“ผมเริ่มคุยกับทางทีม (เดอะคิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย) ว่า ทีมเซลล์ไม่ควรเกิน 50 ปี เพราะเมื่ออายุ 58-59 ปี หากต้องปิดยอดขายอีก 2 ปีก่อนเกษียณ พลังจะไม่เหมือนเดิม”
— ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
ผ่ามุมมอง 3 แม่ทัพธุรกิจแสนล้าน สร้างสมดุลบริหาร ‘คนรุ่นใหม่-วัยเกษียณมา
ช่วง 2-3 ปีมานี้ หนึ่งในเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นบนสังเวียนธุรกิจ คือ การ “ปลดพนักงานครั้งใหญ่” หรือ เลย์ออฟทั่วโลก ที่เป็นผลกระทบจากหลากตัวแปร ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว กระทบการเติบโต การมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่ก้าวหน้ามากขึ้น และแทนที่การทำงานบางอย่างของมนุษย์ อีกทั้งความแตกต่างของเจนเนอเรชัน เป็นอีกเรื่องที่โลกการทำงาน องค์กรต้องเจอ
กลับมามองประเทศไทย กระแสแรง คือ การเกษียณทำงานในวัย 45 ปี ที่ผู้นำองค์กรมีความเห็นหลากหลายทั้งมองภาพใหญ่ ประเทศไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เอื้อต่อคนมีงานทำ การเกษียณเร็วอาจเป็น “บรรทัดฐานใหม่” ของการจ้างงาน หรือแม้กระทั่งนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ (ครีเอเตอร์) หันมาทำคอนเทนต์เต็มเวลา (Full-time content creators) มากขึ้น โดยเฉพาะ “วัย 45-50 ปี” เจอเลิกจ้าง ตกงาน จนต้องหาอาชีพอิสระเป็น “ครีเอเตอร์” ทางเลือกแรกๆ
กรุงเทพธุรกิจ สัมภาษณ์ และรวบรวมข้อมูลจาก “ผู้นำองค์กรแสนล้านบาท” เกี่ยวกับมุมมองด้านคน เริ่มจาก “ไทยเบฟ” ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มของอาเซียน รายได้ระดับ “แสนล้านบาท” มีพนักงาน 6.5 หมื่นคน ขับเคลื่อนองค์กร
ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งผ่านพ้นงานเลี้ยงเกษียณของคนทำงานในองค์กร มองว่าทุกคนล้วนทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยและเข้มแข็ง เชื่อว่ายังสร้างประโยชน์ให้ไทยเบฟเพื่อคว้าโอกาสให้เกิดกับธุรกิจมาโดยตลอด
มุมมองต่อการเกษียณวัย 45 ปี ในเครือไทยเบฟ มีให้เกษียณ 55 ปี มีแนวปฏิบัติมาช้านาน โดยอยู่ในกลุ่มร้านอาหาร “เคเอฟซี” ภายใต้บริษัท เดอะคิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด(QSA)
“ผมเริ่มคุยกับทางทีมว่า ทีมเซลล์ไม่ควรเกิน 50 ปี เพราะเมื่ออายุ 58-59 ปี หากต้องปิดยอดขายอีก 2 ปีก่อนเกษียณ พลังจะไม่เหมือนเดิม”
บริบทการทำงานยังเปลี่ยน นับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด เมื่อพฤติกรรมผู้คนทั้งโลกเปลี่ยน เป็นห่วงสุขภาพ และหาความสมดุลในชีวิต การทำงาน สังคม มากขึ้น ส่วนคนรุ่นใหม่ วัย 20 ปีต้นๆ หรือวัย 30 ปีกลาง มีความพร้อมอยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จึงพร้อมทุ่มเททำงาน ช่วยทีมมากขึ้น พันธกิจขององค์กรจึงต้องหาสมดุลให้เจอ
