มีวิธีไหนแก้ไขได้บ้าง ใครจะรับผิดชอบ

มีเรื่องสงสัย ใครพอช่วยได้บ้างเรื่องมีอยู่ว่า เราทำประกันชีวิตกับกรุงไทยแอคซ่า สมาทโปร 12pl ELI คุ้มครองปึ พ.ศ.2555 เราก็ส่งประกันมาตลอดไม่เคยขาด จนมาปี พ.ศ.257-2558 ประมารนี้ เราเริ่มป่วยมีอาการตัวบวมน้ำ เหนื่อยมากเดิน5-6 ก้าวก็ต้องนั่งพัก เดินขึ้นบันไดบ้านชั้น2ก็ต้องนั่งพัก นอนราบไม่ได้ ในระยะ7 วันน้ำหนักจาก52-23 กก.เพิ่มเป็น65 กก เราไปหาหมอใน รพ.ประจำอำเภอ หมอได้เขียนใบส่งตัวให้ไปรักษาต่อ รพ.อื่น เราจึงเลือกไปรักษาที่ รพ.ทหารแห่งหนึ่งในลพบุรี เพราะหมอที่นี่เก่งมากๆ เป็นระดับอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์. และก็ไม่ผิดหวัง พอไปถึงหมอย้ายเราไปแผนกฉุกเฉินทันที และหมอพาเราเดินจากห้องตรวจชั้น2 ลงมาห้องฉุกเฉินชั้น1(ตึกเก่า)เราก็งงมีลิฟมีรถนั่งทำมัยหมอพาคนไข้เดิน? มาถึงห้องฉุกเฉินเราแทบตายหายใจไม่ทัน หอบตัวโยน หมอรีบหาที่นั่งให้พัก พอเริ่มหายเหนื่อยพอทำอัลตร้าซาว ในท้องมีน้ำเต็ม แต่หมอไม่เจอะท้อง และหมอก็ตรวจอะไรหลายๆอย่างเพิ่ม จนหมอเดินมาบอกว่าให้นอน รพ.หมอให้กินยาขับปัสวะ ท้องเริ่มยุบลง และหมอให้ทำ เอกซเรย์คอมพิ้วเตอร์ ผลคือ เป็น ความดันเส้นเลือดในปอดสูง และหมอให้ทำเอคโค่หัวใจ จึงสรุปได้ว่า เราป่วยเป็น ความดันเส้นเลือดในปอดสูงทำให้หัวใจห้องขวาด้านล่างโต ส่งผลให้ลิ้นหัวใจรั่ว หมอบอกจริงๆต้องผ่าตัดลิ้นหัวใจ แต่ตอนที่ตรวจเจอคนไข้อายุยังไม่มากถ้านับก็31-32 ปี บวกกับลิ้นหัวใจรั่วไม่มาก รึอาจเป็นดุลพินิจของหมอก็ตามแต่.สรุปเราได้นอน รพ. 1 อาทิตย์ หมอให้กลับบ้านให้ยามาทาง มียายำรุ่งหัวใจ2 ตัวยาขับปัสวะ ยายำรุงร่างกาย และนัดตรวจซ้ำอีก1เดือน อาการเหนื่อยยังมีมากเหมือนเดิม ตัวยังบวมนิดหน่อยมารู้อีกทีหมอไม่ได้ให้ยาแก้ความดันเส้นเลือดในปอดสูงไปด้วย เพราะตอนนั้นยาตัวนี้ยังไม่มี เป็นยานอกกลม ต้องสั่งและรอยานานเป็นเดือน หมดดูอาการแล้วจำเป็นต้องกินยานี้จริงๆ เราเลยรักษาอาการป่วยกับ รพ.ต่อเนีองมาตลอดไม่มีผิดนัดไม่มีขาดยา จนผ่านมาจนถึงปี พ.ศ.2563-64 ประมาณนี้ถ้าจำไม่ผิด เราได้ตรวจสุขภาพประจำปีกับที่ทำงาน เขาถามว่าเราป่วยหรอเป็นโรคอะไร เราก็บอกเขาไป เขาเลยบอกเราว่าโรคที่เราเป็น มันเป็นกลุ่ม5โรคร้ายแรงนะ สามารถเคลมประกันได้ เขาเป็นตัวแทนขายประกันแต่ไม่ใช่คนขายให้เรา เขาเลยแนะนำให้เราเดินเรื่องเคลมประกัน ลืมบอกคะหลังจากออกจาก รพ.ก็จอใบรับรองแพทย์เพื่อเบิกค่านอน ได้คืนละ1000 บาท ก็ดำเนินการผ่านตัวแทนขายประกันนั่นแหละ ในใบแพทย์ก็น่าจะเขียนชัดเจนนะว่าเราป่วยอะไร แต่นางไม่แนะนำอะไรเราเลย ตัวเราก็งูๆปลาๆไม่รู้เรีองประกันอะไร รู้แต่ว่าเบิกค่านอน คุ้มครองตลอดชีวิต และมีเงินปัญผล แค่นั้น..ต่อจากเดินเรื่องจะเคลมประกันนะคะ เราได้มาหาหมอตามนัดปกติ และได้ขอประวัติการรักษ◌าย้อนหลังที่มีการนอน รพ.และทำการตรวจรักษาวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคนี้จริง คำตอบที่ได้จากแผนกเวชระเบียนคือ ประวัติการนอน รพ.