JJNY : 5in1 ร้านค้าไม่มั่นใจ“คนละครึ่งพลัส”│"ช่อ"ป้อง"เท้ง"│ผงะ3จว.ภาคกลางน้ำท่วม│เผยเขมรเริ่มขยับ│'หะลอง'เข้าจ่อญี่ปุ่น

ร้านค้าไม่มั่นใจร่วม “คนละครึ่งพลัส” หวั่นโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ชาวบ้านเบื่อขั้นตอนยุ่งยาก
.
สำรวจความเห็นผู้ประกอบการร้านค้าเมืองขอนแก่น พากันเข็ดขยาดและไม่มั่นใจว่าจะเข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” หรือไม่ หลังเคยเข้าร่วมโครงการแล้วโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ขณะที่ประชาชนเบื่อหน่ายขั้นตอนยุ่งยากกว่าจะได้ใช้เงิน
.
วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของผู้ประกอบการร้านขายของชำ ร้านขายอาหาร และประชาชนทั่วไปที่ตลาดการเคหะ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เกี่ยวกับโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อสร้างรายได้ ลดรายจ่ายให้กับประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน และเพื่อให้มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยเปิดให้ร้านค้า ลงทะเบียน วันที่ 15 ต.ค. - 19 ธ.ค.68 และประชาชนทั่วไป ลงทะเบียน วันที่ 20 - 26 ต.ค.68 เริ่มใช้สิทธิ วันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค.68
.
โดยจากการสอบถามร้านค้าและประชาชนทั่วไปต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พากันเข็ดขยาดกับผลกระทบทางลบที่ตามมาหลังเข้าร่วมโครงการ และขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าจะได้ใช้เงินสนับสนุนจากโครงการดังกล่าว
.
เจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ที่ร้านตนเองก็เคยสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งพบว่า มีลูกค้ามาซื้อของที่ร้านมากกว่าปกติ ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงปกติประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เวลามาซื้อของที่ร้านก็จะสอบถามว่า เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งหรือไม่ เมื่อทราบว่าที่ร้านเข้าร่วมก็จะสะดวกต่อลูกค้าและเกิดการบอกต่อกันไป
.
แต่ข้อเสียจากการสมัครโครงการก็มี และเป็นข้อเสียที่ทำให้ตนเองคิดว่า ในโครงการคนละครึ่ง พลัส ที่รัฐบาลจะดำเนินการในครั้งนี้ ร้านของตนเองจะไม่เข้าร่วมแน่นอน เนื่องจากการสมัครฯ ในครั้งที่แล้ว ที่ร้านต้องแบกรับภาระการจ่ายภาษีเป็นเงินหลักหมื่นบาท โดยที่ไม่ทราบมาก่อนว่า หากสมัครแล้วจะต้องมีค่าภาษีจากรายได้ในการร่วมโครงการฯ และเจ้าหน้าที่ธนาคารที่มาสมัครโครงการฯ ให้ที่ร้านก็ไม่ได้แจ้งให้ทราบ ทำให้ทางร้านต้องเสียทั้งภาษีจากการซื้อของเข้าร้าน ภาษีร้านค้า และยังต้องมาเสียภาษีจากรายได้ในโครงการนี้อีก ยิ่งเป็นการเพิ่มภาระให้ทางร้าน หากเงื่อนไขของการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งในครั้งนี้ยังเป็นแบบนี้อยู่ ตนเองก็คงไม่เข้าร่วม แต่หากรัฐบาลแก้ไขเรื่องนี้ได้ก็อาจจะสมัครเข้าร่วม
.
ขณะที่ เจ้าของร้านขายข้าวแกง กล่าวว่า พอจะทราบข้อมูลข่าวสารอยู่บ้างเกี่ยวกับการที่รัฐบาลจะมีโครงการคนละครึ่งพลัส มาช่วยเหลือประชาชน แต่ก็ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ก็นับว่าเป็นโครงการที่ดีที่รัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชน แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าสิ่งที่เป็นปัญหาหลักของประชาชนคนหาเช้ากินค่ำ คือการสมัครและการลงทะเบียนที่ยุ่งยาก เช่น ต้องหยุดงานไปเป็นวัน เพื่อที่จะไปต่อคิวสมัคร กว่าที่ขั้นตอนจะเสร็จสมบูรณ์ก็กินเวลาไปเกือบ 2 วัน
.
ครั้งนี้ยอมรับว่า ค่อนข้างถอดใจและอาจจะไม่สมัครเข้าร่วม เพราะเข็ดขยาด เนื่องจากครั้งที่แล้วตนเองต้องหยุดงานไปต่อคิวสมัคร แต่พอสมัครเสร็จยังไม่ทันจะได้ร่วมโครงการ ก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น กลายเป็นว่าเสียเวลา เสียรายได้ไปโดยเปล่าประโยชน์
.
เช่นเดียวกับแม่ค้าขายผักสด กล่าวว่า ตนเองไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการคนละครึ่งเลย ไม่ว่าจะในยุครัฐบาลไหน แม้จะทราบข่าวว่ารัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือก็ตาม เพราะตนเองเป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ หากต้องหยุดขายผักเพื่อไปต่อคิวเป็นเวลาวันสองวัน ก็คงทำให้สูญเสียรายได้
.
มีช่วงแรกๆ ที่มีโครงการ ตนเองต้องเดินทางไปสมัครที่ธนาคารอยู่ 3 วันติด แต่ก็ไม่ถึงคิว แม้จะไปตั้งแต่เช้าตรู่ แต่คิวที่ได้ก็ปาเข้าไปกว่าลำดับที่ 300 ทำให้ถอดใจตั้งแต่ครั้งนั้นมา ครั้งต่อๆ มา ไม่ว่าเฟสไหนตนเองจึงไม่เข้าร่วม เพราะเบื่อหน่ายกับขั้นตอนที่ยุ่งยาก แม้เงินที่รัฐบาลให้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่ตนเองก็ขอขายผักไปแบบนี้ ดีกว่าต้องไปลำบากเข้าคิว อีกอย่างตนเองอายุมากแล้ว เรียนไม่สูง อ่านหนังสือไม่ออก ถอนแค่เงินได้ แม้การผักจะได้กำไรวันละไม่กี่ร้อยก็พอใจ
.

