ในเมืองหลวงที่พลุกพล่านด้วยแสงสีและความเร่งรีบ ชุมชนเล็กๆ แห่งหนึ่งซ่อนตัวอยู่หลังรั้วสูงและประตูเหล็กหนา ชุมชนที่ถูกเรียกขานว่า "ศรัทธาสวรรค์" ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นคริสตจักรแท้จริง แต่สำหรับคนภายนอก มันคือลัทธิลึกลับที่ปกคลุมด้วยคำสอนอันศักดิ์สิทธิ์ "พระอาจารย์วิชัย" ชายร่างสูงใหญ่ผู้มีดวงตาคมกริบและเสียงพูดอันอบอุ่น เป็นผู้นำสูงสุดของที่นี่ เขาและภรรยา "พระอาจารย์นภา" หญิงสาวหน้าตาคมสวยที่ยืนเคียงข้างเสมอ ได้สร้างอาณาจักรแห่งศรัทธานี้ขึ้นมาด้วยมือของตนเอง พวกเขาสอนว่า พระเจ้าเลือกสรรผู้คนให้มาที่นี่ เพื่อชำระล้างวิญญาณชั่วร้ายด้วยพิธีกรรมพิเศษ พิธีกรรมที่ใช้เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไล่สิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย
"ลินดา" เด็กหญิงวัยสิบเอ็ดขวบ ถูกแม่ของเธอ "คุณสุภาพร" ส่งมาที่ศรัทธาสวรรค์ด้วยความหวังดี คุณสุภาพรเป็นแม่ม่ายที่กำลังดิ้นรนกับชีวิต หลังจากสามีป่วยหนักด้วยโรคร้าย เธอได้ยินคำเล่าลือจากเพื่อนฝูงว่า ที่นี่คือสถานที่ที่พระเจ้าจะประทานพรและรักษาทุกสิ่ง เมื่อเธอเข้าร่วมพิธีครั้งแรก เธอรู้สึกถึงพลังงานอันอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย พระอาจารย์วิชัยแตะหน้าผากเธอเบาๆ แล้วพูดว่า "พระเจ้าได้เลือกเธอแล้ว ลูกเอ๋ย" คุณสุภาพรเชื่อสนิทใจ และตัดสินใจส่งลินดาไปอยู่ที่นี่ เพื่อให้ลูกสาวได้รับการศึกษาจาก "โรงเรียนนานาชาติ" ที่พระอาจารย์สัญญาว่าจะเปิดขึ้นในไม่ช้า
ชีวิตของลินดาในศรัทธาสวรรค์เริ่มต้นด้วยความตื่นเต้น แต่ไม่นานก็กลายเป็นฝันร้ายที่ซ่อนเร้น เด็กหญิงอีกหลายคนถูกส่งมาที่นี่เช่นกัน พวกเธอต้องนอนรวมกันในห้องใหญ่ที่มีเตียงเรียงกันเป็นแถว ทุกคืน ลินดารู้สึกเหมือนถูกจับตามอง แม้จะไม่มีใครบอก แต่เธอสังเกตเห็นจุดแสงเล็กๆ บนเพดานกล้องวงจรปิดที่บันทึกทุกการเคลื่อนไหว พระอาจารย์นภาบอกว่า มันเพื่อปกป้องพวกเธอจากวิญญาณชั่วร้าย แต่ลินดาเริ่มสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความอึดอัด ราวกับรู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองอยู่
ทุกวันอาทิตย์คือวันพิธีกรรมใหญ่ พระอาจารย์วิชัยจะจุดเทียนและไฟศักดิ์สิทธิ์ เรียกสาวกมารวมตัวกันในห้องโถงกว้าง เขาจะเดินไปรอบๆ แตะหน้าผากผู้คนทีละคน ขณะที่เพลงสวดดังก้อง "วิญญาณชั่วร้ายจงออกไป!" บางคนสั่นเทิ้ม บางคนร้องตะโกนราวกับถูกสิง ลินดาเคยเห็นเพื่อนของเธอถูกบังคับให้ "ไล่ผี" ทุกสัปดาห์ ผีขี้เกียจ ผีอิจฉา ผีอะไรก็ตามที่พระอาจารย์กล่าวหา หากใครไม่แสดงอาการ พระอาจารย์จะกดหัวแรงๆ จนต้องแสร้งทำตาม ลินดาเองก็เคยถูกเช่นนั้น เธอสั่นตัวและร้องไห้ เพื่อไม่ให้ถูกตำหนิ