และตรวจเจอ โดนทำรายไปหมดแล้ว จะมีก็แต่ประวัติการนัดมาตรวจซ้ำและรับยา แต่เราก็เอานะถึงจะมีแค่นั้นก็เอาไปยื่นเคลมประกัน สุดท้ายประกันก็ปฎิเศษการเคลมกลับมา เพราะมันมีแค่ประวัติผู้ป่วยนอก ไม่ได้มีประวัติผู้ป่วยในและการรักษาเจอโรคนี้เราก็ท้อ และไม่คิดจะเคลมประกันอีก จนมาเจอน้องตัวแทนจะมาขายประกันเราเลยปรึกษาน้องใหม่ ว่าจะถอนประกันเพราะเคลมประกันไม่ได้ น้องเลยแนะนำให้ยื้นเรื่องใหม่ แต่รอบนี้เราได้ขาดการรักษาข◌าดการับยามา2ปี สาเหตุเพราะสิทธิ์การรักษาของเรามันเด้งไปเป็นบัตรทอง ถ้าไปหาหมอจ่ายค่ารักษาเป็นหมื่น เราเลยเอาตัวอย่างยาไปที่กินไปซื้อยาตามร้านกินแทน ซึ่งยาบางตัวไม่มีแต่จะมีตัวยาคล้ายๆกัน เราก็เลยเริ่มจากการไปหาหมอประจำอำเภอด้วยอาการเหนื่อยหอบ เจ็บปอดเจ็บหัวใจจี๊ดๆ หมอให้ทำเอกซเรคอมพิ้วเตอร์และเขียนใบส่งตัวเข้าไปรักษา รพ.ประจำจังหวัดลพบุรีเพื่อรับยาและรักษาต่อ ไปถึงตามนัดหมอทำแอคโค่หัวใจ หมอพูดว่าวันนี้ตรวจคนไข้มา10กว่าคน คนนี้อาการหนักที่สุด แต่ที่ รพ.ไม่มียารักษาโรคนี้ และหมอก็เขียนใบรับรองการป่วย เพื่อให้ไปหา รพ.ที่มียาให้รักษาต่อ เราจึงก็อปปี้เอกสารที่ได้ทั้งหมด ส่งเคลมประกันใหม่อีกครั้ง และเมื่อวาน14/10/68 มีเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า ประกันปฎิเศษการเคลมโรคร้ายแรงคะ ท้อแล้วนะ ถ้าเลือกได้เราก็ไม่ได้อยากป่วยโรคแปลกๆแบบนี้หรอกนะไปหาหมอทีก็หมดค่ารักษาเป็นหมื่น ค่ารักษาแพงกว่าเงินเดือนอีกส่วนประกันที่ทำก็หวังเป็นเงินทำศพตอนตายเพราะไม่มีสมบัติติดตัว พอเราป่วย ก็เคลมประกันไม่ได้จะด้วยไม่เป็นตามเงื่อนไขเพราะประวัตินอน รพ. ตรวจพบโรคนี้ โดนทำราย แต่เราก็เป็นลูกค้าของคุณอยู่ ยังส่งเบี้ยคุ้มครองโรคร้ายแรงที่มียอดเพิ่มทุกๆปี  พวกคุณก็ไม่คิดจะช่วยรึแนะนำอะไรเลย นอน รพ.เป็นอาทิตย์กระเช้าเยี่ยมสักอันยังไม่มี แถม รพ.ยังมาล้างประวัติการรักษาทั้งๆที่เรายังรักษารับยาต่อเนีอง ทำให้เราเสียผลประโยชน์ในการเคลมประกัน ซึ่งตอนนี้ถ้าเราหา รพ.ที่มียาตัวนี้หรือกลับไปรักษาที่ รพ.ทหารที่เดิม เราต้องจ่ายเงินเองทั้งหมด ซึ่งเราเองก็หวังว่าจะได้เงินเคลมประกันตรงนี้มาไว้จ่ายค่ารักษา ที่ไปทีหมดเป็นหมื่น ถ้าดูจริงๆ เงินประกันแค่ไม่กี่แสน คร่าวๆ3 แสน คงไปหาหมอได้แค่30 ครั้ง เกิดมาจนก็แบบนี้ ทำประกัน พอป่วยตะหวังพึ่งตรงนี้ รักษาตัวเอง ข้อแม้ก็เยอะ ตอนมาชวนเราซื้อประกันแทบกลาบเรา พอเราเป็นลูกค้าแทบไม่สนใจอะไรเลย
แบบนีใครรับผิดชอบ
แบบนี้ใครผิด
รพ.ล้างประวัติการรักษาคนไข้
ถ้าเป็นไปได้อยากให้กู้ประวัติการรักษา
ประกันข้อแม้เยอะไม่รับเคลมง่ายๆ
รึเราผิดเองที่ป่วยเป็นโรคนี้
แต่ถ้าจะให้คิดแบบคนเห็นแก่ตัวนะ ถ้าไม่ซื้อประกันก็คงไม่ป่วย ซื้อประกันเหมือนแช่งตัวเอง
สรุปก็หมดหวังหมดหนทางจะได้เงินเคลม หมดหนทางจะได้รักษาต่อ
กรรมตกอยู่ที่ลูกค้า กรรมตกอยู่ที่คนป่วย
ก่อนทำประกันตัดสินใจดีๆ บางครั้งคำพูดที่เขาพูด มันก็ไม่ง่ายเหมือนที่พูด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่