JJNY : ปชน.แนะลดค่าไฟให้ปชช.ได้│“เต้”ชี้ไม่เคยไว้วางใจอนุทิน│กัมพูชาส่งดาวน์ซินโดรมเป็นทหาร│ยูเครนถล่มโรงงานอาวุธรัสเซีย

ปชน. กางไทม์ไลน์ 4 เดือน แนะรบ.ทำตามนี้ จะลดค่าไฟให้ปชช.ได้ หน่วยละ 30 สต.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5389579
.
.
สส.ปชน. กางไทม์ไลน์สอนรัฐบาล ‘อนุทิน’ แต่ละเดือนควรทำอะไรเพื่อลดค่าไฟให้ปชช. บอก หากทำได้ค่าไฟจะลดลงได้อย่างน้อย 30 สตางค์ต่อหน่วย
.
เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ) เป็นพิเศษ มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ
.
จากนั้น 20.30 น. นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ทุกคนทราบดีว่าสถานการณ์ทางการเมืองเราอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ และรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เข้ามาเพื่อบริหารประเทศในวาระปกติ 4 ปี แต่เป็นรัฐบาลเฉพาะกาล ที่ตกลงกันอย่างชัดเจนว่าจะทํางานเพียงแค่ 4 เดือน แล้วคืนอํานาจให้พี่น้องประชาชนผ่านการยุบสภา
.
ดังนั้น สิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากรัฐบาลนี้ไม่ใช่การสร้างโครงการใหม่ที่หวือหวา วาดฝันให้กับประชาชน ไม่ใช่การเดินหน้าโครงการที่ซับซ้อนเกินกําลังตัวเอง แต่สิ่งที่ทุกคน รวมถึงตนพอจะคาดหวังกับรัฐบาลนี้ได้ภายใต้กรอบระยะเวลาสั้นๆ คือ การเข้าไปสะสางปัญหาเก่าที่รัฐบาลในอดีตปล่อยปละละเลย
นายศุภโชติ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนยังไม่เห็นในคําแถลงนี้คือ รัฐบาลจะเข้าไปสะสางปัญหาเก่าที่เป็นต้นเหตุหลักของค่าไฟแพง เนื่องจากประเทศไทยกําลังเจอวิกฤตพลังงานที่สะสมมายาวนาน ฉะนั้น ในช่วงเวลาที่มีอยู่จํากัดเพียง 4 เดือน ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ดําเนินงานเพียง 4 เรื่องใหญ่เท่านั้น ซึ่งจะเป็น 4 เรื่องที่จะช่วยลดค่าไฟให้ประชาชน รวมไปถึงเป็นการสร้างฐานของประเทศให้แข็งแรงได้ และขอยืนยันว่า ทุกเรื่องที่ตนกําลังจะอภิปรายนั้น รัฐบาลสามารถตัดสินใจได้ทันทีบนโต๊ะประชุม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่ท่านนายกฯ นั่งเป็นประธาน
.
โดยเดือนที่ 1 ยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบ Adder เนื่องจากปัญหาที่เรื้อรังที่สุดอย่างหนึ่งคือสัญญา Adder ที่รัฐเคยทํากับผู้ประกอบการพลังงานหมุนเวียนในอดีต โดยให้การสนับสนุนเพิ่มจากราคาปกติ เพื่อจูงใจการลงทุนในช่วงที่เทคโนโลยียังใหม่ แต่เวลาผ่านไปสิบกว่าปี ต้นทุนพลังงานหมุนเวียนลดลงมหาศาล ราคาพลังงานแสงอาทิตย์และลมถูกลงเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ แต่สัญญา Adder ยังคงบังคับใช้อยู่ แถมยังเป็นสัญญาที่ถูกตีความว่า ไม่มีวันหมดอายุจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อต้นทุนพลังงานหมุนเวียนลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีเอกชนจํานวนหนึ่งที่ยังคงขายไฟให้กับพี่น้องประชาชนในราคาที่แพงกว่า 3 บาท ทั้งที่ต้นทุนของโรงไฟฟ้าเหล่านี้อยู่แค่ 1 บาทกว่าเท่านั้น ถ้าเทียบกับโครงการ RE Big Lot ของปีที่แล้วที่ เราบ่นกันว่าแพง ยังแค่ 2 บาท แต่สัญญา Adder ในอดีตอันนี้ กลับรับซื้อ 3 บาท แถมซื้อไปเรื่อยๆ แบบไม่จบไม่สิ้น สิ่งนี้ชัดเจนว่าทําให้ประชาชนต้องแบกรับค่าไฟที่สูงกว่าความเป็นจริง
ทั้งนี้ หากยกเลิกได้ เราจะสามารถช่วยลดค่าไฟได้ถึง 17 สตางค์ต่อหน่วย ดังนั้น เดือนแรกของรัฐบาลนายอนุทิน จึงขอให้เริ่มต้นด้วยการทบทวนและยกเลิกสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้
.
