ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ทุกโรคมียารักษา ดังนั้น ถ้าหากยาถูกใช้ เขาก็จะได้รับการเยียวยา รักษาโดยอำนาจของอัลลอฮฺ” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2204) อัลลอฮฺเป็นผู้สร้างเรา และให้วิธีการรักษาที่ดีที่สุดมาให้ เราจึงควรเชื่อในพระองค์ อัลลอฮฺเท่านั้นที่ช่วยเราได้ ช่วยให้หาย ให้ดีขึ้น (ยา สมุนไพร หมอ หรือวิธีรักษา เป็นเพียงอัสบาบ สาเหตุ ทำหน้าที่ในการรักษา แต่ผลลัพธ์อยู่ที่อัลลอฮฺเท่านั้น) วัลลอฮุอะอฺลัม มี 4 วิธีที่ง่าย และดีขึ้นเร็ว ดังนี้
1. ดุอาอฺทุกอาการ, ดุอาอฺกันไว้, ดุอาอฺแบบนบี
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ไม่มีอะไรที่จะยับยั้งเกาะฎออฺ (การกำหนดสภาวะ) ได้ ยกเว้นดุอาอฺ และจะไม่มีอะไรที่จะเพิ่มอายุได้ ยกเว้นความกตัญญู” (หะดีษหะสัน บันทึกโดย อัตติรฺมิซียฺ)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “การระวังไม่ช่วยให้พ้นจากเกาะดัรฺ (สิ่งที่อัลลอฮฺทรงกำหนด) และดุอาอฺนั้น มีประโยชน์แม้ว่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วหรือยังไม่เกิดขึ้น และบะลาอฺ (ภัยหรือการทดสอบที่รุนแรง) จะถูกกำหนดให้เกิดขึ้น แต่เมื่อมีการขอดุอาอฺแล้ว ทั้งสองสิ่งจะปะทะกันและกัน จนถึงวันกิยามะฮฺ (คือถ้าดุอาอฺมีความแข็งแรง มีอิคลาศมากกว่าก็จะเอาชนะบะลาอฺนั้นได้)” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อัฏฏอบรอนีย และอัลฮากิม)
– ดุอาอฺเป็นวิธีรักษาที่ง่าย และไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ไม่ใช่แค่ขอให้หายป่วย แต่ขอให้หายขาดจากทุกอาการเจ็บป่วย เจ็บป่วยเล็กน้อยก็ควรขอ
– หากมีอาการบ่อย เช่น ปวดเมื่อย ขอดุอาอฺล่วงหน้าขอให้ไม่ปวดเมื่อยได้ เพราะอัลลอฮฺให้..ดุอาอฺยับยั้งเกาะฎออฺ และพ้นเกาะดัรฺได้
2. บริจาคเนียตรักษาโรค
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “พวกท่านจงรักษาโรคของพวกท่านด้วยการบริจาคทาน (เศาะดะเกาะฮฺ) เถิด” (หะดีษหะสัน บันทึกโดยบัยฮะกีย์ เลขที่ 6593)
– ควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อเริ่มมีอาการป่วย สัดส่วนของการบริจาคสำคัญ เช่น โรคร้ายแรง อาการหนัก ต้องใช้ยาแพง การบริจาคในสัดส่วน 1/3 หรือ 1/4 ดีกว่าที่ต้องทานยาเป็นเวลานาน เพราะอัลลอฮฺให้ดีขึ้นเร็ว อินชาอัลลอฮฺ
– คนในครอบครัวบริจาคแทนได้ สำคัญคือ ใจต้องหวังพึ่งอัลลอฮฺ และเชื่อมั่น (ยาเก็น) ว่าอัลลอฮฺช่วยได้เท่านั้น
- ใช้วิธีนี้รักษาสัตว์เลี้ยงได้ ควบคู่กับการรักษาปกติ เช่น ท้องเสีย บริจาคและให้ทานยา ดีขึ้นเร็ว อินชาอัลลอฮฺ
