ผลไม้หวานก็จริง แต่ทำไมแคลน้อยกว่าขนม?
.
รู้ไหมครับการกินผลไม้ที่แม้จะมีรสชาติหวานเจี๊ยบ ก็ไม่ถือว่าเป็นน้ำตาลเพิ่มเติมในอาหาร และคนสุขภาพดีก็สามารถกินได้อย่างสบายใจ (ถ้าไม่เยอะเว่อร์แบบวันละเป็นกิโลล่ะก็นะ!!)
สาเหตุเป็นเพราะแม้เวลากินผลไม้ เราจะรู้สึกว่ามันหวานพอๆ กับขนม แต่เพราะการเก็บน้ำตาลที่ต่างกันทำให้ผลไม้ทั้งแคลต่ำกว่า น้ำตาลน้อยกว่า และมีประโยชน์กว่า
.
หนึ่งในสาเหตุก็คือ ผลไม้จะเก็บน้ำตาลไว้ในเซลล์ จินตนาการก็เหมือนมีถุงน้ำเชื่อมเล็ก ๆ กระจายตัวอยู่ทั่วผลไม้ ในขณะที่ส่วนอื่นจะเป็นไฟเบอร์และน้ำที่ไม่มีแคลอรี เมื่อกัดถุงเล็ก ๆ พวกนี้ก็จะปลดปล่อยน้ำเชื่อมออกมาให้รสชาติหวาน
.
ในขณะที่ขนมหวานส่วนใหญ่ จะได้ความหวานจากน้ำตาลเช่นกัน แต่มักจะมีน้ำตาลกระจายอยู่ทั้งชิ้น และส่วนที่ควรจะเป็นไฟเบอร์ มันกลับเป็นแป้ง ไขมัน และอื่น ๆ จนทำให้น้ำตาลพุ่งปรี๊ด แคลอรีพุ่งทะยาน
.
เมื่ออยู่ในท้อง ไฟเบอร์จากผลไม้ยังช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ในขณะที่แป้งในขนมจะย่อยเป็นน้ำตาลขึ้นมาเพิ่ม ความแตกต่างจึงยิ่งทวีคูณครับ
.
ผลไม้ยังเป็นแหล่งของแร่ธาตุ และวิตามิน อีกหลายชนิด จนพูดได้ว่าประโยชน์สูงลิบ จนกลบเรื่องน้ำตาลไปเลย
แน่นอนว่าในคนเป็นเบาหวานเลยก็อาจยังต้องระวัง และปรึกษาหมออยู่บ้าง ก่อนรับประทาน
.
ส่วนใครแข็งแรงดีก็ควรกินผลไม้อย่างน้อย 2 ส่วน เทียบได้กับผลไม้ขนาดกลาง 2 ลูก (ส้ม, แอปเปิล) หรือแบบลูกเล็กกับหั่นก็นับ 2 ถ้วย เพื่อสุขภาพที่ดี และอร่อยนะคร๊าบ
.
ที่มา : Jones Salad
ผลไม้หวานก็จริง แต่ทำไมแคลน้อยกว่าขนม?