นายศุภโชติ กล่าวอีกว่า ส่วนเดือนที่ 2 ยกเลิกการรับซื้อไฟฟ้า RE Big Lot โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องทําทันทีคือ 1.ต้องหยุดโครงการที่ยังไม่เซ็นสัญญา 2.ต้องเจรจาลดราคาโครงการที่เซ็นไปแล้ว และ 3.ทุกอย่างต้องเปิดเผยต่อประชาชน รัฐบาลใหม่ต้องตอบให้ชัดว่าจะเดินหน้าต่อ หรือจะยกเลิก และหากรัฐบาลบอกว่าอยากส่งเสริมพลังงานสะอาดจริงๆ ก็ต้องทําใหม่ ทําให้ทุกขั้นตอนโปร่งใสและแข่งขันเสรี โดยเฉพาะการผลักดันโครงการ TPA หรือ Third Party Access แทนเพื่อเปิดให้เอกชนและชุมชนซื้อไฟตรงจากผู้ผลิตได้ ไม่ต้องผ่านการผูกขาด ฉะนั้น เดือนที่ 2 รัฐบาลต้องสะสางโครงการ RE Big Lot ให้เด็ดขาด และเดินหน้าสู่ระบบแข่งขันเสรีแบบ TPA
.
เดือนถัดมา เดือนที่ 3 ยกเลิกการก่อสร้าง LNG Terminal 3 ที่ผ่านมา เราลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่จําเป็น เช่น โครงการก่อสร้าง LNG Terminal 3 ทั้งที่เรามีเทอมินอล 1 และเทอมินอล 2 ที่ยังไม่ได้ใช้เต็มศักยภาพเลย แล้วทำไมเราต้องสร้างเทอมินอล 3 ด้วย เพราะเงินลงทุนทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้สร้าง LNG Terminal 3 มันเข้าไปแฝงอยู่ในค่าไฟของพี่น้องประชาชน ถ้ารัฐบาลจะอ้างว่า ต้องสร้างเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออก LNG ในภูมิภาค ตนขอถามกลับว่า ทําไมเราต้องเอาต้นทุนค่าไฟของประชาชนมาแบกรับความเสี่ยง แทนนายทุนหรือเจ้าของโครงการด้วย และหากโครงการขาดทุน ประชาชนต้องแบกรับค่าไฟที่สูงขึ้น ประชาชนมีแต่เสียกับเสีย
.
ฉะนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องทํามีเพียงอย่างเดียว คือ ออกมติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เพื่อยกเลิกมติเดิมครั้งที่ 3/2564 ที่ให้เอาต้นทุนของโครงการนี้มาอยู่ในค่าไฟของพี่น้องประชาชน ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นสัญญาณชัดเจนว่า รัฐบาลนายอนุทินเป็นรัฐบาลที่สืบทอดผลประโยชน์เก่าหรือเป็นรัฐบาลที่กล้าเลือกยืนข้างประชาชนกันแน่
.
สำหรับเดือนที่ 4 จัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan หรือ PDP) ใหม่อย่างโปร่งใส เนื่องจากแผน PDP คือหัวใจของนโยบายพลังงาน ฉะนั้น รัฐบาลนายอนุทินต้องทําให้แผน PDP ใหม่มี 4 หลักการสําคัญ ดังนี้
1. โปร่งใส ข้อมูลและเอกสารทุกขั้นตอนต้องมีการเปิดเผยและตรวจสอบได้
2. มีส่วนร่วม ทุกฝ่ายต้องเข้ามาเสนอความคิดเห็น และนําไปปรับใช้จริง
3. ตรวจสอบได้ มีกลไกอิสระคอยกลั่นกรอง ป้องกันการแทรกแซง
และ 4. บรรลุเป้าหมายประเทศ ความมั่นคงพลังงาน ต้นทุนที่ป็นธรรม และ Net Zero 2050
.