- ตัวอย่าง มีคนเป็นโรคไต ระยะที่ 4 (มี 5 ระยะ) แต่ไม่เหนื่อย ตอนแรกที่โรงพยาบาล หมอวินิจฉัยว่าต้องผ่าตัด ใช้วิธีบริจาคเนียตรักษาโรค แล้วไปหาหมอที่คลินิคเพื่อเช็คอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่ต้องผ่าตัด รักษาแผนปัจจุบัน และทานน้ำมันมะกอกวันละ 1 ช้อนเพียวๆ จึงไม่เหนื่อยง่าย
3. ทานสมุนไพรตามนบี
1) น้ำมันมะกอก
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “พวกท่านจงรับประทานมะกอกและทาด้วยน้ำมันมะกอก เพราะน้ำมันมะกอกนั้นมาจากต้นไม้ที่จำเริญ” (หะดีษ บันทึกโดย อัตติรมิซีย์และอิบนุมาญะฮฺ)
- น้ำมันมะกอกทำหน้าที่ลดความดัน บำรุงหัวใจ เพิ่มพลังงาน ลดไขมัน แก้ริดสีดวง โรคกระเพาะอาหาร แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่ไขมันสูง ควรใช้วิธีอื่นแทน
- วิธีทาน วันละ 1 ช้อนโต๊ะ (ตามด้วยน้ำสมุนไพร น้ำหวาน) หรือผสมในน้ำสลัด สมุนไพรจะลดกลิ่นน้ำมันมะกอกได้ เช่น โหระพา เปเปอร์มินต์ หรือเป็นแคปซูล ทาน้ำมันแก้ปวดเมื่อย
- ตัวอย่าง มีคนเป็นกรดไหลย้อน โรคกระเพราะอาหารกำเริบ ทานน้ำมันมะกอกไปเพียง 1-2 วัน ก็หายปวด
2) น้ำผึ้ง
ชายคนหนึ่งได้มาหาท่านนบี และกล่าวว่า “พี่ชายของฉันมีปัญหาไม่สบายท้องไส้” ท่านรอซูลุลลอฮฺจึงบอกเขาว่า “ให้เขาดื่มน้ำผึ้ง” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 5684)
– รักษาภูมิแพ้ อ่อนเพลีย ท้องผูก โรคกระเพาะ วิธีดื่ม ดังนี้
– 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่นก่อนอาหาร 3 มื้อ แก้โรคกระเพาะ
– 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำเย็น แก้อาการท้องผูก
– 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ ตอนเช้าหรือก่อนนอน รักษาภูมิแพ้ แก้อ่อนเพลีย
– 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น และบีบมะนาวนิดนึง มีสรรพคุณแก้อ่อนเพลีย ตามแบบท่านหญิงฟาตีมะห์ บุตรีท่านรอซูล (หากเป็นกระเพาะ ไม่บีบมะนาวก็ได้ ใช้น้ำเย็นก็ได้)
- ตัวอย่าง มีคนเป็นโรคกระเพาะอาหาร กินยาแผนปัจจุบันไม่หายขาด จึงใช้น้ำผึ้งรักษาแทน จนดีขึ้นหายขาด แต่ถ้าเป็นน้ำมันมะกอกจะหายเร็วกว่า อินชาอัลลอฮฺ อีกคนเป็นภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ดื่มเช้า-ก่อนนอน จากที่หายใจไม่ค่อยออก ต้องไปพ่นยา ก็กลับมาเป็นปกติ (เขาใช้วิธีบริจาคด้วย)
3) ฮับบะตุซเซาดาอ์ (น้ำมันเทียนดำ/เมล็ดยี่หร่าดำ)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “ในฮับบะตุซเซาดาอ์มีการรักษาสำหรับทุกโรค ยกเว้นความตาย” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยบุคอรี เลขที่ 5688)
