ดร.จักษ์'สับแหลก!!! 'พรรคส้ม' ใช้ 'วาทกรรม​ บิดโลกฟอกขาวการเมือง 'นาซี' ยังต้องกราบ

กระทู้คำถาม
การเมืองไทยสมัยนี้มันอาจไม่ได้แข่งกันที่ “นโยบาย” ว่าใครมีนโยบายที่ดีกว่า ใครสามารถนำนโยบายสู่การปฏิบัติได้มากกว่า  แต่มันแข่งกันที่ “ดิกชันนารี” ว่าใครจะหาคำโก้ คำเท่ คำที่ฟังแล้วเหมือนเป็นวิสัยทัศน์ ทั้งที่เนื้อแท้คือการเมืองแบบเดิมดักดาน—เพียงแต่ใส่โบว์ใหม่ให้มันดูหรูหรา
Siam Mix  สรุปให้เห็น “พรรคประชาชน” (หรือใครจะเรียก “พรรคส้ม” ก็แล้วแต่ใจ) ใช้วิธีการสื่อสารในลักษณะบิดคำเพื่อฟอกขาว
คนอื่นทำ = บาป 
คนอื่นดีลลับ = สกปรก 
คนอื่นประนีประนอม = ขายชาติ 
แต่พอถึงตาตัวเอง… ว่าไงครับ?
ผสมพันธุ์ข้ามขั้ว → เรียกว่า Grand Compromise (โคตรโก้! ฟังแล้วเหมือนการสร้างสันติภาพโลก)
ดีลใต้โต๊ะ → กลายเป็น การประสานหลังบ้าน (โอ้โห…ประสานราวกับเล่นดนตรีซิมโฟนี)
กลับคำตามสถานการณ์ → สวมฉายา มีรุก มีถอย ตามสถานการณ์ (อ๋อ! นี่มันคือการ “ปรับตัวเชิงกลยุทธ์” ไม่ใช่กลับกลอกนะจ๊ะ)
หักหลังมิตร → บอกว่า ความชั่วร้ายที่จำเป็น (คือถ้าเป็นพรรคอื่น = เลว ถ้าเป็นกู = ยุทธศาสตร์)
เด็กเส้น ลูกบ้านใหญ่ → กลายเป็น คนรุ่นใหม่มีอุดมการณ์ (ขอโทษนะครับ…นี่มันเด็กเส้น 5 ดาวเสิร์ฟพร้อมซอส “ฟอกขาว” ชัดๆ)
นี่แหละครับ ความเป็นเลิศของพรรคนี้ — ไม่ได้เด่นที่ “ผลงาน” แต่เด่นที่ “พจนานุกรมบิดความจริง”
การเมืองไทยเลยกลายเป็น “สนามของการบิดคำ” มากกว่าสนามแก้ปัญหาประเทศ 
คุณทำผิด? = เลว. 
พรรคกูทำผิด? = วาทกรรมอธิบายได้
นี่คือวิชาฟอกขาวเชิงภาษาศาสตร์ที่นาซีเองยังต้องกราบ!
คำถามสำคัญคือ… ประชาชนต้องการนักภาษาศาสตร์ หรือ นักการเมืองที่กล้าทำ กล้ารับผิดชอบ?
เพราะสุดท้าย ข้าวในหม้อ น้ำมันที่ปั๊ม ค่าไฟในบิล มันไม่ได้ลดลงด้วยคำศัพท์โก้ๆ หรอกครับ
จักษ์ พันธ์ชูเพชร
๔ ตุลาคม ๒๕๖๘

ข่าว​
https://www.naewna.com/politic/918813
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่