การศึกษาที่สัญญาไว้ไม่เคยเกิดขึ้นจริง พระอาจารย์บอกว่า พวกเธอจะเรียนด้วยตัวเอง โดยมี "ติวเตอร์" คอยแนะนำหัวข้อแบบผ่านๆ ลินดาเรียนคณิตศาสตร์เรื่องเลขยกกำลัง แต่ไม่มีครูจริงๆ สอน ไม่มีหนังสือ ไม่มีห้องเรียน เธอถูกบังคับให้สอบผ่านระบบการศึกษานอกโรงเรียนแทนโรงเรียนนานาชาติที่ฝันไว้ กฎระเบียบแปลกประหลาดปกคลุมทุกอย่าง ห้ามบอกพ่อแม่เรื่องภายใน ห้ามถามคำถาม ห้ามออกจากชุมชนโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะถูกลงโทษ บางครั้งถึงขั้นถูกตีด้วยไม้จนก้นเป็นรอยแดง ลินดาเคยเห็นเพื่อนถูกทำแบบนั้น เธอจึงกลัวและเชื่อฟัง
ไม่ใช่แค่เด็กๆ ที่ทุกข์ทรมาน สาวกผู้ใหญ่ก็เช่นกัน "คุณสมชาย" ชายวัยกลางคนผู้มั่งคั่ง ถูกพระอาจารย์วิชัยบอกว่า "พระเจ้าเลือกเขาให้สร้างอาคารศักดิ์สิทธิ์" เขาเสียเงินไปกว่ายี่สิบล้านบาท ไปกับการซื้อตึกเก่าที่ติดธนาคาร แล้วรีโนเวทให้ชุมชน สุดท้าย เขาพบว่ามันคือการหลอกลวงเพื่อเงินเท่านั้น อีกคนคือ "คุณแพร" หญิงสาวที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่พระอาจารย์ประกาศว่า "พระเจ้าต้องการให้เธอแต่งงานกับสาวกชายในชุมชน" เธอถูกบังคับให้ยืนต่อหน้าทุกคน ขณะที่คนอื่นๆ ปรบมือเชียร์ "แต่งเลย! แต่งเลย!" คุณแพรร้องไห้ปฏิเสธ แต่แรงกดดันจากกลุ่มทำให้เธอเกือบยอมแพ้
ความจริงเริ่มเปิดเผยเมื่อผู้เสียหายรวมตัวกัน คุณสุภาพรตัดสินใจถอนตัวหลังจากสามีป่วยหนัก เธอพบว่าคำสอนเหล่านี้ไม่ได้ช่วยอะไร เธอวางแผนกับญาติเพื่อพาลินดาออกมา วันนั้น เธอซ่อนตัวในรถ ขณะที่ป้าของเธอเข้าไปรับลูก ลินดาเดินออกมาด้วยสีหน้าสับสน เธอร้องไห้เมื่อเห็นพ่อแม่ และบอกว่า "หนูอยากกลับไปหาเพื่อน หาพระอาจารย์" คุณสุภาพรต้องใช้เวลาหลายเดือนในการเยียวยาลูกสาว ลินดาถูกสอนให้รายงานพฤติกรรมพ่อแม่กลับไปยังชุมชน แม้แต่กลางดึก เธอแอบโทรหาพระอาจารย์เพื่อ "สอดแนม"
ผู้เสียหายอีกหลายสิบคนรวมตัวแจ้งความที่สถานีตำรวจ พวกเขานำหลักฐานกล้องวงจรปิด พิธีกรรมแปลกๆ และเรื่องราวสูญเสียมาเปิดเผย พระอาจารย์วิชัยและนภาถูกกล่าวหาว่าหลอกลวง ล้างสมอง และทำร้ายเด็ก
การสอบสวนดำเนินไปอย่างเข้มข้น สื่อมวลชนรายงานข่าวใหญ่ ศรัทธาสวรรค์ถูกปิดล้อม ผู้คนต่างคาดว่าผู้นำทั้งสองจะถูกจับกุม แต่แล้ว ในวันประกาศคำพิพากษา ห้องพิจารณาคดีเต็มไปด้วยความเงียบงัน พระอาจารย์วิชัยยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มสงบ เขาเปิดเผยเอกสารลับที่ไม่มีใครคาดคิดทั้งหมดนี้คือแผนการของรัฐบาลเอง ชุมชนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อทดลองโปรแกรมควบคุมจิตใจ โดยใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ
