คุณกันจอมพลังควรดำเนินการทางจิตวิทยาต่อไปจนกว่าจะได้ดินแดนไทยทั้งหมดคืนมา

สงครามมักมาพร้อมกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากมาย ซึ่งปรากฏให้เห็นในรูปแบบต่างๆ ตลอดช่วงความขัดแย้ง การละเมิดเหล่านี้อาจรวมถึงการสังหารนอกกฎหมาย การทรมาน และการคุมขังโดยพลการ ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายสิทธิขั้นพื้นฐานของปัจเจกบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ ลักษณะของสงครามยิ่งทำให้การละเมิดเหล่านี้รุนแรงขึ้น เนื่องจากทั้งรัฐและองค์กรที่ไม่ใช่รัฐมักมองข้ามหรือเพิกเฉยต่อหลักการมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง

1. ความรุนแรงทางเพศเป็นการละเมิดที่ร้ายแรง อีกประเภทหนึ่งในช่วงความขัดแย้งทางอาวุธ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้หญิงและเด็กหญิงอย่างไม่สมส่วนการข่มขืนและการค้าทาสทางเพศกลายเป็นเครื่องมือของสงคราม พยายามทำลายขวัญกำลังใจของศัตรูและใช้อำนาจเหนือประชากรกลุ่มเปราะบาง การ กระทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่ห้ามความรุนแรงบนพื้นฐานทางเพศในสงครามอีกด้วย

2. การโจมตีโดยเจตนาต่อผู้ที่ไม่ใช่ผู้สู้รบและการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน เช่น โรงพยาบาลและโรงเรียน ล้วนซ้ำเติมวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม การกระทำเหล่านี้ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความเสียหายในทันที แต่ยังส่งผลกระทบในระยะยาวต่อเสถียรภาพและการพัฒนาของสังคมอีกด้วย

3. ปฏิบัติการทางทหารและความขัดแย้งทางอาวุธนำไปสู่การอพยพโดยถูกบังคับ ก่อให้เกิดผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศหลายล้านคนประชากรเหล่านี้มักเผชิญกับความเสี่ยงเพิ่มเติม รวมถึงความรุนแรง การถูกเอารัดเอาเปรียบ และการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานที่ไม่เพียงพอซึ่งตอกย้ำถึงผลกระทบอันเลวร้ายของสงครามและการละเมิดสิทธิมนุษยชน

นางอังคณา นีละไมจิตร สว.และนายสุณัย ผาสุข อาจจะขาดขาดความตระหนักรู้ถึงความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับความแตกต่างของผลกระทบของอาวุธเสียง ระหว่าง Sonic Boomกับการใช้อาวุธเสียงดังระยะสั้น นักสิทธิมนุษยชนของไทยทั้งสองคนนี้จะต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงของชาติมากกว่าการปฏิบัติตามบรรทัดฐานระหว่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะดูไม่เป็นสุภาพบุรุษโลกสวยก็ตาม ทั้งนี้เพราะว่าสิ่งสำตัญที่สุดเราจะต้องรักษาอธิปไตยของชาติไทยไว้ก่อนอื่น  และเขาทั้งสองจะต้องเข้าใจว่าการใช้เสียงดังในระยะส้นอย่างที่คุณกันจอมพลังกระทำอยู่ มันไม่เป็นอันตราย ต่อสุขภาพอย่างเช่น Sonic Boom

ดังนั้นการใช้เสียงของคุณกันจอมพลังที่กำลังปฏิบัติการอยู่นี้จึงสามารถให้ข้อได้เปรียบทางยุทธวิธีในการควบคุมฝูงชนและการปะทะที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต และอีกประการหนึ่ง เนื่องจากการจำแนกเสียงในฐานะอาวุธอาจคลุมเครือ ประเทศที่ใช้เสียงเป็นอาวุธในระยะสั้นเช่นนี้จึงใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายและทำให้กฎหมายระหว่างประเทศที่ต่อต้านอาวุธเสียง ไม่อาจจะถูกบังคับใช้ได้อย่างเคร่งครัด จึงทำให้ประเทศต่างๆในปัจจุบันใช้อาวุธเสียงทางจิตวิทยาทำสงครามต่อกัน

สงครามจิตวิทยามักถูกใช้เพื่อโน้มน้าวขวัญกำลังใจและการตัดสินใจของศัตรูก็จริง แต่การกระทำของคุณกันจอมพลังไม่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาชวนเชื่อเขาให้ข้อความและเรื่องราวตามประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องและไม่ใช่ข้อมูลที่บิดเบือน ไม่ได้สร้างความสับสน หรือความหวาดกลัวจนเกินความสนุกสนาน ใช้ความถูกต้องตามกฎหมายตามบริบทของความเป็นจริง ถูกกับกฎหมายเฉพาะของประเทศที่เกี่ยวข้องคือประเทศไทยกับประเทศเขมร

ดังนั้นเท่าที่ คุณกันจอมพลังใช้อาวุทธเสียงและทำสงครามจิตวิทยากับเขมรในขณะนี้ จึงไม่ขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาเจนีวา  มันเป็นการปฏิบัติการทางจิตวิทยาที่ดำเนินการที่มุ่งเป้าไปที่เป็นการโน้มน้าวอารมณ์แรงจูงใจชาวเขมร ที่อาศัยอยู่ในดินแดนไทยให้ออกไปจากดินแดนที่เป็นอธิปไตยของไทย โดยการใช้เหตุผลเพื่อส่งเสริมอุดมการณ์หรือมุมมองทางการเมืองที่ถูกต้อง