริงๆ
.
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นี่ไม่ใช่สัตว์ที่ตัวใหญ่โตอะไรเลย ขนาดเต็มที่ 15 กิโลกรัมนั้นถ้าเทียบเท่ากับสุนัขตัวเล็กๆ ที่ขาสั้นเหมือนกันอย่างพันธุ์ 'คอร์กี้' แต่เจ้าฮันนีแบดเจอร์มันกลับห้าวระดับที่เคยมีบันทึกว่ามันแย่งอาหารจากสิงโตได้ถ้ามันหิว และถ้าบู๊กับเจ้าป่าได้มันก็แทบจะไม่ต้องกลัวอะไรในทุ่งหญ้าสะวันนาแอฟริกาแล้ว
.
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
.
ถ้าพูดแบบเกมๆ หน่อยก็คือมันเป็นสัตว์ที่มีค่า Def ไปจนถึง Passive Skill สายป้องกันเยอะมาก หรือพูดภาษามนุษย์ทั่วไปคือมันมีพลังป้องกันตัวสูง และมีความสามารถต่างๆ ที่ช่วยปกป้องตัวมันเองได้มหาศาล
.
พูดง่ายๆ คือชื่อของมัน ‘ฮันนีแบดเจอร์’ ก็มาจากของโปรดของพวกมันคือรังผึ้ง และพวกมันก็ปีนดุ่ยๆ ขึ้นไปกินรังผึ้งได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะหนังของพวกมันหนาจนผึ้งต่อยไม่เข้า และว่ากันว่าในวัยหนุ่มสาว ไม่มีชนิดสัตว์ใดในถิ่นที่อยู่อาศัยทำอะไรฮันนีแบดเจอร์ได้ พวกสัตว์กินเนื้อใหญ่ๆ อย่างสิงโตหรือไฮยีนาที่เคยจู่โจมฮันนีแบดเจอร์ก็มักจะไปไม่ถูก เพราะการโจมตีแบบปกติมันใช้กับฮันนีแบดเจอร์ไม่ได้ หรือพูดอีกแบบการโจมตีที่ควรจะทำให้ตายหรือบาดเจ็บหนัก มันไม่ได้ทำให้สัตว์หนังหนาอย่างฮันนีแบดเจอร์ตายหรือกระทั่งบาดเจ็บสาหัส ทั้งฮันนีแบดเจอร์ยังโจมตีกลับได้อีกด้วย
.
ทั้งนี้อีกหนึ่งความสามารถเชิงป้องกันที่โหดจัดๆ ของฮันนีแบดเจอร์ มันมีความสามารถ 'ต้านพิษ' สัตว์แทบทุกชนิดในถิ่นที่อยู่ของมันได้ พิษแมงป่องนี่ขำๆ เลย เพราะแม้แต่พิษร้ายแรงอย่างงูเห่าก็ยังทำอะไรเจ้าฮันนีแบดเจอร์ไม่ได้ และว่ากันว่าถ้ามันโดนงูเห่ากัดตอนมันออกล่า เต็มที่ก็แค่มึนๆ หลับไปตื่นหนึ่ง แล้วกลับมากินงูเห่าต่อได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
.
เหนือสิ่งอื่นใด พลังป้องกันและความสามารถเชิงป้องกันอย่างมหาศาลของมันก็ดูจะทำให้มันไม่กลัวอะไรเลย ในระดับที่ว่าสัตว์กินเนื้อที่มีน้ำหนักมากกว่าพวกมัน 3-4 เท่าอย่างไฮยีนา ที่มันเองยังต้อง 'เงยหน้าขู่' แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกมีความกลัวเกรงแต่อย่างใด (ดูวิดีโอฮันนีแบดเจอร์ปะทะสัตว์ต่างๆ ได้ที่
https://youtu.be/XbRfdnLKp1Y )
.
แน่นอนว่าพวกสัตว์ล่าเนื้อขนาดใหญ่ เจอสัตว์ตัวเล็กกว่าที่ไร้ความกลัว แถมโจมตีเท่าไหร่ก็ไม่เข้าเนื้อเข้าหนัง มันก็ไม่อยากจะยุ่ง เพราะนี่คือธรรมชาติไม่ใช่สนามประลอง สัตว์ต่างๆ ล้วนล่าเหยื่อที่มันคิดจะกินเท่านั้น ไม่ใช่สู้กันเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง
.
ทั้งหมดนี้ทำให้ฮันนีแบดเจอร์เป็นสัตว์ที่มีสเน่ห์อย่างประหลาด บุคลิกของมันคล้ายกับคนที่ 'โนสน โนแคร์' ต่อคำวิจารณ์ใดๆ และทำให้หลายคนถึงกับยกให้พวกมันเป็น 'สัตว์สัญลักษณ์' (Spirit Animal) ของตัวเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใด การดำรงอยู่ของฮันนีแบดเจอร์ก็ยังย้ำเตือนเราได้ด้วยว่า ถ้าอยากมีชีวิตที่ 'ไร้ความกลัว' เราไม่จำเป็นต้องมีพลังโจมตีมหาศาลใดๆ แค่มีพลังป้องกันระดับบ้าบอจนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่รู้จะเล่นงานยังไง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว
.
แหล่งที่มา : Brandthink / SUS
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1386581163030216&set=a.811136580574680
ฮันนีแบดเจอร์ตัวเท่าหมาคอร์กี้ แต่ได้ชื่อว่า'ห้าว'ที่สุดในโลก เพราะพวกมันคือสายแทงก์แท้ๆ หนังหนาสุดๆแถมต้านพิษได้!
SUS: ฮันนีแบดเจอร์ตัวเท่าหมาคอร์กี้
แต่ได้ชื่อว่า 'ห้าว' ที่สุดในโลก
เพราะพวกมันคือสายแทงก์แท้ๆ
หนังหนาสุดๆ แถมต้านพิษได้!