รัฐบาลนี้มีเวลาแค่ 4 เดือน ประชาชนไม่ต้องการปัญหาใหม่ แต่ต้องการให้แก้ปัญหาเก่าให้เห็นผลจริง ๆ เดือนละ 1 เรื่อง ต้องทํา 4 เรื่อง หรือถ้ารัฐบาลมีความพร้อมสามารถทําทั้งหมด พร้อมกันได้ทันที ซึ่งทําครบทั้ง 4 เรื่อง ค่าไฟจะลดลงได้อย่างน้อย 30 สตางค์ต่อหน่วย และจะช่วยประชาชน หนึ่งครอบครัวจะประหยัดได้ร้อยกว่าบาทต่อเดือน หากทําได้ประชาชนจะเห็นว่านี่คือรัฐบาลที่กล้าเปลี่ยนแปลง แม้เป็นรัฐบาลเฉพาะกาล แต่ถ้าไม่ทํา ประชาชนจะตัดสินเองในวันเลือกตั้งว่าใครทําเพื่อเขา หรือใครแค่ยื้อเวลา โดยไม่ทําอะไรเลย” นายศุภโชติ กล่าว
.

.
“สส.เต้ ทวิวงศ์” อภิปรายปิดจบแถลงนโยบายวันแรก ชี้ไม่เคยไว้วางใจ “อนุทิน” แม้แต่วินาทีเดียว
.
“วันนอร์” สั่งพักการประชุม 2.07 น. นัดถกใหม่อีกครั้ง 9.00 น. วันนี้ “สส.ทวิวงศ์” กล่าวอภิปรายคนสุดท้าย ปมปัญหากัญชา แนะดัน พ.ร.บ. กัญชา กัญชง ร่วมกัน และดึงกลับไปเป็นยาเสพติด หลังโลกขนานนามว่าไทยเป็นราชันแห่งกัญชาไปแล้ว ยันไม่เคยไว้วางใจ “อนุทิน” แม้แต่วินาทีเดียว
.
วันที่ 30 กันยายน 2568 เมื่อเวลา 1.52 น. ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ภายหลังจากทางพรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง และคณะรัฐมนตรีได้ชี้แจงไปหลายคนแล้ว
.
ทางด้านนายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.อยุธยา พรรคประชาชน ได้กล่าวอภิปรายปิดท้ายการประชุมของวันแรก ถึงนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ว่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่คำแถลงนโยบายของรัฐบาล อ้อมไปมา แต่ไม่คิดที่จะพูดถึงปัญหาใหญ่ที่ก่อไว้เองคือเรื่องกัญชา จนสื่อใหญ่ต่างประเทศต้องขนานนามว่าราชันแห่งกัญชา และตอนนี้กำลังจะกลายเป็นผู้นำฝ่ายบริหารของประเทศไทย 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติด แต่เกิดสภาวะสุญญากาศทางกฎหมาย เพราะกฎเกณฑ์ที่ออกมาตามหลัง มันไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง หรือ แม้กระทั่งการออกใบอนุญาตก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ มันจึงเป็นเพียงแค่ มาตรการลวงโลก ที่ออกมาเพื่อ แก้เก้อ และสร้างความเสียหายแก่สังคมไทยอย่างใหญ่หลวง
.
หากมีใครสูบกัญชาจนทำให้เกิดความรำคาญ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำได้ กำหนดไว้เพียงให้ ออกคำสั่งเป็นหนังสือ เพราะเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถเข้าไปจับกุมได้ ปัญหาต่อมา คือ การขอใบอนุญาตกัญชา ซึ่งในปัจจุบันนั้น มีเพียง 3 รูปแบบเท่านั้น คือใบอนุญาตขายหรือแปรรูป ใบอนุญาตส่งออก ใบอนุญาตวิจัย แต่ที่ขาดไปคือ ใบอนุญาตปลูก เพราะตอนนี้จะปลูกเท่าไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต เพราะช่องว่างนี้ทำให้ทุนต่างชาติ ทุนสีเทา หรือ อาชญากรข้ามชาติ มาทำธุรกิจกัญชาในไทยกันเต็มไปหมด จนไทยเราแทบจะเป็นแหล่งลักลอบส่งออกยาเสพติดของโลกแล้ว จึงเป็นอาณาจักรของราชันแห่งกัญชา ชัดๆ
.