“คนมีแรงแต่ประสบการณ์น้อย เดี๋ยวจะผิดพลาด คนมีประสบการณ์มาก แต่แรงน้อย เหมือนทำงานผลลัพธ์ หรือ outcome จะออกมายากที่จะประสบความสำเร็จ การบาลานซ์สำคัญ ขึ้นกับบรรยากาศองค์กรด้วย”
ฐาปน เข้ามาขับเคลื่อนองค์กรช่วยบิดา (เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี) กว่า 2 ทศวรรษ เจอทั้งผู้ใหญ่วัย 50 ปีปลายๆ ไปจนถึง 70 ปีต้นๆ ที่เป็นทั้งรุ่นบิดา รุ่นพี่บิดา รวมถึงรุ่นเดียวกันและรุ่นน้อง ที่ขับเคลื่อนองค์กรและปรับเปลี่ยนไปตามวัฒนธรรมองค์กรเพื่อสร้างโอกาสดำเนินธุรกิจโดยไม่จำกัดอายุ
“ไม่ได้บอกว่าอายุน้อยเก่งกว่า หรืออายุมากหมดความหมาย แต่อยู่ที่งานและการสร้างสมดุลที่ดี เพราะค่านิยมองค์กรต้องปรับเปลี่ยนด้วยคน งานสำเร็จได้เพราะคน เดือดร้อนเพราะคน เสียหายเพราะคน รวมพลังได้ง่าย ทำงานได้ง่ายเพราะคนทั้งสิ้น”
ไทยเบฟ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรทั้งเพิ่มทักษะ (Upskill) เรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) รวมถึงสร้างโอกาสในการเติบโตบนเส้นทางอาชีพการงานแบบไร้ขีดจำกัด (Limitless Opportunities) ทว่า การทำงานโลกอนาคต “ฐาปน” เคยกล่าวกับน้องๆ ระดับอุดมศึกษาให้มองและทำความเข้าใจภาพรวมธุรกิจ (Holistic view) ไม่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะอาจเสียเปรียบ เนื่องจากไม่สามารถบริหารจัดการแก้ไขได้รอบด้าน และมอง 360 องศาไม่พอ อาจต้องกลับหัวคิดเป็น 720 องศาด้วย
“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เราสามารถปรับตัวได้อย่างไร ทั้งโอกาสธุรกิจ การบริหารจัดการด้านการเงิน และการจัดการเรื่องบุคคล”
เครือสหพัฒน์องค์กรเก่าแก่สร้างรายได้ “แสนล้านบาท” มีพนักงานในเครือกว่า 1 แสนชีวิต มีเหล่าทายาทเคลื่อนอาณาจักร หนึ่งในนั้น ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด(มหาชน) เผยมุมมองต่อการจ้างงานในภาพใหญ่ว่า บริบททุกอย่างเป็นไปตามสถานการณ์โลก
“การจ้างงานเพิ่มหรือลดลง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด บางช่วงหากมีงานมาก จะจ้างคนเพิ่ม แต่หากปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ต่างๆ การจ้างคนอาจน้อยลง จึงไม่มองการเลย์ออฟ เกษียณอายุเร็วเป็นเรื่องใหญ่โต การที่คนเข้าออกในโลกการทำงานเป็นเรื่องปกติมากบ้างน้อยบ้างขึ้นกับช่วงเวลา”
ปัจจุบันเทคโนโลยีเอไอ ทรงพลังอย่างยิ่ง และบ้างคาดการณ์จะมาเป็น “ผู้ช่วย” ในการทำงาน อีกด้านถูกมอง “ทดแทนคน” ในฐานะผู้นำองค์กร เห็นว่าแต่ละบริษัทมีโจทย์แตกต่างกัน บ้างใช้เอไอแทนคน บ้างก็ไม่ได้ทดแทน ขึ้นอยู่กับชนิดของเอไอ ซึ่งไม่แตกต่างจ้างใช้คน ส่วนแรงกดดันเทคโนโลยี ต้นทุนธุรกิจ แต่ละองค์กรก็คิดแตกต่าง รวมถึงสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย อาจมีผลต่อจ้างงานลด หรือชะลอได้
