น้อง“ข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลงจากแม่ อาการดีขึ้นต่อเนื่อง เริ่มยืนเองได้ ทีมสัตวแพทย์เผยเป็นสัญญาณฟื้นตัวที่ดี

“ข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง อาการดีขึ้นต่อเนื่อง เริ่มยืนเองได้ ทีมสัตวแพทย์เผยเป็นสัญญาณฟื้นตัวที่ดี



ทีมสัตวแพทย์จากบึงฉวากและศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่ากระบกคู่ รายงานความคืบหน้าการดูแล “ข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง อาการดีขึ้นต่อเนื่อง กินนมได้ตามปกติ ระบบขับถ่ายดีขึ้น แผลเริ่มสมานตัว และเริ่มยืนได้ด้วยตัวเอง ถือเป็นสัญญาณแห่งความหวังในการฟื้นฟูสู่ธรรมชาติอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 ระหว่างเวลา 06.00–20.00 น. ทีมสัตวแพทย์จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) รายงานความคืบหน้าการดูแล “ข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง ที่อยู่ระหว่างการกายภาพบำบัดฟื้นฟูอาการภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยพบว่าอาการทั่วไปของข้าวต้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ลูกช้างข้าวต้มสามารถ กินนมและน้ำได้ตามปกติ ระบบขับถ่ายทำงานดี อุจจาระมีลักษณะปกติ ส่วนปัสสาวะไม่มีอาการปวดเบ่ง แผลบริเวณสะดือและอวัยวะเพศเริ่มแห้งและสมานตัวดีขึ้น ขณะที่บริเวณเล็บเท้ายังคงต้องทำแผลต่อเนื่องแต่พบหนองเพียงเล็กน้อย

ทีมสัตวแพทย์เผยว่า ข้าวต้มมีกำลังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สามารถ ถีบตัวและพยายามยืนเองได้บ่อยครั้ง ระหว่างการฝึกเดินเจ้าหน้าที่จะช่วยพยุง พร้อมนวดกระตุ้นกล้ามเนื้อ ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์และเลเซอร์บำบัด เพื่อรักษาแผลและบรรเทาอาการปวดจากแผลกดทับ

นอกจากนี้ ข้าวต้มยังได้รับ โปรไบโอติกเพื่อปรับสมดุลลำไส้ และสารน้ำทางหลอดเลือดดำ เพื่อเสริมการฟื้นฟูร่างกาย โดยผลตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทีมสัตวแพทย์ยังได้ปรับวัสดุปูรองนอนเป็น ที่นอนยางพาราขนาด 6 ฟุต เพื่อรองรับน้ำหนักตัวและลดแรงกดทับระหว่างพักฟื้น

ขณะเดียวกัน พบว่าข้าวต้มมีอาการคันบริเวณขาหลัง ซึ่งถือเป็นสัญญาณดี บ่งชี้ถึงการเริ่มสร้างเนื้อเยื่อใหม่ในกระบวนการสมานแผล



การดูแลในครั้งนี้อยู่ภายใต้การกำกับของ สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ร่วมด้วย สพ.ญ.มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) และ น.สพ.วิศรุต ปิยะศิริศิลป์ นายสัตวแพทย์ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า

ทีมสัตวแพทย์ยืนยันจะยังคงดูแล “ข้าวต้ม” อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกช้างป่าตัวน้อยสามารถฟื้นตัวเต็มที่ และกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อย่างแข็งแรงในอนาคต...

ที่มา https://www.dailynews.co.th/news/5174520/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่