JJNY : โรมย้อนธรรมนัส ไหนบอกอย่าปากกล้าขาสั่น│สมชัยตลกสุริยะตั้งเป้าส.ส.│IMF หดหู่เขมรปฏิเสธรักษา│กต.สั่งเร่งตรวจสอบ

โรม ย้อนธรรมนัส ไหนบอกอย่าปากกล้าขาสั่น แต่ไม่มาแจงกมธ. ลั่นเก็บข้อมูลปราบแก๊งคอล ตายยกรัง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5402177
.
.
‘โรม’ ย้อน ‘ธรรมนัส’ ไหนบอกว่าอย่าปากกล้าขาสั่น แต่ตัวเองกลับไม่กล้าเผชิญหน้าความจริง เข้าแจง ‘กมธ.มั่นคงฯ’ ปม ‘เบนจามิน’ ยันเก็บข้อมูลปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบตายยกรัง ลั่นไทยกำลังเจอปัญหาทุนเทายึดชาติ
.
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 8 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการเชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ามาชี้แจงใน กมธ.เกี่ยวกับเรื่องนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือเบน สมิธ โดย ร.อ.ธรรมนัสยืนยันว่าจะไม่มาว่า ตอนนี้สับสนว่าควรจะเชื่อ ร.อ.ธรรมนัสเรื่องอะไรบ้าง เนื่องจากพูดหลายอย่าง และมองว่า ร.อ.ธรรมนัสน่าจะมีปัญหาด้านสุขภาพ และล่าสุดเล่นใหญ่บอกว่าจะฟ้องตน แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้อยากถูกฟ้อง แต่หลังจากนั้นคนที่ตัดสินใจมาฟ้องจริงๆ โดยใช้ทีมงานของ ร.อ.ธรรมนัส คือนายเบนจามิน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
.
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ก่อนหน้านั้น ร.อ.ธรรมนัสก็ะบุว่าพร้อมมาให้ข้อมูลกับ กมธ. เช่นเดียวกับทนายความของ ร.อ.ธรรมนัสเอง แต่ไปๆ มาๆ ทราบข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัสไม่มาแล้ว จะส่งทนายความมาเอง ย้ำว่าตอนนี้ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะเชื่อ ร.อ.ธรรมนัสอะไรได้บ้าง และไม่ค่อยมั่นใจว่า ร.อ.ธรรมนัสมีเครดิตอะไรในการที่จะให้ความเห็นหรือไม่ เพราะในเมื่อวันนี้พูดอย่าง วันถัดมาก็พูดอย่าง เป็นคนที่ตนมองว่าเชื่อถือได้ยาก
.
ต้องตั้งคำถามไปยัง ร.อ.ธรรมนัสว่าไหนบอกว่าอย่าปากกล้าขาสั่นแล้วกัน แต่ตอนนี้ตกลงแล้ว ร.อ.ธรรมนัส ไม่กล้าที่จะมาเผชิญหน้ากับความจริง และในวันที่ 9 ตุลาคม ผมจัดเวลาสำหรับการสอบข้อเท็จจริงจาก ร.อ.ธรรมนัสค่อนข้างน้อย แค่ 1 ชม. คือช่วงเวลา 11.30 น. ไม่เกิน 12.00 น. และเข้าใจว่าในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีและรองนายกฯคงมีภารกิจจำนวนมากมาย แต่การที่มาชี้แจงกับ กมธ.ไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ มีรัฐมนตรีหลายคนที่เคยมาชี้แจงกับ กมธ. แต่ทำไม ร.อ.ธรรมนัสไม่กล้ามาเผชิญกับความจริง และท่านควรมาชี้แจงให้ชัดเจนกับสื่อมวลชน” นายรังสิมันต์กล่าว
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า วันที่ 9 ตุลาคม ตนได้เตรียมไว้หลายเรื่อง ทั้งเรื่องนายเบนจามิน เรื่องอาคารของกัมพูชาที่ล้ำเข้ามาในจังหวัดตราด โดยยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับนายเบนจามิน แต่ยืนยันว่าเราจะสอบเรื่องของนายเบนจามินแน่นอน โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล เพื่อมาดูในเรื่องของเส้นเงิน เนื่องจากหลักฐานที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์คือเส้นทางการเงินว่าจะเข้าเงื่อนไขการเอาผิดได้หรือไม่
นายรังสิมันต์กล่าวว่า เชื่อว่าเมื่อสอบข้อเท็จจริงไปเรื่อยๆ จะมีขั้นตอนทางกฎหมายในการส่งเรื่องต่อให้หน่วยงานเอาผิดทางกฎหมายที่จะตามมา แต่วันนี้พยามใช้กลไกกรรมาธิการสอบข้อเท็จจริงให้ครบและมัดแน่นที่สุด ยืนยันว่าจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
.