ทั้งนี้ เกษียณเร็วในวัย 45 ปี จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ หรือเขย่าโลกการจ้างงานหรือไม่ “ธรรมรัตน์” บอกว่า การเกษียณทำงานไม่เกี่ยวกับอายุ แต่ขึ้นกับทักษะ ความรู้ ความสามารถ สกิลต่างๆ เป็นสำคัญ
“บางคนอายุ 80-90 ปี ยังทำงานอยู่ ถ้าคนไม่มีสกิล ไม่มีความรู้ อายุ 20 อาจไม่ทำงาน สกิลต้องมี และขึ้นอยู่กับงานแต่ละระดับเช่น ผู้บริหารต้องการทักษะใด”
กลุ่มเซ็นทรัล ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกรายได้ระดับ“แสนล้านบาท” มีพนักงานทั่วโลกกว่า 1 แสนคน ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ให้มุมมองเรื่อง “คน” ผ่านบทสนทนา “ถอดบัญญัติธรรมนูญ ‘จิราธิวัฒน์’ ไม่มีวิกฤติใดที่ฝ่าไปไม่ได้”
มุมมองเรื่อง “คนรุ่นใหม่-คนรุ่นเก่า” ในเรื่องการชอปปิง คนรุ่นใหม่กล้าใช้เงิน กล้ากิน เที่ยว ใช้ของดีมากขึ้น ซึ่งดีต่อภาคธุรกิจ หลังโควิด-19 ระบาด หนุนคนรุ่นเก่าให้กล้าใช้เงินมากขึ้นเช่นกัน “คนแก่กล้าใช้เงินมากขึ้นตั้งแต่หลังโควิด เพราะไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ตอนนี้จึงใช้เงินกันมากเลย”
ต่อการทำงานของคนรุ่นใหม่ ชื่นชมความรู้ความสามารถ และเก่งกันมากขึ้น พร้อมยกตัวอย่างลูกชายที่ตั้งบริษัทในวัย 20 กว่าปี และเจอพันธมิตรคู่ค้าผ่านออนไลน์โดยไม่ต้องเจอตัวจริง ส่วนทีมงานอยู่ต่างถิ่นทั้งอินเดีย ตุรกี “ขายสินค้า recruit คนผ่านออนไลน์ ซึ่งผมยังทำไม่ได้เลย”
“ทศ” เชื่อมั่นคนไทยเก่งอยู่แล้ว แต่ยุคนี้จะดียิ่งขึ้นหากมีความรู้ความสามารถด้าน “ภาษา” ที่ 2-3 ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน "ต้องคล่องพูด อ่านได้ 2 ภาษานี้ไม่รู้ไม่ได้ ถ้ารู้จะไปได้ไกล คนรู้ภาษากับไม่รู้ต่างกันมาก การรู้ภาษา ยังมีเทคโนโลยีที่เอื้อให้ศึกษา รับรู้ข้อมูลทั่วโลกได้ ความรู้กว้างสำคัญ เพราะจะทำงานได้ดีขึ้น”
สิ่งที่แนะนำคนรุ่นใหม่ในโลกการทำงาน ควรใส่ใจเนื้องานตัวเองให้มากสุด ทำอย่างไรให้องค์กรดีขึ้น ควรมีทัศนคติที่ทำได้ หรือ can do attitude ไม่ใช่ทำไม่ได้ เพราะอาจเป็นปัญหา อย่ากังวลเรื่องเงิน เพื่อสร้างความมั่นคงในหน้าที่การงานระยะยาว และประโยชน์จะมาในภายหลัง
“หากมองระยะสั้น เปลี่ยนงานไปมา สุดท้ายได้เห็นเด็กหลายคนจะติดตอนอายุ 40 ปี แล้วจะไม่มีใครเอา ดังนั้น ช่วง 20-30 ปีการทำงานอย่า worry เรื่องเงิน ใส่ใจเนื้องานให้มากสุด ทำงาน เข้ากับคนให้ได้ ทำงานเป็นทีม เป็นผู้ร่วมงานที่ดี เพื่อให้คนชอบทำงานด้วย จะแฮปปี้และสำเร็จตอนจบ แต่ถ้าเรามัวคิดแต่เอาประโยชน์วันนี้ ย้าย เปลี่ยนงานไปมา เลือกทำแต่งานที่ชอบ เลือกตามใจตัวเอง ความสำเร็จสุดท้ายจะติดที่ช่วง 40-60 ปี”
CR
