สวัสดีค่ะทุกคน เราอยากมาเล่าเรื่องที่เจออยู่ตอนนี้แล้วขอคำแนะนำจากชาวพันทิปหน่อยค่ะ
เราเพิ่งทำงานบริษัทชิปปิ้งมาได้ประมาณ 5–6 เดือน ที่นี่เป็นบริษัทเล็ก บรรยากาศแบบครอบครัว เวลาในการทำงานยืดหยุ่น ซึ่งมันดีตรงที่เรายังสามารถเรียนต่อป.ตรีไปด้วยได้
แต่ปัญหาคือ… นอกจากงานบริษัทจริงๆ เรากลับถูกใช้งานเหมือน “เบ๊” อยู่ตลอด เช่น ต้องไปซื้อบุหรี่ให้เจ้านาย ล้างจานถ้าวันไหนกินข้าวร่วมกัน ต้องไปรับพัสดุให้เวลาคนในออฟฟิศสั่งของออนไลน์ แม้แต่ตอนเราเข้าห้องน้ำ ถ้ามีคนมาติดต่อก็ยังมาเคาะตามให้เราออกไปรับ ทั้งๆ ที่มันควรเป็นหน้าที่ใครก็ได้ที่อยู่ตรงนั้น
ที่นี่เจ้านายสนับสนุนให้พนักงานมีอาชีพเสริมในออฟฟิศได้ ซึ่งจริงๆ ก็ดูเป็นเรื่องดี แต่กลายเป็นว่าเรากลับถูกลากไปช่วยทำเต็มๆ ทั้งที่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย
กรณีพี่ A อยากเปิดร้านขายกะเพรา เราต้องช่วยเด็ดกะเพรา ตำพริก ตำกระเทียม ออกไปส่งออเดอร์ ออกแบบโลโก้ร้าน ถ่ายรูปแต่งรูป ทำช่องทางขายออนไลน์ให้ (ไลน์แมน แกร๊ป ช้อปปี้ฟู้ด) เพราะพี่เขาทำไม่เป็น พอเราซื้อกินร้านเขา เรายังต้องจ่ายเงินเอง ทั้งที่ช่วยทำไปตั้งเยอะ ตอนนี้เจ้านายยังสั่งให้เรามาทำงานเช้าขึ้นเพื่อช่วยพี่ A เปิดร้านและรับออเดอร์อีกด้วย
กรณีพี่ B อยากขายชาไทย วันหนึ่งเราขออุดหนุนเป็นลูกค้าคนแรก แต่กลับถูกบอกให้ไปหาน้ำแข็งเอง แล้วทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่นำน้ำชาใส่แก้ว ปิดฝา ถ่ายรูปให้เขา แถมชาไทย 1 ถุงที่ให้มายังได้แค่ครึ่งแก้ว พอเราทักว่ามันน้อย เขาก็บอกว่าปกติจะใส่นมมาแต่วันนี้ไม่ได้ใส่ ให้เราไปหานมเอง ถ้าเอามาใส่เพิ่มก็จะคิดเงินเพิ่มอีก… ทั้งที่เราก็เสียตังซื้ออยู่แล้ว
พูดตรงๆ เรารู้สึกว่าเราไม่ได้ทำงานบริษัทจริงๆ เลย แต่ถูกใช้เป็นแรงงานฟรีให้ทั้งเจ้านายและเพื่อนร่วมงานมากกว่า เราเองก็เป็นคนนิสัยเกรงใจ ไม่ค่อยกล้าปฏิเสธ กลัวบรรยากาศในออฟฟิศเสีย แต่ก็เริ่มเหนื่อยและไม่แฟร์กับตัวเองแล้วค่ะ
ตอนนี้เราเลยลังเลว่า ควรจะทำยังไงต่อดี?
ควรปฏิเสธชัดเจนไปเลยว่ามันไม่ใช่หน้าที่เรา?
ควรคุยกับเจ้านายตรงๆ ว่าเราอยากโฟกัสงานชิปปิ้ง ไม่ใช่ช่วยงานเสริมของคนอื่น?
หรือควรทนเก็บประสบการณ์ไปก่อน เพราะเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน?