เมื่อถามว่า ข้อมูลขณะนี้เพียงพอที่จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลได้หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเรียกข้อมูลทั้งหมด และเห็นว่าการที่ทีมงานของ ร.อ.ธรรมนัสในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ค่อนข้างดี เช่น นายเบนจามิน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฯ ฮุน เซน ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นคนแนะนำให้กับ ร.อ.ธรรมนัสรู้จักกันมานานเป็นปี และมีการจัดที่ปรึกษาดูแลนายเบนจามินในเรื่องธุรกิจ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะนอมินี ดังนั้น ต้องสอบกันต่อไป เพราะธุรกิจหลายอย่างที่เชื่อมโยงไปถึงนายเบนจามินฟังดูแล้วคล้ายนอมินี ยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมมากที่สุดและเรียกข้อมูลมาสอบ
.
ตอนนี้อยากจะเก็บข้อมูลและนำไปสู่ที่เรียกว่าตายยกรัง เอาให้เป็นลักษณะแบบนั้น สาวถึงใคร เจอใคร ดำเนินการอย่างแน่นอน ไม่ต้องห่วง บางคนบอกว่าเรื่องนี้มีมูลหรือไม่ เรื่องนี้เต้าข่าวหรือไม่ เอาข่าวมาเล่นไม่มีข้อเท็จจริงหรือไม่ ไม่เป็นไร รอดู ผมค่อนข้างมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้รับมามันชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ใช่แค่หยุดที่คุณธรรมนัส ผมอยากใช้ประโยคนี้ เรื่องนี้มันใหญ่มาก เป็นเรื่องที่อยากให้สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสำคัญ” นายรังสิมันต์กล่าว
.
นายรังสิมันต์กล่าวด้วยว่า วันนี้สิ่งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญคือทุนเทากำลังจะยึดชาติเรา นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าทุนสีเทาทั้งหลายกำลังจะยึดประเทศของเราผ่านธุรกิจ ผ่านบริษัทที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ ในเรื่องนี้แทนที่จะกล่าวหาคนที่เปิดโปง มากล่าวหาตน ย้อนถามว่าหากมองไปรอบตัวไม่รู้สึกถึงความผิดปกติเลยใช่หรือไม่ว่าประเทศของเราเต็มไปด้วยเรื่องสีเทา เรื่องสี เรื่องของคนไม่สมควรอยู่ในประเทศนี้ แต่สามารถเข้ามาอยู่ในประเทศแล้วยึดธุรกิจของคนไทย
.
ถ้าพวกคุณไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ ต้องส่องกระจกแล้วถามตัวเองว่ายังมีจิตสำนึกกันหรือเปล่า แต่ถ้ารู้สึกว่าวันนี้ประเทศกำลังเผชิญกับภัยอันตรายขนาดนี้ แล้วผมในฐานะที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ ผมคิดว่าเราควรสนับสนุนกันและกัน” นายรังสิมันต์กล่าว
.
เมื่อถามว่า ยังยืนยันที่จะเดินหน้าหรือไม่แม้ว่าจะมีการฟ้องปิดปาก นายรังสิมันต์กล่าวว่า ไม่มีความลำบากใจเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย เพราะรู้ว่าตนกำลังทำอะไร การที่ตนเอ่ยชื่อตรงๆ เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ให้ได้รู้กันว่าคนที่ออกมาแฉเรื่องทุนสีเทา สุดท้ายพวกทุนเทาจะมีมาตรการเรื่องนิติสงคราม จะยืนยันเพื่อปกปิดปากตนสำเร็จ ก็ให้รู้กันไปว่าคนที่ออกมาพูดเรื่องแบบนี้สุดท้ายจะได้รับผลเสียหายเอง
.
เมื่อถามว่า จะสามารถเปิดเผยกระบวนการเหล่านี้ได้สำเร็จหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า จะทำอย่างเต็มที่ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ตนคนเดียว แต่อยู่ที่คนอยู่ในกระบวนการยุติธรรม คนที่อยู่ในรัฐบาล คนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนตัวในฐานะ ส.ส.และ กมธ.ยืนยันทำอย่างดีที่สุด
.

.