https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1202959
“ทีมเซลล์ไม่ควรเกิน 50 ปี เพราะเมื่ออายุ 58-59 ปี หากต้องปิดยอดขายอีก 2 ปีก่อนเกษียณ พลังจะไม่เหมือนเดิม”คุณฐาปน ไทยเบฟ
— ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
ผ่ามุมมอง 3 แม่ทัพธุรกิจแสนล้าน สร้างสมดุลบริหาร ‘คนรุ่นใหม่-วัยเกษียณมา
ช่วง 2-3 ปีมานี้ หนึ่งในเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นบนสังเวียนธุรกิจ คือ การ “ปลดพนักงานครั้งใหญ่” หรือ เลย์ออฟทั่วโลก ที่เป็นผลกระทบจากหลากตัวแปร ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว กระทบการเติบโต การมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่ก้าวหน้ามากขึ้น และแทนที่การทำงานบางอย่างของมนุษย์ อีกทั้งความแตกต่างของเจนเนอเรชัน เป็นอีกเรื่องที่โลกการทำงาน องค์กรต้องเจอ
กลับมามองประเทศไทย กระแสแรง คือ การเกษียณทำงานในวัย 45 ปี ที่ผู้นำองค์กรมีความเห็นหลากหลายทั้งมองภาพใหญ่ ประเทศไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เอื้อต่อคนมีงานทำ การเกษียณเร็วอาจเป็น “บรรทัดฐานใหม่” ของการจ้างงาน หรือแม้กระทั่งนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ (ครีเอเตอร์) หันมาทำคอนเทนต์เต็มเวลา (Full-time content creators) มากขึ้น โดยเฉพาะ “วัย 45-50 ปี” เจอเลิกจ้าง ตกงาน จนต้องหาอาชีพอิสระเป็น “ครีเอเตอร์” ทางเลือกแรกๆ
กรุงเทพธุรกิจ สัมภาษณ์ และรวบรวมข้อมูลจาก “ผู้นำองค์กรแสนล้านบาท” เกี่ยวกับมุมมองด้านคน เริ่มจาก “ไทยเบฟ” ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มของอาเซียน รายได้ระดับ “แสนล้านบาท” มีพนักงาน 6.5 หมื่นคน ขับเคลื่อนองค์กร
ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งผ่านพ้นงานเลี้ยงเกษียณของคนทำงานในองค์กร มองว่าทุกคนล้วนทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยและเข้มแข็ง เชื่อว่ายังสร้างประโยชน์ให้ไทยเบฟเพื่อคว้าโอกาสให้เกิดกับธุรกิจมาโดยตลอด
มุมมองต่อการเกษียณวัย 45 ปี ในเครือไทยเบฟ มีให้เกษียณ 55 ปี มีแนวปฏิบัติมาช้านาน โดยอยู่ในกลุ่มร้านอาหาร “เคเอฟซี” ภายใต้บริษัท เดอะคิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด(QSA)
“ผมเริ่มคุยกับทางทีมว่า ทีมเซลล์ไม่ควรเกิน 50 ปี เพราะเมื่ออายุ 58-59 ปี หากต้องปิดยอดขายอีก 2 ปีก่อนเกษียณ พลังจะไม่เหมือนเดิม”
บริบทการทำงานยังเปลี่ยน นับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด เมื่อพฤติกรรมผู้คนทั้งโลกเปลี่ยน เป็นห่วงสุขภาพ และหาความสมดุลในชีวิต การทำงาน สังคม มากขึ้น ส่วนคนรุ่นใหม่ วัย 20 ปีต้นๆ หรือวัย 30 ปีกลาง มีความพร้อมอยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จึงพร้อมทุ่มเททำงาน ช่วยทีมมากขึ้น พันธกิจขององค์กรจึงต้องหาสมดุลให้เจอ