อยากได้คำแนะนำจากชาวพันทิปค่ะ ว่าถ้าเป็นทุกคน จะเลือกทางไหนกัน
คือจริงๆ ก็อยากลาออก แต่มีภาระหลายอย่าง รวมถึงการบริการเวลาเพื่อได้เรียนต่อด้วย เงินเดือนที่นี่ก็ไม่น่าเกลียดค่ะ เลยคิดหนักมากกก
ทำงานบริษัท แต่ถูกใช้เหมือนแรงงานฟรี ทั้งงานบริษัท งานใช้ส่วนตัว และงานเสริมของเพื่อนร่วมงาน
เราเพิ่งทำงานบริษัทชิปปิ้งมาได้ประมาณ 5–6 เดือน ที่นี่เป็นบริษัทเล็ก บรรยากาศแบบครอบครัว เวลาในการทำงานยืดหยุ่น ซึ่งมันดีตรงที่เรายังสามารถเรียนต่อป.ตรีไปด้วยได้
แต่ปัญหาคือ… นอกจากงานบริษัทจริงๆ เรากลับถูกใช้งานเหมือน “เบ๊” อยู่ตลอด เช่น ต้องไปซื้อบุหรี่ให้เจ้านาย ล้างจานถ้าวันไหนกินข้าวร่วมกัน ต้องไปรับพัสดุให้เวลาคนในออฟฟิศสั่งของออนไลน์ แม้แต่ตอนเราเข้าห้องน้ำ ถ้ามีคนมาติดต่อก็ยังมาเคาะตามให้เราออกไปรับ ทั้งๆ ที่มันควรเป็นหน้าที่ใครก็ได้ที่อยู่ตรงนั้น
ที่นี่เจ้านายสนับสนุนให้พนักงานมีอาชีพเสริมในออฟฟิศได้ ซึ่งจริงๆ ก็ดูเป็นเรื่องดี แต่กลายเป็นว่าเรากลับถูกลากไปช่วยทำเต็มๆ ทั้งที่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย
กรณีพี่ A อยากเปิดร้านขายกะเพรา เราต้องช่วยเด็ดกะเพรา ตำพริก ตำกระเทียม ออกไปส่งออเดอร์ ออกแบบโลโก้ร้าน ถ่ายรูปแต่งรูป ทำช่องทางขายออนไลน์ให้ (ไลน์แมน แกร๊ป ช้อปปี้ฟู้ด) เพราะพี่เขาทำไม่เป็น พอเราซื้อกินร้านเขา เรายังต้องจ่ายเงินเอง ทั้งที่ช่วยทำไปตั้งเยอะ ตอนนี้เจ้านายยังสั่งให้เรามาทำงานเช้าขึ้นเพื่อช่วยพี่ A เปิดร้านและรับออเดอร์อีกด้วย
กรณีพี่ B อยากขายชาไทย วันหนึ่งเราขออุดหนุนเป็นลูกค้าคนแรก แต่กลับถูกบอกให้ไปหาน้ำแข็งเอง แล้วทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่นำน้ำชาใส่แก้ว ปิดฝา ถ่ายรูปให้เขา แถมชาไทย 1 ถุงที่ให้มายังได้แค่ครึ่งแก้ว พอเราทักว่ามันน้อย เขาก็บอกว่าปกติจะใส่นมมาแต่วันนี้ไม่ได้ใส่ ให้เราไปหานมเอง ถ้าเอามาใส่เพิ่มก็จะคิดเงินเพิ่มอีก… ทั้งที่เราก็เสียตังซื้ออยู่แล้ว
พูดตรงๆ เรารู้สึกว่าเราไม่ได้ทำงานบริษัทจริงๆ เลย แต่ถูกใช้เป็นแรงงานฟรีให้ทั้งเจ้านายและเพื่อนร่วมงานมากกว่า เราเองก็เป็นคนนิสัยเกรงใจ ไม่ค่อยกล้าปฏิเสธ กลัวบรรยากาศในออฟฟิศเสีย แต่ก็เริ่มเหนื่อยและไม่แฟร์กับตัวเองแล้วค่ะ
ตอนนี้เราเลยลังเลว่า ควรจะทำยังไงต่อดี?
ควรปฏิเสธชัดเจนไปเลยว่ามันไม่ใช่หน้าที่เรา?
ควรคุยกับเจ้านายตรงๆ ว่าเราอยากโฟกัสงานชิปปิ้ง ไม่ใช่ช่วยงานเสริมของคนอื่น?
หรือควรทนเก็บประสบการณ์ไปก่อน เพราะเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน?
อยากได้คำแนะนำจากชาวพันทิปค่ะ ว่าถ้าเป็นทุกคน จะเลือกทางไหนกัน
คือจริงๆ ก็อยากลาออก แต่มีภาระหลายอย่าง รวมถึงการบริการเวลาเพื่อได้เรียนต่อด้วย เงินเดือนที่นี่ก็ไม่น่าเกลียดค่ะ เลยคิดหนักมากกก