จะปั้มหัวใจ/ เจาะคอ/ ใส่ท่อไหม … เมื่อหมอถาม น้ำตาลูกก็ไหลทุกคน….หากครอบครัวใดเคยผ่านเหตุการณ์นี้มา จะเข้าใจ

จะปั้มหัวใจ/ เจาะคอ/ ใส่ท่อไหม …
เมื่อหมอถาม น้ำตาลูกก็ไหลทุกคน

ไม่มีใครอยากเห็นภาพพ่อแม่ต้องทุกข์ทรมานอยู่ในห้อง ICU ไม่มีลูกหลานคนไหนอยากตัดสินใจว่าจะ “ทำ” หรือ “ไม่ทำ” หัตถการเหล่านี้

เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องการแพทย์
แต่มันคือ “เส้นแบ่ง” ระหว่างการยื้อชีวิต…
กับการจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี

ในฐานะหมอที่ดูแลผู้สูงวัยในระยะวิกฤติและระยะท้ายชีวิตมาเกิน 10 ปี
หมอขอใช้บทความนี้ ช่วยให้คุณตัดสินใจด้วยความรัก…ที่มีข้อมูลครบถ้วนที่สุด



🌬️ 1. ใส่ท่อช่วยหายใจ (Intubation)

ใช้เมื่อผู้ป่วยหายใจเองไม่ได้ เช่น ปอดอักเสบรุนแรง ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

✅ ข้อดี
• ช่วยชีวิตในภาวะฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• เพิ่มโอกาสให้ร่างกายฟื้นตัวในระยะสั้น
• เหมาะสำหรับภาวะที่ “กลับมาได้” เช่น ติดเชื้อเฉียบพลัน

❌ ข้อเสีย
• ผู้ป่วยพูดไม่ได้ ต้องใช้ยากดประสาทเพื่อให้นอนนิ่ง
• ถ้าเกิน 7–14 วัน ต้อง “เจาะคอ” ต่อ
• อาจเกิดการติดเชื้อในปอด เสี่ยงแผลกดทับหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น

⚠️ คำแนะนำ / ข้อควรระวัง
• ใช้ในระยะสั้นเท่านั้น (ภายใน 1–2 สัปดาห์)
• หากผู้ป่วยไม่ฟื้น อาจต้องพิจารณาหยุดการยื้อ
• ควรหารือกับแพทย์ล่วงหน้าเรื่อง “เป้าหมายการรักษา” (Goals of Care)
• สอบถามใจครอบครัวว่า “หากท่านต้องนอน ICU ต่อแบบไม่ฟื้น จะยอมรับได้ไหม?”



🫁 2. เจาะคอ (Tracheostomy)

มักทำเมื่อใส่ท่อช่วยหายใจเกิน 7–14 วัน หรือจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจถาวร

✅ ข้อดี
• หายใจสะดวกขึ้นกว่าทางปาก
• ดูดเสมหะได้ง่าย ลดอาการระคายคอ
• เหมาะกับผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจระยะยาว

❌ ข้อเสีย
• เป็นแผลถาวรที่คอ ต้องดูแลตลอดชีวิต
• สื่อสารลำบาก ผู้ป่วยหลายคนพูดไม่ได้
• มีโอกาสติดเชื้อสูง โดยเฉพาะหากดูแลไม่ถูกวิธี
• ส่งผลต่อภาพลักษณ์ และสุขภาพจิตของผู้ป่วย

⚠️ คำแนะนำ / ข้อควรระวัง
• ต้องมีผู้ดูแลที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการทำความสะอาดท่อและดูดเสมหะ
• ควรชั่งน้ำหนักระหว่างการ “ยื้อชีวิต” กับ “คุณภาพชีวิต”
• ถามใจตัวเองว่า “หากท่านต้องอยู่กับท่อที่คอตลอดชีวิต ครอบครัวยอมรับได้ไหม?”



❤️ 3. ปั๊มหัวใจ (CPR – Cardiopulmonary Resuscitation)

ใช้เมื่อหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน เช่น หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

✅ ข้อดี
• ในบางกรณี (เช่น คนอายุน้อย หรือโรคเฉียบพลัน) อาจช่วยให้รอดได้
• ถือเป็นการช่วยชีวิตเบื้องต้นตามหลักการแพทย์ฉุกเฉิน

❌ ข้อเสีย
• ในผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยระยะสุดท้าย โอกาสรอดต่ำมาก (ต่ำกว่า 5%)
• หากรอด อาจกลายเป็นผู้ป่วย “ผัก” หรือพิการถาวร
• กระดูกซี่โครงหัก เลือดออกในปอด บาดเจ็บอย่างรุนแรง

📊 ข้อมูลเพิ่มเติม:
• งานวิจัยในผู้ป่วยสูงวัย พบว่ารอดแบบไม่พิการหลัง CPR มีเพียง 2–5%
• มากกว่า 60% ของผู้ที่รอดจากการปั๊มหัวใจ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงหรือมีภาวะสมองเสียหายถาวร

⚠️ คำแนะนำ / ข้อควรระวัง
• ควรมีการเขียน Living Will / Advance Directive ระบุความต้องการไว้ล่วงหน้า
• ต้องพิจารณาว่า “เป้าหมายคือการรอด หรือคุณภาพของการมีชีวิตอยู่?”
• หากท่านกลับมาแบบไม่รู้สึกตัวเลย ครอบครัวพร้อมดูแลระยะยาวจริงหรือไม่?



🕊️ ทางเลือกอื่นที่หลายคนอาจยังไม่รู้…

✨ การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care)

ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการ “ดูแลเต็มที่ในทางที่ไม่ยื้อ” เพื่อให้ผู้ป่วย
“จากไปอย่างมีศักดิ์ศรี – ไม่เจ็บปวด – และอยู่ในที่ที่เขารัก”

✅ เหมาะกับผู้ที่…
• เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
• โรคหัวใจ/ปอด/ไตเรื้อรัง
• โรคสมองเสื่อมขั้นรุนแรง
• ผู้สูงวัยที่ร่างกายทรุดลงแบบไม่สามารถฟื้นกลับมาได้

⚠️ ข้อควรเข้าใจ
• การ “ไม่ใส่ท่อ ไม่เจาะคอ ไม่ปั๊มหัวใจ” ไม่ใช่การทอดทิ้ง
• แต่คือการเคารพการจากไปอย่างสงบของผู้เป็นที่รัก
• เน้นการให้ยาเพื่อควบคุมอาการ เช่น หอบ เหนื่อย เจ็บ ปวด ไม่ให้ทุกข์ทรมาน



❤️ สรุปใจความสำคัญ:

คุณไม่ได้เลือกว่า “จะให้รอด” หรือ “จะให้ตาย”
แต่คุณกำลังเลือกว่า “ท่านจะอยู่แบบไหน” ในช่วงเวลาสุดท้าย

✨ ไม่มีคำตอบไหนที่ผิด

หากมันเกิดจาก
• ความรัก
• ความเข้าใจ
• และข้อมูลที่ครบถ้วน

ขอส่งกำลังใจให้ทุกครอบครัวที่ต้องตัดสินใจในเรื่องยากนี้
หมอเข้าใจ และพร้อมอยู่เคียงข้างเสมอครับ

ด้วยรัก

นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ (หมอเก่ง)
อายุรแพทย์
โรงพยาบาลผู้สูงอายุและศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู Chersery Home International


CR https://www.facebook.com/share/1DQF54Si35/?mibextid=wwXIfr
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่