สมชัย ชมสปิริตอิ๊งค์ พาพท.สู้ต่อ แม้อดนั่งแคนดิเดตนายกฯ ตลกสุริยะตั้งเป้า 200 ส.ส. ตัวเลขเกินจริง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5401997
.
สมชัย ชมสปิริต ‘อิ๊งค์’ พาเพื่อไทยสู้ต่อ แม้ตัวเองอดนั่งแคนดิเดตนายกฯ กังขายังไม่เปิดตัวใคร จะจูงใจคนมาเลือกได้หรือ ตลก ‘สุริยะ’ ตั้งเป้ากวาด ส.ส. 200 คน ตัวเลขเกินจริง
.
จากกรณีพรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมเปิดตัวผู้เสนอตัวสมัครเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวน 185 คน โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค มอบหมายให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง สู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมตั้งเป้า ส.ส.เพื่อไทย จะได้ไม่น้อยกว่า 200 คน บวกลบ 10%
.
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นาย สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุทาง เฟซบุ๊ก ปั่นไปไหน-สมชัย ศรีสุทธิยากร ถึงกิจกรรมดังกล่าวว่า
.
ยกเครื่องพรรคเพื่อไทย ชมแพทองธาร ตำหนิทีมงาน
.
การจัด event ยกเครื่องพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 เป็นการพยายามให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยกำลังพยายามกอบกู้ขาลงของตัวเอง ห้ามเลือดให้หยุดไหลออก และสร้างความหวังแก่เลือดใหม่ที่จะไหลเข้า
.
แต่สิ่งที่เป็นข้อสังเกตจากการจัดงานดังกล่าว คือ คุณแพทองธารทำได้ดีเมื่อเป็นตัวของตัวเอง แต่พอเข้าสคริปต์กลับมีแต่ตรรกะที่เอาตัวไม่รอด
.
1.การพูดในช่วงต้นและท้ายของเธอ ดูเป็นธรรมชาติและจริงใจ สะท้อนถึงการไม่ยอมแพ้และสร้างกำลังใจให้กับคนในพรรคว่าจะไม่ทิ้งกัน แม้ว่าตัวเองอยาก แต่ไม่สามารถเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคได้อีก
.
2.ส่วนที่เป็นสคริปต์ มีจุดอ่อนมากมาย ตัวอย่างได้แก่ การปรับโครงสร้างต่างๆ ของพรรคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การมีสำนักดูแลกิจการสภา ก็มีคำถามใหญ่ๆ ว่าที่ขาดประชุมกันโครมๆ เหลือไม่ถึง 20% จนสภาล่มบ่อยๆ แม้แต่ กม.ที่พรรคตัวเองเองเสนอก็ยังปล่อยให้ล่ม จะเป็นความหวังได้หรือไม่
.
3.การกล่าวอ้างว่าเป็นรัฐบาลสองปี ทำงานไม่ได้ เพราะระบบราชการไม่ตอบสนอง จากนี้มีประสบการณ์แล้ว ถ้าเป็นรัฐบาลใหม่จะทำได้ดี สคริปต์แบบนี้หลอกเด็กยังไม่ได้
.
4.การยังไม่สามารถเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ 3 คนได้ ยังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าจะมีอะไรที่จะนำมาชักจูงให้คนเลือก ในขณะที่การเปิดตัวผัสมัครเขต 185 คน เป็นคนที่ยังเป็นบ้านใหญ่และคนที่มีชื่อเสียงไม่น่าจะเกิน 30 คน เท่ากับที่เหลือต้องอาศัยกระแสพรรค ที่ปัจจุบันอ่อนแรงและเป็นลบ
.
5.การปล่อยให้คุณสุริยะมาพูดตอนท้ายว่า เลือกตั้งคราวหน้าจะได้ ส.ส.จำนวน 200 +/- ไม่ได้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นที่มากขึ้น เพราะทุกคนประเมินว่า 50-70 คือตัวเลขที่เป็นไปได้ จากการมีบัญชีรายชื่อ 15 และเขตไม่เกิน 55 การพูดตัวเลขที่เกินจริงจึงเป็นเรื่องตลก มากกว่า สร้างความหวังกำลังใจ
.
ชมคุณแพทองธารที่ยังมีสปิริตสู้ทางการเมือง แม้ว่าปัจจุบันตัวเธอไปต่อไม่ได้แล้ว แต่หนักใจกับทีมงานที่จะหาประเด็นพูดให้คนกลับมาเชื่อมั่น หรือมันหาไม่ได้จริงๆ
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่