
.
ณัฐวุฒิ หนุนเปิดสภาวิสามัญ พิจารณาวาระ 2 แก้รธน. ยันไม่เกินพ.ย.เสร็จ ถ้ากมธ.ตกลงกันได้ คาด ได้คำตอบรูปแบบจัดทำรัฐธรรมนูญวันนี้
เมื่อเวลา 09.40 น.วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่…) พ.ศ…. รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ว่า หากมีประเด็นใดเห็นต่างอยู่ เช่น กลไกการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือกลไกการรับฟังความคิดเห็น ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่ออะไร เช่น กรรมาธิการยกร่าง กรรมาธิการร่างสภา หรือสภาที่ปรึกษา คาดว่าวันนี้จะได้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น
.
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนจะเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญหรือไม่ หรือทิศทางของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ตนไม่สามารถตอบในนามของกมธ.ได้ สำหรับกรณีที่ประธานรัฐสภาระบุว่า อยู่ที่ กมธ.จะพิจารณาแล้วเสร็จเมื่อไหร่นั้น ตนยืนยันในกรอบเดิมที่เคยกำหนดไว้ ต่อจากนั้นจะทำรายงานต่อประธานรัฐสภา เพื่อประสานไปยังรัฐบาลต่อไป หากพิจารณาแล้วเสร็จภายในช่วงปิดสมัยประชุม เรายืนยันว่า อยากให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพราะนอกจากพิจารณาเรื่องรัฐธรรมนูญ ยังมีร่างกฎหมายฉบับต่างๆที่รอพิจารณาเช่นกัน
.
เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าอาจจะมีการยุบสภาก่อนเวลาปกติ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทางกมธ.ก็รับข้อมูลไว้เพื่อประกอบการพิจารณาของพวกเรา แต่ยังยืนยันในกรอบเวลาการทำงานแบบเดิม หากตกลงในประเด็นที่มีความเห็นต่างกันได้ ก็จะทำให้เร็วขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ถึงปลายเดือนพฤศจิกายนน่าจะแล้วเสร็จ
.
เมื่อถามถึง กรณีมีความเห็นต่างจะมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ร่างหลักของพรรค ปชน. ใช้คำว่ากรรมาธิการยกร่าง อีกทั้งยังมีสภาที่ปรึกษาด้วย แต่หากที่ประชุมเห็นว่าไม่ต้องมีสภาที่ปรึกษา ก็จะเปลี่ยนเป็นกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว ส่วนร่างฉบับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ใช้คำว่าส.ส.ร. แต่มีที่มาที่ไปไม่เหมือนกัน หรือแม้แต่ฉบับของพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็ใช้ ส.ส.ร. ทั้งนี้ หลักการเราเห็นตรงกัน คือต้องมีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่จะอยู่ในรูปแบบของคณะกรรมาธิการอย่างเดียว หรือ ส.ส.ร. หรือรูปแบบอื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาในวันนี้
.
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า อีกกลไกหนึ่งคือกลไกรับฟังความคิดเห็น โดยฉบับของพรรค ปชน. กำหนดให้เป็นสภาที่ปรึกษาสามารถมาจากการเลือกตั้งโดยตรงได้ เพราะสภาที่ปรึกษาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดทำรัฐธรรมนูญโดยตรง แต่ก็มีเพื่อนสมาชิกห่วงใยว่าจะถูกวินิจฉัยหรือตีความได้ว่าจะขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายพรรค พท. อย่างนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และส.ส.บัญชีรายชื่อ ระบุว่า เราเคยชินกับการมี ส.ส.ร.ก็ให้ทำหน้าที่ดังกล่าวไป และมีอีกข้อเสนอหนึ่งคือให้คณะกรรมาธิการ รับฟังความคิดเห็นได้หรือไม่ และจะเชื่อมโยงกับสมาชิกรัฐสภาแบบใด อย่างไร ที่ประชุมก็จะต้องพิจารณา ฉะนั้น ที่ประชุมไม่ได้มีความขัดแย้ง เพียงแต่เห็นต่างเชิงของชื่อเรียก อำนาจหน้าที่ ที่มาที่ไป ไม่ใช่ขัดแย้งในเชิงหลักการของการมีกลไกจัดทำรัฐธรรมนูญและการรับฟังความคิดเห็น
.
.
โรม ผิดหวังท่าที อนุทิน ปราบสแกมเมอร์ล่าช้า สวนทางวาระแห่งชาติ จี้ ปลด ธรรมนัส พ้น ครม.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5443848
.