พระอาจารย์วิชัยและนภาไม่ใช่ผู้นำลัทธิ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ลับที่ได้รับคำสั่งจากหน่วยงานสูงสุด ผู้เสียหายทุกคน รวมถึงลินดาและคุณสุภาพร ถูกเลือกให้เป็น "อาสาสมัคร" โดยไม่รู้ตัว เพื่อศึกษาว่ามนุษย์จะถูกชักจูงได้แค่ไหน การสูญเสียเงิน การศึกษา และความสัมพันธ์ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองที่ใหญ่กว่า และตอนนี้ การทดลองจบลงแล้ว พวกเขาทุกคนจะได้รับ "ค่าตอบแทน" และความทรงจำที่ถูกลบล้าง เพื่อกลับสู่ชีวิตปกติ โดยไม่มีใครจำได้ว่าอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
หลังจากคำประกาศอันน่าตกตะลึงในห้องพิจารณาคดี ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงันราวกับถูกแช่แข็ง ผู้พิพากษาเอนตัวไปข้างหน้า ดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ขณะที่ผู้เสียหายทั้งหลายมองหน้ากันอย่างงุนงง คุณสุภาพรจับมือลินดาแน่น ลูกสาวของเธอยังคงมีสีหน้าว่างเปล่า ราวกับวิญญาณยังไม่กลับคืนร่าง พระอาจารย์วิชัยยืนตรงอย่างสงบ ยื่นเอกสารสีเทาเข้มที่มีตราประทับลับสุดยอดออกมา "นี่คือคำสั่งจากหน่วยงานพิเศษ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "โครงการ 'ศรัทธาลวง' ได้รับการอนุมัติจากระดับสูงสุด เพื่อศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ภายใต้การชักจูงทางจิตวิทยา เราทุกคนที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของมัน"
คุณสมชาย ชายผู้สูญเสียเงินทองมหาศาล ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธเกรี้ยว "โกหก! นี่มันหลอกลวงชัดๆ!" แต่ก่อนที่เขาจะพูดต่อ
เจ้าหน้าที่ในชุดสูทดำหลายคนก็ปรากฏตัวจากด้านหลังห้อง พวกเขายึดเอกสารและเริ่มอธิบายรายละเอียด โครงการนี้เริ่มต้นเมื่อห้าปีก่อน โดยรัฐบาลต้องการทดสอบว่าสังคมจะตอบสนองอย่างไรต่อลัทธิเทียมที่สร้างขึ้น เพื่อป้องกันภัยคุกคามจริงๆ จากกลุ่มหัวรุนแรง พระอาจารย์วิชัยและนภาไม่ใช่แค่ผู้นำ แต่เป็นนักจิตวิทยาและนักแสดงที่ได้รับการฝึกฝน พิธีกรรมไฟศักดิ์สิทธิ์ การไล่สิ่งชั่วร้าย และแม้แต่กล้องวงจรปิดในห้องเด็ก ล้วนเป็นเครื่องมือในการบันทึกข้อมูล พวกเขาอ้างว่าไม่มีใครได้รับอันตรายถาวร เงินที่สูญเสียจะถูกคืนให้ การศึกษาที่ขาดหายจะได้รับการชดเชย และความทรงจำที่บิดเบี้ยวจะถูก "ปรับแต่ง" ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