.
‘ฮันนีแบดเจอร์’ (Honey Badger) หรืออีกชื่อว่า 'ราเทล' (Ratel) คือสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความห้าวหรือไร้ความกลัวที่สุดในโลก ซึ่งตำแหน่งนี้ก็ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะพวกมันอึดถึกทนจริงๆ
.
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นี่ไม่ใช่สัตว์ที่ตัวใหญ่โตอะไรเลย ขนาดเต็มที่ 15 กิโลกรัมนั้นถ้าเทียบเท่ากับสุนัขตัวเล็กๆ ที่ขาสั้นเหมือนกันอย่างพันธุ์ 'คอร์กี้' แต่เจ้าฮันนีแบดเจอร์มันกลับห้าวระดับที่เคยมีบันทึกว่ามันแย่งอาหารจากสิงโตได้ถ้ามันหิว และถ้าบู๊กับเจ้าป่าได้มันก็แทบจะไม่ต้องกลัวอะไรในทุ่งหญ้าสะวันนาแอฟริกาแล้ว
.
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
.
ถ้าพูดแบบเกมๆ หน่อยก็คือมันเป็นสัตว์ที่มีค่า Def ไปจนถึง Passive Skill สายป้องกันเยอะมาก หรือพูดภาษามนุษย์ทั่วไปคือมันมีพลังป้องกันตัวสูง และมีความสามารถต่างๆ ที่ช่วยปกป้องตัวมันเองได้มหาศาล
.
พูดง่ายๆ คือชื่อของมัน ‘ฮันนีแบดเจอร์’ ก็มาจากของโปรดของพวกมันคือรังผึ้ง และพวกมันก็ปีนดุ่ยๆ ขึ้นไปกินรังผึ้งได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะหนังของพวกมันหนาจนผึ้งต่อยไม่เข้า และว่ากันว่าในวัยหนุ่มสาว ไม่มีชนิดสัตว์ใดในถิ่นที่อยู่อาศัยทำอะไรฮันนีแบดเจอร์ได้ พวกสัตว์กินเนื้อใหญ่ๆ อย่างสิงโตหรือไฮยีนาที่เคยจู่โจมฮันนีแบดเจอร์ก็มักจะไปไม่ถูก เพราะการโจมตีแบบปกติมันใช้กับฮันนีแบดเจอร์ไม่ได้ หรือพูดอีกแบบการโจมตีที่ควรจะทำให้ตายหรือบาดเจ็บหนัก มันไม่ได้ทำให้สัตว์หนังหนาอย่างฮันนีแบดเจอร์ตายหรือกระทั่งบาดเจ็บสาหัส ทั้งฮันนีแบดเจอร์ยังโจมตีกลับได้อีกด้วย
.
ทั้งนี้อีกหนึ่งความสามารถเชิงป้องกันที่โหดจัดๆ ของฮันนีแบดเจอร์ มันมีความสามารถ 'ต้านพิษ' สัตว์แทบทุกชนิดในถิ่นที่อยู่ของมันได้ พิษแมงป่องนี่ขำๆ เลย เพราะแม้แต่พิษร้ายแรงอย่างงูเห่าก็ยังทำอะไรเจ้าฮันนีแบดเจอร์ไม่ได้ และว่ากันว่าถ้ามันโดนงูเห่ากัดตอนมันออกล่า เต็มที่ก็แค่มึนๆ หลับไปตื่นหนึ่ง แล้วกลับมากินงูเห่าต่อได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
.
เหนือสิ่งอื่นใด พลังป้องกันและความสามารถเชิงป้องกันอย่างมหาศาลของมันก็ดูจะทำให้มันไม่กลัวอะไรเลย ในระดับที่ว่าสัตว์กินเนื้อที่มีน้ำหนักมากกว่าพวกมัน 3-4 เท่าอย่างไฮยีนา ที่มันเองยังต้อง 'เงยหน้าขู่' แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกมีความกลัวเกรงแต่อย่างใด (ดูวิดีโอฮันนีแบดเจอร์ปะทะสัตว์ต่างๆ ได้ที่ https://youtu.be/XbRfdnLKp1Y )
.
แน่นอนว่าพวกสัตว์ล่าเนื้อขนาดใหญ่ เจอสัตว์ตัวเล็กกว่าที่ไร้ความกลัว แถมโจมตีเท่าไหร่ก็ไม่เข้าเนื้อเข้าหนัง มันก็ไม่อยากจะยุ่ง เพราะนี่คือธรรมชาติไม่ใช่สนามประลอง สัตว์ต่างๆ ล้วนล่าเหยื่อที่มันคิดจะกินเท่านั้น ไม่ใช่สู้กันเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง
.
ทั้งหมดนี้ทำให้ฮันนีแบดเจอร์เป็นสัตว์ที่มีสเน่ห์อย่างประหลาด บุคลิกของมันคล้ายกับคนที่ 'โนสน โนแคร์' ต่อคำวิจารณ์ใดๆ และทำให้หลายคนถึงกับยกให้พวกมันเป็น 'สัตว์สัญลักษณ์' (Spirit Animal) ของตัวเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใด การดำรงอยู่ของฮันนีแบดเจอร์ก็ยังย้ำเตือนเราได้ด้วยว่า ถ้าอยากมีชีวิตที่ 'ไร้ความกลัว' เราไม่จำเป็นต้องมีพลังโจมตีมหาศาลใดๆ แค่มีพลังป้องกันระดับบ้าบอจนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่รู้จะเล่นงานยังไง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว
.
แหล่งที่มา : Brandthink / SUS
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1386581163030216&set=a.811136580574680