โรม ผิดหวังท่าที “อนุทิน” ปราบสแกมเมอร์ล่าช้า สวนทางวาระแห่งชาติ จี้ ปลด “ธรรมนัส” ออกจาก ครม. ไม่ใช่ให้ลาออก บอกสังคมรับไม่ได้กับพฤติกรรม ส่งผลรัฐบาลขาดความเชื่อมั่น ยันข้อมูลที่มีเอาผิดได้ทุกระดับ พร้อมยื่นซักฟอกหาก “เพื่อไทย” คุยด้วย ดักทาง หากนายกฯ ชิงยุบสภาหนีอภิปราย คิดให้ดีไม่ต่างจากโจรอุ้มโจร อุ้มโจร หลายต่อ
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามปัญหาสแกมเมอร์ ว่า หลายประเทศมีความคืบหน้า แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความคืบหน้าน้อยที่สุด ถ้านายกรัฐมนตรีเอาจริง ตนเชื่อว่าหน่วยงานหลายแห่งพร้อมทำหน้าที่ ปัญหาคือขณะนี้ที่หน่วยงานเกียร์ว่างไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง ตนไม่มั่นใจว่าเพราะไม่มีพยานหลักฐาน ไม่มีข้อมูล หรือเป็นเพราะเชื่อมถึงใครหรือไม่ แต่ก็เริ่มเห็นการเริ่มนับหนึ่งในบางกรณี แต่ในกรณีของปรินซ์กรุ๊ป แทบจะไม่มีความคืบหน้าเลย จึงต้องยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องพวกนี้จริงๆ
.
เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ปิดห้องคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ คาดหวังว่าจะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้บ้างหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า หวังว่าจะมีการพูดคุย วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ร.อ.ธรรมนัส ที่ไม่ให้ความร่วมมือในทุกรูปแบบ พยายามใช้กระบวนการทางกฎหมายกลั่นแกล้งสื่อมวลชน และมีข้อสงสัยว่าทุนสีเทาเชื่อมโยงกับ ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่
.
“พฤติการณ์หลายอย่างที่เป็นองค์ประกอบผมได้ข้อสรุปแล้วว่าการให้ ร.อ.ธรรมนัส ไปต่อในฐานะรองนายกรัฐมนตรี จะไม่มีทางสร้างความมั่นใจให้กับรัฐบาลในการที่จะได้ความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาสแกมเมอร์ได้เลย ต้องยอมรับว่าวันเวลาผ่านไป สังคมไทยเราคอยคำตอบและพยายามอยู่หลายครั้ง ก็ชัดเจนว่าความน่าสงสัยของการเชื่อมโยงระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส กับแก๊งสแกมเมอร์ที่เพิ่มขึ้น ซ้ำรอยกับคำพูดคุณชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เข้าไปอีก จึงคิดว่าสังคมไทยไม่น่าจะยอมให้ ร.อ.ธรรมนัสได้ไปต่อในฐานะรองนายกรัฐมนตรี แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณอนุทิน ถ้าคุณอนุทินไม่ทำอะไร สังคมไทยก็จะตั้งคำถามกลับมายังคุณอนุทินเช่นเดียวกัน และอยู่ที่คุณอนุทินว่าตกลงจะเอาอย่างไร จะปราบสแกมเมอร์อย่างไร และก่อนที่จะปราบสแกมเมอร์ ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นปราบรัฐมนตรีสีเทาทั้งหลายที่อยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) นี้ก่อนเลย” นายรังสิมันต์กล่าว
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าผิดหวังกับท่าทีของนายอนุทินและยอมรับว่าคาดหวังมากกว่านี้ การที่นายอนุทินไม่ดำเนินการอะไร เป็นท่าทีที่น่าผิดหวังมากแล้วสวนทางกับสิ่งที่พูด ที่บอกว่านี่คือวาระแห่งชาติ เป็นวาระแห่งชาติได้อย่างไรในเมื่อการแก้ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเลย และยังไม่นับว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้ความร่วมมืออย่างจริงจังกับทาง กมธ. ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ จึงขอตั้งคำถามถึงนายอนุทินว่าอะไรคือรูปธรรมของการแก้ปัญหา อะไรที่บอกว่าเป็นรูปธรรมของการเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ เพราะไม่มีความชัดเจนในเรื่องเหล่านี้เลย วันนี้อาจจะมีการทำเอ็มโอยูกับสหรัฐ แต่จะมีเอ็มโอยูหรือไม่มี ก็ไม่มีความหมาย เพราะเป็นเพียงพิธีการเท่านั้น แต่สิ่งที่อยากเห็นคือรูปธรรมของการทำงาน ในเรื่องความคืบหน้าของความเกี่ยวโยงกันในแต่ละบุคคล ใครเกี่ยวข้องอย่างไรต้องเอาข้อเท็จจริงมาตรวจสอบ สุดท้ายพยานหลักฐานที่สำคัญคือเส้นเงิน
.
เมื่อถามว่า คาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะแนะนำให้ ร.อ.ธรรมมนัสลาออก เหมือนกรณีนายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมช.คลังหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า การตรวจสอบมี 2 ระดับ คือ
.