ลินดา ผู้ซึ่งเคยถูกส่งเข้าไปในชุมชนตั้งแต่ยังเด็ก เริ่มรู้สึกถึงความขัดแย้งในใจ เธอจำได้เลาๆ ถึงคืนที่เธอแอบโทรศัพท์รายงานพฤติกรรมพ่อแม่ให้พระอาจารย์ ตอนนี้ เธอถูกพาไปห้องพิเศษที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ แพทย์ในชุดขาวยิ้มให้เธอ "เราจะลบส่วนที่ไม่ดีออกไปนะลูก" เขาพูด ขณะที่ฉีดยาบางอย่างเข้าเส้นเลือด ลินดารู้สึกถึงความมึนงงแผ่ซ่าน ความทรงจำเกี่ยวกับพิธีกรรมเริ่มเลือนราง ภาพเพื่อนๆ ที่นอนกองกันในห้องใหญ่ ภาพไฟที่ลุกโชน และเสียงร้องไห้จากคุณแพรที่ถูกบังคับให้แต่งงาน ทุกอย่างค่อยๆ จางหาย แต่แล้ว ในห้วงลึกของจิตใจ เธอเห็นภาพแวบหนึ่ง พระอาจารย์วิชัยยืนยิ้มในห้องมืด ขณะที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ไม่ใช่เพื่อการทดลอง แต่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพอใจส่วนตัว
คุณสุภาพรไม่ยอมรับง่ายๆ เธอรวมตัวกับผู้เสียหายคนอื่นๆ นอกห้องพิจารณา พวกเขาตัดสินใจสืบค้นลึกเข้าไป คุณสมชายใช้เส้นสายในวงการธุรกิจเพื่อขุดเอกสารเก่าๆ และพบความจริงที่น่าตกใจยิ่งกว่า โครงการ 'ศรัทธาลวง' ไม่ใช่แค่การทดลองของรัฐบาล แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ พวกเขาขายข้อมูลจิตวิทยาที่ได้จากผู้เข้าร่วมให้กับบริษัทโฆษณาและการเมือง เพื่อสร้างแคมเปญชักจูงมวลชน พระอาจารย์วิชัยไม่ได้เป็นแค่นักแสดง แต่เคยเป็นนักโทษที่ได้รับการอภัยโทษเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ ส่วนนภา ภรรยาของเขา มีพื้นเพมาจากครอบครัวนักการเมืองเก่าแก่ที่ได้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้
ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายเริ่มเปิดโปงความจริงผ่านสื่อใต้ดิน ลินดาเริ่มฟื้นคืนความทรงจำทีละน้อย ยาที่ฉีดให้เธอไม่ได้ผลสมบูรณ์แบบ เธอฝันเห็นภาพเก่าๆ และตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อกลับไปที่ศรัทธาสวรรค์ สถานที่ที่ตอนนี้ถูกปิดตาย แต่เมื่อเธอแอบเข้าไป เธอพบห้องลับใต้ดิน ที่เต็มไปด้วยจอคอมพิวเตอร์และไฟล์ข้อมูล พระอาจารย์วิชัยยืนอยู่ที่นั่นคนเดียว ยิ้มให้เธออย่างรู้ทัน "เธอคือคนแรกที่กลับมา ลูกเอ๋ย" เขาพูด "โครงการนี้ไม่เคยจบ มันเพิ่งเริ่มต้น"
ในขณะที่ลินดาเผชิญหน้ากับเขา เธอพบว่าความจริงสุดท้ายคืออะไร พระอาจารย์วิชัยไม่ได้ทำงานให้รัฐบาลจริงๆ เขาใช้โครงการนี้เป็นฉากบังหน้าเพื่อสร้างลัทธิของตัวเองที่ใหญ่กว่าเดิม ข้อมูลที่เก็บได้ถูกใช้เพื่อชักจูงสาวกใหม่ๆ ทั่วประเทศ และตอนนี้ ลินดาเองก็ถูกเลือกให้เป็นผู้นำรุ่นต่อไป ไม่ใช่ด้วยการล้างสมอง แต่ด้วยการเปิดเผย "ความจริง" ที่เขาสร้างขึ้นเอง ห้องใต้ดินนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของรัฐบาล แต่เป็นฐานลับที่เขาเตรียมไว้สำหรับการขยายอำนาจ