“คนมีแรงแต่ประสบการณ์น้อย เดี๋ยวจะผิดพลาด คนมีประสบการณ์มาก แต่แรงน้อย เหมือนทำงานผลลัพธ์ หรือ outcome จะออกมายากที่จะประสบความสำเร็จ การบาลานซ์สำคัญ ขึ้นกับบรรยากาศองค์กรด้วย”
ฐาปน เข้ามาขับเคลื่อนองค์กรช่วยบิดา (เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี) กว่า 2 ทศวรรษ เจอทั้งผู้ใหญ่วัย 50 ปีปลายๆ ไปจนถึง 70 ปีต้นๆ ที่เป็นทั้งรุ่นบิดา รุ่นพี่บิดา รวมถึงรุ่นเดียวกันและรุ่นน้อง ที่ขับเคลื่อนองค์กรและปรับเปลี่ยนไปตามวัฒนธรรมองค์กรเพื่อสร้างโอกาสดำเนินธุรกิจโดยไม่จำกัดอายุ
“ไม่ได้บอกว่าอายุน้อยเก่งกว่า หรืออายุมากหมดความหมาย แต่อยู่ที่งานและการสร้างสมดุลที่ดี เพราะค่านิยมองค์กรต้องปรับเปลี่ยนด้วยคน งานสำเร็จได้เพราะคน เดือดร้อนเพราะคน เสียหายเพราะคน รวมพลังได้ง่าย ทำงานได้ง่ายเพราะคนทั้งสิ้น”
ไทยเบฟ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรทั้งเพิ่มทักษะ (Upskill) เรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) รวมถึงสร้างโอกาสในการเติบโตบนเส้นทางอาชีพการงานแบบไร้ขีดจำกัด (Limitless Opportunities) ทว่า การทำงานโลกอนาคต “ฐาปน” เคยกล่าวกับน้องๆ ระดับอุดมศึกษาให้มองและทำความเข้าใจภาพรวมธุรกิจ (Holistic view) ไม่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะอาจเสียเปรียบ เนื่องจากไม่สามารถบริหารจัดการแก้ไขได้รอบด้าน และมอง 360 องศาไม่พอ อาจต้องกลับหัวคิดเป็น 720 องศาด้วย
“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เราสามารถปรับตัวได้อย่างไร ทั้งโอกาสธุรกิจ การบริหารจัดการด้านการเงิน และการจัดการเรื่องบุคคล”
เครือสหพัฒน์องค์กรเก่าแก่สร้างรายได้ “แสนล้านบาท” มีพนักงานในเครือกว่า 1 แสนชีวิต มีเหล่าทายาทเคลื่อนอาณาจักร หนึ่งในนั้น ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด(มหาชน) เผยมุมมองต่อการจ้างงานในภาพใหญ่ว่า บริบททุกอย่างเป็นไปตามสถานการณ์โลก
“การจ้างงานเพิ่มหรือลดลง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด บางช่วงหากมีงานมาก จะจ้างคนเพิ่ม แต่หากปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ต่างๆ การจ้างคนอาจน้อยลง จึงไม่มองการเลย์ออฟ เกษียณอายุเร็วเป็นเรื่องใหญ่โต การที่คนเข้าออกในโลกการทำงานเป็นเรื่องปกติมากบ้างน้อยบ้างขึ้นกับช่วงเวลา”
ปัจจุบันเทคโนโลยีเอไอ ทรงพลังอย่างยิ่ง และบ้างคาดการณ์จะมาเป็น “ผู้ช่วย” ในการทำงาน อีกด้านถูกมอง “ทดแทนคน” ในฐานะผู้นำองค์กร เห็นว่าแต่ละบริษัทมีโจทย์แตกต่างกัน บ้างใช้เอไอแทนคน บ้างก็ไม่ได้ทดแทน ขึ้นอยู่กับชนิดของเอไอ ซึ่งไม่แตกต่างจ้างใช้คน ส่วนแรงกดดันเทคโนโลยี ต้นทุนธุรกิจ แต่ละองค์กรก็คิดแตกต่าง รวมถึงสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย อาจมีผลต่อจ้างงานลด หรือชะลอได้