1.การตรวจสอบทางการเงิน ตนเป็น กมธ.การตรวจสอบทางการเมืองไม่ได้หมายความว่าต้องผิด 100% หรือถูก 100% แต่การตรวจสอบทางการเมืองแค่มีเพียงข้อบ่งชี้ว่าถ้าให้คนเหล่านี้อยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปจะสร้างความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน นี่คือเหตุเพียงพอแล้วในการตรวจสอบ
.
และ 2.การตรวจสอบทางกฎหมาย เป็นขั้นตอนทางกฎหมายซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่หรืออำนาจต้องเป็นคนดำเนินการ ดังนั้นสิ่งที่ กมธ.ทำได้คือรวบรวมพยานหลักฐานของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อส่งให้หน่วยงาน แต่ทั้งสองการตรวจสอบแม้แยกกันทำงาน แต่สามารถเดินคู่ขนานกันไปได้
.
“จริงๆ แล้วเราไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ ร.อ.ธรรมนัสลาออก เราคาดหวังให้นายกรัฐมนตรีปลดออกจาก ครม.เลย นี่คือความคาดหวังของเราไม่ใช่เรื่องของการแสดงสปิริตแล้ว แต่เป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ผ่านมาในทุกรูปแบบและส่อนัยอย่างชัดเจนว่าคนๆ นี้ไม่สามารถให้อยู่ต่อไปในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีได้ ไม่เช่นนั้นจะสร้างความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน” นายรังสิมันต์กล่าว
.
เมื่อถามว่าข้อมูลที่มีจะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ ถ้าต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า พวกเราพร้อมอยู่แล้ว ข้อมูลหลายอย่างเอาไปใช้เป็นข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา และเราพร้อมพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการพูดคุย ส่วนหนึ่งก็มาจากกลไก วิปฝ่ายค้านดำเนินการไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้เข้าร่วมกับวิป ซึ่งเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่จบ ดังนั้นหากจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีเสียงของฝ่ายค้าน 280 กว่าเสียง ถ้ายื่นไปแล้วไม่สำเร็จก็น่าเสียดาย ดังนั้นกลไกของการพูดคุยระหว่างพรรคฝ่ายค้าน มีความสำคัญมากว่าสุดท้ายจะจบอย่างไร
.
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าพร้อมยุบสภาทันทีหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และไม่ยอมให้โดนด่าฟรีว่า นายรังสิมันต์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำได้ตามกฎหมาย แต่อีกมุมหนึ่งสิ่งที่ประชาชนเชื่อ หรือมองจะเป็นอย่างไร อย่างที่นายชาดา บอกว่าตั้งโจรมาปราบโจร ส่วนตัวจึงตั้งคำถามว่า แล้วโจรจะอุ้มโจร อุ้มโจรนั้นมันก็หลายต่อ หากชิงยุบสภาหนีไปก่อน คำถามสำคัญประชาชนจะเข้าใจได้อย่างไร จะกลายเป็นว่าสุดท้ายคือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันหรือไม่ การทำเช่นนี้ใครจะได้ประโยชน์ กลุ่มสีเทาจะได้ประโยชน์ใช่หรือไม่ ตนขอแนะไปยังนายกรัฐมนตรีว่าต้องคิดให้ดี
.
“ผมยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถเอาผิด โดยเฉพาะทางการเมืองกับบุคคลต่างๆ ได้ เอาผิดในการขยายผลเครือข่ายต่างๆ หรือคนที่เกี่ยวข้องได้ทุกระดับ ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายการเมืองเท่านั้น แต่อดีตที่เป็นนายกฯ ที่เป็นรัฐมนตรี นักการเมืองต่างๆ ก็สามารถดำเนินการได้ ต้องยอมรับว่าฝ่ายการเมืองข้าราชการประจำเละเทะ ตำรวจที่มีการแฉออกมาไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน 200 คน กระทั่งคนที่มีหน้าที่ปราบเว็บพนันเข้าไปเกี่ยวข้อง กับการรับส่วยเว็บพนัน ดังนั้นต้องยอมรับว่ากลไกต่างๆ แทบจะไม่เหลืออะไรให้เราเชื่อมั่นแล้ว สิ่งที่พวกผมทำได้ในฐานะที่ยังมีเวลาทางการเมืองที่จะนับถอยหลังไปทุกๆ วัน เราก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหา” นายรังสิมันต์กล่าว
JJNY : ณัฐวุฒิหนุนเปิดสภาวิสามัญ แก้รธน. โรมจี้ปลด ธรรมนัส│โรมอัด ‘บิ๊กต่าย’ หนีปัญหา│ประชุมกมธ.แก้รธน. ซีกรบ.หายอื้อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5443863
.
.
.
.