กลุ่มผู้เสียหายบุกเข้ามาในที่สุด นำโดยคุณสุภาพรและคุณสมชาย พวกเขายึดหลักฐานและเรียกตำรวจจริงๆ เข้ามา พระอาจารย์วิชัยถูกจับกุมอย่างแท้จริงครั้งนี้ แต่ก่อนที่เขาจะถูกนำตัวไป เขาหันมามองลินดาด้วยรอยยิ้ม "ศรัทธาไม่เคยดับสูญ ลูกเอ๋ย" และในขณะที่ทุกคนคิดว่าจบสิ้น ลินดารู้สึกถึงแรงดึงดูดแปลกๆ ในใจ ราวกับเมล็ดพันธุ์แห่งพิธีกรรมยังคงฝังรากลึก และรอวันที่จะงอกงามอีกครั้ง
นิยาย พิธีกรรมแห่งแสงศรัทธา :)
"ลินดา" เด็กหญิงวัยสิบเอ็ดขวบ ถูกแม่ของเธอ "คุณสุภาพร" ส่งมาที่ศรัทธาสวรรค์ด้วยความหวังดี คุณสุภาพรเป็นแม่ม่ายที่กำลังดิ้นรนกับชีวิต หลังจากสามีป่วยหนักด้วยโรคร้าย เธอได้ยินคำเล่าลือจากเพื่อนฝูงว่า ที่นี่คือสถานที่ที่พระเจ้าจะประทานพรและรักษาทุกสิ่ง เมื่อเธอเข้าร่วมพิธีครั้งแรก เธอรู้สึกถึงพลังงานอันอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย พระอาจารย์วิชัยแตะหน้าผากเธอเบาๆ แล้วพูดว่า "พระเจ้าได้เลือกเธอแล้ว ลูกเอ๋ย" คุณสุภาพรเชื่อสนิทใจ และตัดสินใจส่งลินดาไปอยู่ที่นี่ เพื่อให้ลูกสาวได้รับการศึกษาจาก "โรงเรียนนานาชาติ" ที่พระอาจารย์สัญญาว่าจะเปิดขึ้นในไม่ช้า
ชีวิตของลินดาในศรัทธาสวรรค์เริ่มต้นด้วยความตื่นเต้น แต่ไม่นานก็กลายเป็นฝันร้ายที่ซ่อนเร้น เด็กหญิงอีกหลายคนถูกส่งมาที่นี่เช่นกัน พวกเธอต้องนอนรวมกันในห้องใหญ่ที่มีเตียงเรียงกันเป็นแถว ทุกคืน ลินดารู้สึกเหมือนถูกจับตามอง แม้จะไม่มีใครบอก แต่เธอสังเกตเห็นจุดแสงเล็กๆ บนเพดานกล้องวงจรปิดที่บันทึกทุกการเคลื่อนไหว พระอาจารย์นภาบอกว่า มันเพื่อปกป้องพวกเธอจากวิญญาณชั่วร้าย แต่ลินดาเริ่มสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความอึดอัด ราวกับรู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองอยู่
ทุกวันอาทิตย์คือวันพิธีกรรมใหญ่ พระอาจารย์วิชัยจะจุดเทียนและไฟศักดิ์สิทธิ์ เรียกสาวกมารวมตัวกันในห้องโถงกว้าง เขาจะเดินไปรอบๆ แตะหน้าผากผู้คนทีละคน ขณะที่เพลงสวดดังก้อง "วิญญาณชั่วร้ายจงออกไป!" บางคนสั่นเทิ้ม บางคนร้องตะโกนราวกับถูกสิง ลินดาเคยเห็นเพื่อนของเธอถูกบังคับให้ "ไล่ผี" ทุกสัปดาห์ ผีขี้เกียจ ผีอิจฉา ผีอะไรก็ตามที่พระอาจารย์กล่าวหา หากใครไม่แสดงอาการ พระอาจารย์จะกดหัวแรงๆ จนต้องแสร้งทำตาม ลินดาเองก็เคยถูกเช่นนั้น เธอสั่นตัวและร้องไห้ เพื่อไม่ให้ถูกตำหนิ
การศึกษาที่สัญญาไว้ไม่เคยเกิดขึ้นจริง พระอาจารย์บอกว่า พวกเธอจะเรียนด้วยตัวเอง โดยมี "ติวเตอร์" คอยแนะนำหัวข้อแบบผ่านๆ ลินดาเรียนคณิตศาสตร์เรื่องเลขยกกำลัง แต่ไม่มีครูจริงๆ สอน ไม่มีหนังสือ ไม่มีห้องเรียน เธอถูกบังคับให้สอบผ่านระบบการศึกษานอกโรงเรียนแทนโรงเรียนนานาชาติที่ฝันไว้ กฎระเบียบแปลกประหลาดปกคลุมทุกอย่าง ห้ามบอกพ่อแม่เรื่องภายใน ห้ามถามคำถาม ห้ามออกจากชุมชนโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะถูกลงโทษ บางครั้งถึงขั้นถูกตีด้วยไม้จนก้นเป็นรอยแดง ลินดาเคยเห็นเพื่อนถูกทำแบบนั้น เธอจึงกลัวและเชื่อฟัง