ทั้งนี้ เกษียณเร็วในวัย 45 ปี จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ หรือเขย่าโลกการจ้างงานหรือไม่ “ธรรมรัตน์” บอกว่า การเกษียณทำงานไม่เกี่ยวกับอายุ แต่ขึ้นกับทักษะ ความรู้ ความสามารถ สกิลต่างๆ เป็นสำคัญ
“บางคนอายุ 80-90 ปี ยังทำงานอยู่ ถ้าคนไม่มีสกิล ไม่มีความรู้ อายุ 20 อาจไม่ทำงาน สกิลต้องมี และขึ้นอยู่กับงานแต่ละระดับเช่น ผู้บริหารต้องการทักษะใด”
กลุ่มเซ็นทรัล ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกรายได้ระดับ“แสนล้านบาท” มีพนักงานทั่วโลกกว่า 1 แสนคน ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ให้มุมมองเรื่อง “คน” ผ่านบทสนทนา “ถอดบัญญัติธรรมนูญ ‘จิราธิวัฒน์’ ไม่มีวิกฤติใดที่ฝ่าไปไม่ได้”
มุมมองเรื่อง “คนรุ่นใหม่-คนรุ่นเก่า” ในเรื่องการชอปปิง คนรุ่นใหม่กล้าใช้เงิน กล้ากิน เที่ยว ใช้ของดีมากขึ้น ซึ่งดีต่อภาคธุรกิจ หลังโควิด-19 ระบาด หนุนคนรุ่นเก่าให้กล้าใช้เงินมากขึ้นเช่นกัน “คนแก่กล้าใช้เงินมากขึ้นตั้งแต่หลังโควิด เพราะไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ตอนนี้จึงใช้เงินกันมากเลย”
ต่อการทำงานของคนรุ่นใหม่ ชื่นชมความรู้ความสามารถ และเก่งกันมากขึ้น พร้อมยกตัวอย่างลูกชายที่ตั้งบริษัทในวัย 20 กว่าปี และเจอพันธมิตรคู่ค้าผ่านออนไลน์โดยไม่ต้องเจอตัวจริง ส่วนทีมงานอยู่ต่างถิ่นทั้งอินเดีย ตุรกี “ขายสินค้า recruit คนผ่านออนไลน์ ซึ่งผมยังทำไม่ได้เลย”
“ทศ” เชื่อมั่นคนไทยเก่งอยู่แล้ว แต่ยุคนี้จะดียิ่งขึ้นหากมีความรู้ความสามารถด้าน “ภาษา” ที่ 2-3 ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน "ต้องคล่องพูด อ่านได้ 2 ภาษานี้ไม่รู้ไม่ได้ ถ้ารู้จะไปได้ไกล คนรู้ภาษากับไม่รู้ต่างกันมาก การรู้ภาษา ยังมีเทคโนโลยีที่เอื้อให้ศึกษา รับรู้ข้อมูลทั่วโลกได้ ความรู้กว้างสำคัญ เพราะจะทำงานได้ดีขึ้น”
สิ่งที่แนะนำคนรุ่นใหม่ในโลกการทำงาน ควรใส่ใจเนื้องานตัวเองให้มากสุด ทำอย่างไรให้องค์กรดีขึ้น ควรมีทัศนคติที่ทำได้ หรือ can do attitude ไม่ใช่ทำไม่ได้ เพราะอาจเป็นปัญหา อย่ากังวลเรื่องเงิน เพื่อสร้างความมั่นคงในหน้าที่การงานระยะยาว และประโยชน์จะมาในภายหลัง
“หากมองระยะสั้น เปลี่ยนงานไปมา สุดท้ายได้เห็นเด็กหลายคนจะติดตอนอายุ 40 ปี แล้วจะไม่มีใครเอา ดังนั้น ช่วง 20-30 ปีการทำงานอย่า worry เรื่องเงิน ใส่ใจเนื้องานให้มากสุด ทำงาน เข้ากับคนให้ได้ ทำงานเป็นทีม เป็นผู้ร่วมงานที่ดี เพื่อให้คนชอบทำงานด้วย จะแฮปปี้และสำเร็จตอนจบ แต่ถ้าเรามัวคิดแต่เอาประโยชน์วันนี้ ย้าย เปลี่ยนงานไปมา เลือกทำแต่งานที่ชอบ เลือกตามใจตัวเอง ความสำเร็จสุดท้ายจะติดที่ช่วง 40-60 ปี”
CR https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1202959