- รักษาทุกโรค มีสรรพคุณคล้ายยาแผนไทย คือ ขับพิษ สร้างเซลล์ใหม่ ร่างกายแข็งแรง (อาการขับพิษ เช่น ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ปวดหัว ผื่นคัน มีกลิ่นตัว) เริ่มแรกควรบริจาคและขอดุอาอฺ เพราะบางรายอาจมีอาการขับพิษที่มาก หลังจากนั้นใช้สมุนไพรรักษาควบคู่กัน มีแบบซอฟต์เจล ทานสะดวก
- แบบน้ำมัน ทาแก้ปวดเมื่อย แก้อ่อนเพลีย ดีขึ้นเร็วกว่าทายาหม่อง
- ตัวอย่าง มีคนเป็นหลายโรค หาย 2 โรค คือ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ใช้วิธีรักษาแผนปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการทานฮับบะตุซเซาดาอ์
4. ละหมาดตะฮัดญุด
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “จำเป็นที่พวกท่านจะต้องละหมาดในยามค่ำคืน เพราะแท้จริงมันเป็นคุณลักษณะของบรรดาคนดีก่อนหน้าพวกท่าน และการละหมาดในยามค่ำคืนนั้นเป็นสิ่งที่ใช้แสวงหาความใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺ และเป็นการยับยั้งความผิดบาป และลบล้างสำหรับบาปต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการขจัดโรคออกจากร่างกาย” (หะดีษเศาะฮีหฺ ในศอฮีฮุลญามิอฺ เลขที่ 4079)
- ผู้ที่ละหมาดเป็นประจำ อัลลอฮฺจะให้เขาปลอดภัยจากโรค บะลาอฺร้ายๆ ฟิตนะห์ร้ายๆ บาปใหญ่ๆ ปัญหาเดือดร้อนใหญ่ๆ จะไม่เกิดขึ้นกับคนละหมาดตะฮัดญุด
– ละหมาดยามค่ำคืน เป็นช่วงเวลาที่อัลลอฮฺทรงตอบรับทุกคำวิงวอน เป็นโอกาสในการขออภัยโทษและขอบคุณพระองค์ ใจสงบด้วย แต่อย่าลืมเนียตละหมาดเพื่ออัลลอฮฺ อาการเจ็บป่วยเป็นผลพลอยได้
ทุกโรคมียารักษา อิสลามมียารักษาทุกโรค
– หากมีอาการบ่อย เช่น ปวดเมื่อย ขอดุอาอฺล่วงหน้าขอให้ไม่ปวดเมื่อยได้ เพราะอัลลอฮฺให้..ดุอาอฺยับยั้งเกาะฎออฺ และพ้นเกาะดัรฺได้
– คนในครอบครัวบริจาคแทนได้ สำคัญคือ ใจต้องหวังพึ่งอัลลอฮฺ และเชื่อมั่น (ยาเก็น) ว่าอัลลอฮฺช่วยได้เท่านั้น
– 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำเย็น แก้อาการท้องผูก
– 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ ตอนเช้าหรือก่อนนอน รักษาภูมิแพ้ แก้อ่อนเพลีย
– 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น และบีบมะนาวนิดนึง มีสรรพคุณแก้อ่อนเพลีย ตามแบบท่านหญิงฟาตีมะห์ บุตรีท่านรอซูล (หากเป็นกระเพาะ ไม่บีบมะนาวก็ได้ ใช้น้ำเย็นก็ได้)
– ละหมาดยามค่ำคืน เป็นช่วงเวลาที่อัลลอฮฺทรงตอบรับทุกคำวิงวอน เป็นโอกาสในการขออภัยโทษและขอบคุณพระองค์ ใจสงบด้วย แต่อย่าลืมเนียตละหมาดเพื่ออัลลอฮฺ อาการเจ็บป่วยเป็นผลพลอยได้