ไม่ใช่แค่เด็กๆ ที่ทุกข์ทรมาน สาวกผู้ใหญ่ก็เช่นกัน "คุณสมชาย" ชายวัยกลางคนผู้มั่งคั่ง ถูกพระอาจารย์วิชัยบอกว่า "พระเจ้าเลือกเขาให้สร้างอาคารศักดิ์สิทธิ์" เขาเสียเงินไปกว่ายี่สิบล้านบาท ไปกับการซื้อตึกเก่าที่ติดธนาคาร แล้วรีโนเวทให้ชุมชน สุดท้าย เขาพบว่ามันคือการหลอกลวงเพื่อเงินเท่านั้น อีกคนคือ "คุณแพร" หญิงสาวที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่พระอาจารย์ประกาศว่า "พระเจ้าต้องการให้เธอแต่งงานกับสาวกชายในชุมชน" เธอถูกบังคับให้ยืนต่อหน้าทุกคน ขณะที่คนอื่นๆ ปรบมือเชียร์ "แต่งเลย! แต่งเลย!" คุณแพรร้องไห้ปฏิเสธ แต่แรงกดดันจากกลุ่มทำให้เธอเกือบยอมแพ้
ความจริงเริ่มเปิดเผยเมื่อผู้เสียหายรวมตัวกัน คุณสุภาพรตัดสินใจถอนตัวหลังจากสามีป่วยหนัก เธอพบว่าคำสอนเหล่านี้ไม่ได้ช่วยอะไร เธอวางแผนกับญาติเพื่อพาลินดาออกมา วันนั้น เธอซ่อนตัวในรถ ขณะที่ป้าของเธอเข้าไปรับลูก ลินดาเดินออกมาด้วยสีหน้าสับสน เธอร้องไห้เมื่อเห็นพ่อแม่ และบอกว่า "หนูอยากกลับไปหาเพื่อน หาพระอาจารย์" คุณสุภาพรต้องใช้เวลาหลายเดือนในการเยียวยาลูกสาว ลินดาถูกสอนให้รายงานพฤติกรรมพ่อแม่กลับไปยังชุมชน แม้แต่กลางดึก เธอแอบโทรหาพระอาจารย์เพื่อ "สอดแนม"
ผู้เสียหายอีกหลายสิบคนรวมตัวแจ้งความที่สถานีตำรวจ พวกเขานำหลักฐานกล้องวงจรปิด พิธีกรรมแปลกๆ และเรื่องราวสูญเสียมาเปิดเผย พระอาจารย์วิชัยและนภาถูกกล่าวหาว่าหลอกลวง ล้างสมอง และทำร้ายเด็ก
การสอบสวนดำเนินไปอย่างเข้มข้น สื่อมวลชนรายงานข่าวใหญ่ ศรัทธาสวรรค์ถูกปิดล้อม ผู้คนต่างคาดว่าผู้นำทั้งสองจะถูกจับกุม แต่แล้ว ในวันประกาศคำพิพากษา ห้องพิจารณาคดีเต็มไปด้วยความเงียบงัน พระอาจารย์วิชัยยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มสงบ เขาเปิดเผยเอกสารลับที่ไม่มีใครคาดคิดทั้งหมดนี้คือแผนการของรัฐบาลเอง ชุมชนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อทดลองโปรแกรมควบคุมจิตใจ โดยใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ
พระอาจารย์วิชัยและนภาไม่ใช่ผู้นำลัทธิ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ลับที่ได้รับคำสั่งจากหน่วยงานสูงสุด ผู้เสียหายทุกคน รวมถึงลินดาและคุณสุภาพร ถูกเลือกให้เป็น "อาสาสมัคร" โดยไม่รู้ตัว เพื่อศึกษาว่ามนุษย์จะถูกชักจูงได้แค่ไหน การสูญเสียเงิน การศึกษา และความสัมพันธ์ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองที่ใหญ่กว่า และตอนนี้ การทดลองจบลงแล้ว พวกเขาทุกคนจะได้รับ "ค่าตอบแทน" และความทรงจำที่ถูกลบล้าง เพื่อกลับสู่ชีวิตปกติ โดยไม่มีใครจำได้ว่าอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