นายกฯ หนู ท่านเอาไงครับ กับนโยบายสาธารณสุข ที่ท่านสร้างปัญหาทิ้งไว้ นโยบาย กัญชาทางการแพทย์ ที่ท่านพูดอย่าง แต่ทำอีกอย่าง นโยบาย ที่ท่าน พูดกัญชาการแพทย์ แล้วทำกัญชาเสรี ราชันแห่งกัญชาครับ จะเอาอย่างไร” นายทวิวงศ์ กล่าว
.
นายทวิวงศ์ กล่าวว่า จึงขอเสนอรัฐบาลให้รีบใช้ช่วงเวลา 4 เดือนนี้เพื่อแก้ปัญหา กัญชา ให้กับประชาชนโดยด่วน คือ 1.ต้องประกาศดึง กัญชา กลับมาเป็นยาเสพติด และ 2. ดัน พ.ร.บ. กัญชา กัญชง ร่วมกัน ในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งมีเพียง 40 กว่ามาตรา เท่านั้น เพื่อทำให้ ร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง เป็นร่างที่ดีที่สุด สำหรับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งคนไข้ หมอ กลุ่มครอบครัว และ เกษตรกร
.
แม้ นี่จะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะ ผมไม่เคยไว้วางใจคุณอนุทิน แม้สักวินาทีเดียว แต่ขอเถอะครับ รีบใช้เวลานับถอยหลัง 4 เดือนนี้เพื่อแก้ปัญหา ที่ท่านก่อความเสียหายยับเยิน และเป็นตราบาปของท่าน ที่ฝากไว้กับประเทศนี้กว่า 3 ปีที่ผ่านมา เสียเถอะครับ เพราะมันไม่ใช่เพียงการดึงเอา กัญชา กลับมาเป็นยาเสพติด แต่เป็นการ ดึงเอา ความปลอดภัยต่อผู้ที่ไม่ใช้กัญชากลับมา” นายทวิวงศ์ กล่าว
.
จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา สั่งพักการประชุมในเวลา 2.07 น. และนัดประชุมสมาชิกในเวลา 9.00 น. ของวันนี้อีกครั้ง
.

.
สังเวชใจ! กัมพูชา ส่งผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมเป็นทหาร แนวหน้า
.
วันที่ 30 ก.ย.2568 เพจ Army Military Force โพสต์คลิปทหารเขมร คนเดินกำลังเดินโซเซ ไม่เหมือนคนปกติ พร้อมระบุข้อความว่า
.
“อัปยศ! ฮุนเซนสั่งกาชาดกัมพูชาส่งผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมเกณฑ์เป็นทหาร ก่อนส่งมายังแนวหน้า คลิปนี้ถูกถ่ายโดยเพื่อนทหารเขมรด้วยกันในแนวหน้าที่ฝั่งอุดรมีชัย”
.
หลังคลิปนี้เผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก เช่น ถ้ามันจริงต้องส่งไปรายงานสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน (OHCHR),เกินไปนะแบบนี้เหมือนส่งมาตายเลย,แชร์ให้ชาวโลกรับรู้..สังเวชใจ,แค่เขาใช้ชีวิตเป็นตัวของตัวเองยังลำบากเลย ยังจะเอาเขามาเป็นปุ๋ยอีก,มันอำมหิตจริงผู้นำเขมร สองพ่อลูก คุณสมบัติในการเป็นทหารไม่มีข้อจำกัด อายุเจ็ดสิบกว่า และสภาพน้องแบบนี้มันยังส่งมาเป็นทหารคิดว่ามันต้องการกำจัดทางอ้อมให้กลุ่มคนเหล่านี้หมดไปจากประเทศ น่าอนาถใจ
.
https://www.facebook.com/armymilitaryforcenews/videos/2129641604445055/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่