.
"ช่อ" ป้อง "เท้ง" งัดดิจิทัลฟุตปรินต์สมัย "อุ๊งอิ๊ง" ยันไม่ได้แก้ต่างให้ "อนุทิน" หลังโดนจวก "พรรคฝ่ายค้ำ"
.
องครักษ์ “ช่อ” ทำงาน! งัดหลักฐานโชว์คนวิจารณ์ “เท้ง” เป็นฝ่ายค้ำ ย้ำ ตอนสมัย “แพทองธาร” ก็ให้สัมภาษณ์แบบนี้
.
8 ต.ค. 2568 น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่าน x ว่า
.
วันนี้สื่อถามคุณเท้งว่าคิดอย่างไรที่นายกอนุทินไปวันเกิดคุณเนวิน แทนที่จะไปลงพื้นที่น้ำท่วม คุณเท้งตอบว่านายกคงไปทุกพื้นที่ไม่ได้ สำคัญคือต้องสั่งการแก้ปัญหาเป็นระบบและทันท่วงที
.
สื่อหลายสำนักนำไปพาดหัว ผู้คนวิจารณ์ว่าพรรคฝ่ายค้ำ แก้ต่างให้อนุทิน ถ้าเป็นแพทองธารคงด่าเละ แต่จากดิจิทัลฟุตพรินท์ พบว่าคุณเท้งพูดเหมือนกันทั้งนายกอิ๊ง และนายกหนู
.
.
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/DQXjWLz-iK8
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.

.
จิสด้า ส่องดาวเทียม ผงะ 3 จังหวัดภาคกลาง น้ำท่วมทะลุกว่า 2.9 แสนไร่ พื้นที่เกษตรหนักสุด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9969730
.
จิสด้า ส่องดาวเทียม THEOS-2 ผงะพบ 3 จังหวัดภาคกลาง ท่วมทะลุกว่า 2.9 แสนไร่ น้ำเริ่มขังเน่าเสีย ครอบคลุมพื้นที่เกษตร-ชุมชน-เส้นทางคมนาคม
.
8 ต.ค. 68 – สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า GISTDA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัติกรรม เปิดเผยข้อมูลจากภาพถ่ายจากดาวเทียม THEOS-2 วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา เผยให้เห็นน้ำท่วมขั พื้นที่บางส่วน 3 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อยุธยา นครสวรรค์ พิจิตร รวมแล้วกว่า 296,300 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตร ชุมชน และเส้นทางคมนาคมบางส่วน
.
จากภาพแสดงให้เห็นสีน้ำท่วมขังที่แตกต่างกันไป บริเวณสีดำแสดงว่า น้ำท่วมขังเริ่มเน่าเสีย ในขณะที่บริเวณสีน้ำตาลโทนสว่าง จะเป็นน้ำที่ปะปนมากับตะกอน และเป็นโซนที่มีลักษณะน้ำท่วมแบบน้ำไหล ซึ่งส่วนมากเป็นพื้นที่ใกล้ลำน้ำ
.
สำหรับภาพจาก THEOS-2 พร้อมด้วยข้อมูลการวิเคราะห์ ถูกส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป ทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังเพิ่มเติมได้ที่ https://disaster.gistda.or.th
.

.
ทัพภาค 2 เผย เขมร เริ่มขยับ ลุยปรับปรับฐานปฎิบัติการ เตรียมพร้อมรถถัง ตรวจพบโดรนต่อเนื่อง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5403181
.
ทัพภาค 2 เผย เขมร เริ่มขยับ ลุยปรับปรับฐานปฎิบัติการ เตรียมพร้อมรถถัง ตรวจพบโดรนต่อเนื่อง
.
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สถานการณ์โดยรวม มีการตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา โดยตรวจพบโดรนบริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย 2 ลำ, ตรวจพบรถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกทรายเต็มคัน คาดว่าเป็นการนำส่งฐานปฏิบัติการปรับปรุงที่มั่น, ตรวจพบการปรับปรุงซ่อมแซมเปลี่ยนหลังคาใหม่โรงเก็บรถถัง, ตรวจพบกลุ่มควันสีขาวจับตัว เป็นก้อน 3 จุด คาดว่าเป็นการอุ่นเครื่องรถถังอยู่กับที่ และได้ยินเสียงเลื่อยยนต์จากฝั่งตรงข้าม บริเวณหน้าบังเกอร์ระยะห่างออกไปประมาณ 80 ม. ทางทิศตะวันตกของปราสาทตาเมือน คาดว่าเป็นการเสริมการตั้งรับและขยายแนวสังเกตการณ์ และเตรียมเส้นทางยุทธวิธี
.
ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
.
กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการรับข้อมูลข่าวสาร ที่คลาดเคลื่อน บิดเบือน หรือข่าวปลอม (Fake news) ขอให้ประชาชน โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และติดตามข้อมูล จากช่องทางอย่างเป็นทางการจากส่วนราชการ ซึ่งสามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้อง และทันเวลา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่