หลังจากคำประกาศอันน่าตกตะลึงในห้องพิจารณาคดี ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงันราวกับถูกแช่แข็ง ผู้พิพากษาเอนตัวไปข้างหน้า ดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ขณะที่ผู้เสียหายทั้งหลายมองหน้ากันอย่างงุนงง คุณสุภาพรจับมือลินดาแน่น ลูกสาวของเธอยังคงมีสีหน้าว่างเปล่า ราวกับวิญญาณยังไม่กลับคืนร่าง พระอาจารย์วิชัยยืนตรงอย่างสงบ ยื่นเอกสารสีเทาเข้มที่มีตราประทับลับสุดยอดออกมา "นี่คือคำสั่งจากหน่วยงานพิเศษ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "โครงการ 'ศรัทธาลวง' ได้รับการอนุมัติจากระดับสูงสุด เพื่อศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ภายใต้การชักจูงทางจิตวิทยา เราทุกคนที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของมัน"
คุณสมชาย ชายผู้สูญเสียเงินทองมหาศาล ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธเกรี้ยว "โกหก! นี่มันหลอกลวงชัดๆ!" แต่ก่อนที่เขาจะพูดต่อ
เจ้าหน้าที่ในชุดสูทดำหลายคนก็ปรากฏตัวจากด้านหลังห้อง พวกเขายึดเอกสารและเริ่มอธิบายรายละเอียด โครงการนี้เริ่มต้นเมื่อห้าปีก่อน โดยรัฐบาลต้องการทดสอบว่าสังคมจะตอบสนองอย่างไรต่อลัทธิเทียมที่สร้างขึ้น เพื่อป้องกันภัยคุกคามจริงๆ จากกลุ่มหัวรุนแรง พระอาจารย์วิชัยและนภาไม่ใช่แค่ผู้นำ แต่เป็นนักจิตวิทยาและนักแสดงที่ได้รับการฝึกฝน พิธีกรรมไฟศักดิ์สิทธิ์ การไล่สิ่งชั่วร้าย และแม้แต่กล้องวงจรปิดในห้องเด็ก ล้วนเป็นเครื่องมือในการบันทึกข้อมูล พวกเขาอ้างว่าไม่มีใครได้รับอันตรายถาวร เงินที่สูญเสียจะถูกคืนให้ การศึกษาที่ขาดหายจะได้รับการชดเชย และความทรงจำที่บิดเบี้ยวจะถูก "ปรับแต่ง" ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
ลินดา ผู้ซึ่งเคยถูกส่งเข้าไปในชุมชนตั้งแต่ยังเด็ก เริ่มรู้สึกถึงความขัดแย้งในใจ เธอจำได้เลาๆ ถึงคืนที่เธอแอบโทรศัพท์รายงานพฤติกรรมพ่อแม่ให้พระอาจารย์ ตอนนี้ เธอถูกพาไปห้องพิเศษที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ แพทย์ในชุดขาวยิ้มให้เธอ "เราจะลบส่วนที่ไม่ดีออกไปนะลูก" เขาพูด ขณะที่ฉีดยาบางอย่างเข้าเส้นเลือด ลินดารู้สึกถึงความมึนงงแผ่ซ่าน ความทรงจำเกี่ยวกับพิธีกรรมเริ่มเลือนราง ภาพเพื่อนๆ ที่นอนกองกันในห้องใหญ่ ภาพไฟที่ลุกโชน และเสียงร้องไห้จากคุณแพรที่ถูกบังคับให้แต่งงาน ทุกอย่างค่อยๆ จางหาย แต่แล้ว ในห้วงลึกของจิตใจ เธอเห็นภาพแวบหนึ่ง พระอาจารย์วิชัยยืนยิ้มในห้องมืด ขณะที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ไม่ใช่เพื่อการทดลอง แต่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพอใจส่วนตัว
