11 ตุลาคม 2568 - นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือประชาชน ประชุมการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ เป็นเรื่องดีที่ต้องช่วยเหลือ เยียวยาทั้งในส่วนของพื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ตนได้รับเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน ว่าระเบียบราชการชดเชยให้ครัวเรือนละ 9,000 บาท บางทีกว่าจะได้รับการชดเชย น้ำลดไปนานแล้ว แต่เงินยังไม่ได้ ซึ่งชาวบ้านมีความจำเป็นที่ต้องนำเงินไปประทังชีวิตเกี่ยวกับปัจจัยในชีวิตประจำวันอย่างทันที จึงไม่อยากให้ชดเชยความเสียหายล่าช้า ต้องทำให้เร็ว เพราะรัฐบาลมีงบประมาณที่ต้องดูแลส่วนนี้อยู่แล้วและมีมากพอด้วย นอกจากนี้จังหวัดไหนที่คาดว่าจะได้ผลกระทบจากน้ำ ขอให้หน่วยงานต่างๆวางแผนรับมือล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งทำได้เลย ไม่ต้องรอให้น้ำท่วมแล้วค่อยมาแก้ไขปัญหา เพราะมันล่าช้าเกินไป
“การที่นายอนุทิน ลงพื้นที่ตรวจราชการน้ำท่วม ผมไม่อยากให้ทำแบบฉาบฉวย เทคแอคชันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ นั่งหัวโต๊ะสั่งการส่วนราชการ ร้องเพลง ทำกับข้าว ไปจังหวัดนั้นๆเพียงไม่กี่นาที ก็ไปอีกจังหวัดหนึ่งแล้ว และการไปในจังหวัดต่างๆดูเหมือนว่าจะมีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝงหรือไม่ ไปเรื่องน้ำท่วมที่ชัยนาท สิงห์บุรี ก็ไปจีบสส.ในจังหวัด ชักชวนให้มาร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย อ้อนชาวบ้านให้เลือกพรรคตัวเองกลับมา ทั้งที่ยังไม่เข้าสู่ฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้ง แต่ไปซื้อใจกันล่วงหน้าเอาไว้แล้ว ผมไม่อยากเห็นการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเป็นฉากบังหน้า แต่ลึกๆแท้จริงแล้ว หวังประโยชน์การเมืองส่วนตัวและพวกพ้อง”นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า วันนี้(11ต.ค.) นายอนุทิน ไปจ.สงขลา และปัตตานี ประชุมร่วมกับส่วนราชการและผู้ว่าราชการจะงหวัดในภาคใต้ ก็ขอให้ประชุมรับมือแก้ไขเรื่องเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ ช่วยเหลือ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บจากความไม่สงบจริงๆ ไม่ต้องไปหยอดคำหวาน ให้กับสส.สงขลาต่างพรรค สส.ภาคใต้ที่ไม่ได้สังกัดพรรคของท่าน ก่อนหน้ามีข่าวว่าท่านกับครูใหญ่ผู้มากบารมีในพรรคของท่าน จะถือโอกาสนี้ไปทานข้าวร่วมกับนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ แต่ภายหลังยกเลิกกำหนดการนี้ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงนัยยะการเมืองแอบแฝงอยู่แล้ว
“ผมจึงขอตั้งคำถามตัวโตๆ ดักทางเอาไว้ก่อนเลยว่าจะลงพื้นที่ตรวจราชการ ช่วยประชาชนทำไปเลย ไม่อยากเห็นการใช้กลไกรัฐ กลไกปกครอง ส่งสัญญาณเจ้าหน้าที่ ให้รู้นะว่า รอบหน้าต้องสนับสนุนใคร ไม่สนับสนุนใคร ไม่ว่านายกฯจะบินไปเหนือ มาภาคกลาง โฉบไปอีสาน ลงไปใต้ ขอให้ไปช่วยประชาชนในพื้นที่ที่เขากำลังได้รับความเดือดร้อนจริงๆ อย่าใช้เวลานับถอยหลัง 4 เดือน เอาแต่เช็กเรตติ้ง หาเสียง วางมัดจำทำสัญญาใจล่วงหน้า เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองเลย”นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า อย่างนี้พรรคส้ม ที่คอยค้ำยันให้รัฐบาลภูมิใจไทย ไม่รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเลยหรือ ข้อตกลงMOA ดูเหมือนจะเป็นกระดาษเปื้อนหมึก พรรคภูมิใจไทย สะสมกองกำลัง เดินสายหยอดคำหวาน ชักชวนสส.ให้มาร่วมงาน เปิดตัวกันอย่างเอิกเกริก แต่ยังนิ่งเงียบ หรือเป็นเพราะว่า ในวันนี้ยังภูมิใจอยู่ ใครจะดูดก็ดูดไปแต่อย่ามาดูดพรรคพวกในค่ายสีส้มก็พอ ตกลงกลายเป็นพันธมิตรการเมืองกันไปแล้วทั้งฤดูกาลนี้และฤดูกาลหน้าใช่หรือไม่ มีข้อตกลงดีลลับ สัญญาใจอะไรที่นอกเหนือใน MOA อีกหรือเปล่า ถึงยังนิ่งเฉยอยู่ ทำเอาแฟนคลับกองเชียร์ผิดหวังในท่าทีพรรคที่ยึดมั่นอุดมการณ์ รักษาหลักการมาตลอด แต่วันนี้ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้มากถึงเพียงนี้.
ข่าวดี้ดี 4.0 'เสด็จพี่’ สุดทน จวกยับ ‘อนุทิน’ ลงพื้นที่น้ำท่วมหวังผลการเมือง