คุณสุภาพรไม่ยอมรับง่ายๆ เธอรวมตัวกับผู้เสียหายคนอื่นๆ นอกห้องพิจารณา พวกเขาตัดสินใจสืบค้นลึกเข้าไป คุณสมชายใช้เส้นสายในวงการธุรกิจเพื่อขุดเอกสารเก่าๆ และพบความจริงที่น่าตกใจยิ่งกว่า โครงการ 'ศรัทธาลวง' ไม่ใช่แค่การทดลองของรัฐบาล แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ พวกเขาขายข้อมูลจิตวิทยาที่ได้จากผู้เข้าร่วมให้กับบริษัทโฆษณาและการเมือง เพื่อสร้างแคมเปญชักจูงมวลชน พระอาจารย์วิชัยไม่ได้เป็นแค่นักแสดง แต่เคยเป็นนักโทษที่ได้รับการอภัยโทษเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ ส่วนนภา ภรรยาของเขา มีพื้นเพมาจากครอบครัวนักการเมืองเก่าแก่ที่ได้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้
ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายเริ่มเปิดโปงความจริงผ่านสื่อใต้ดิน ลินดาเริ่มฟื้นคืนความทรงจำทีละน้อย ยาที่ฉีดให้เธอไม่ได้ผลสมบูรณ์แบบ เธอฝันเห็นภาพเก่าๆ และตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อกลับไปที่ศรัทธาสวรรค์ สถานที่ที่ตอนนี้ถูกปิดตาย แต่เมื่อเธอแอบเข้าไป เธอพบห้องลับใต้ดิน ที่เต็มไปด้วยจอคอมพิวเตอร์และไฟล์ข้อมูล พระอาจารย์วิชัยยืนอยู่ที่นั่นคนเดียว ยิ้มให้เธออย่างรู้ทัน "เธอคือคนแรกที่กลับมา ลูกเอ๋ย" เขาพูด "โครงการนี้ไม่เคยจบ มันเพิ่งเริ่มต้น"
ในขณะที่ลินดาเผชิญหน้ากับเขา เธอพบว่าความจริงสุดท้ายคืออะไร พระอาจารย์วิชัยไม่ได้ทำงานให้รัฐบาลจริงๆ เขาใช้โครงการนี้เป็นฉากบังหน้าเพื่อสร้างลัทธิของตัวเองที่ใหญ่กว่าเดิม ข้อมูลที่เก็บได้ถูกใช้เพื่อชักจูงสาวกใหม่ๆ ทั่วประเทศ และตอนนี้ ลินดาเองก็ถูกเลือกให้เป็นผู้นำรุ่นต่อไป ไม่ใช่ด้วยการล้างสมอง แต่ด้วยการเปิดเผย "ความจริง" ที่เขาสร้างขึ้นเอง ห้องใต้ดินนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของรัฐบาล แต่เป็นฐานลับที่เขาเตรียมไว้สำหรับการขยายอำนาจ
กลุ่มผู้เสียหายบุกเข้ามาในที่สุด นำโดยคุณสุภาพรและคุณสมชาย พวกเขายึดหลักฐานและเรียกตำรวจจริงๆ เข้ามา พระอาจารย์วิชัยถูกจับกุมอย่างแท้จริงครั้งนี้ แต่ก่อนที่เขาจะถูกนำตัวไป เขาหันมามองลินดาด้วยรอยยิ้ม "ศรัทธาไม่เคยดับสูญ ลูกเอ๋ย" และในขณะที่ทุกคนคิดว่าจบสิ้น ลินดารู้สึกถึงแรงดึงดูดแปลกๆ ในใจ ราวกับเมล็ดพันธุ์แห่งพิธีกรรมยังคงฝังรากลึก และรอวันที่จะงอกงามอีกครั้ง