สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาเล่าประสบการณ์การใช้บัตรเครดิต KTC ของเราให้เพื่อน ๆ ฟังกัน เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้บทเรียนสำคัญ และอยากให้เป็นข้อมูลสำหรับใครที่ใช้บัตรเครดิตเหมือนกันค่ะ
📌 เรื่องมีอยู่ว่า
• 18 ส.ค. 2568 เวลา 20:07 น. → เราจองตั๋วเครื่องบิน Myanmar Airways และกดยืนยัน OTP ผ่านบัตร KTC เรียบร้อย คิดว่าการจองสำเร็จแล้ว
• แต่ตอน 22:06 น. กลับได้รับอีเมลแจ้งว่า “การจองถูกยกเลิก” เพราะระบบไม่ตัดเงินทันเวลา อันนี้เป็นการตอบกลับจากสายการบิน
• สุดท้ายบัตรเครดิตกลับโดนถูกเรียกเก็บเงินกับ อีกการจองหนึ่ง ที่เราไม่ได้ใช้ และตั๋วนั้นเป็น non-refundable (คืนเงินไม่ได้)
📌 ผลที่ตามมา
• ตั๋วใบแรกที่ถูกตัดเงินไป ใช้ไม่ได้และขอเงินคืนไม่ได้
• เราต้อง ซื้อตั๋วใหม่ในวันที่ 19 ส.ค. เพื่อบินกลับจริง
• กลายเป็นว่าเสียเงิน ซ้ำซ้อน ทั้งตั๋วที่ไม่ได้ใช้ + ตั๋วใหม่ที่ต้องซื้อเพิ่ม
📌 สิ่งที่เจอจาก KTC
• เราลองยื่นเรื่องโต้แย้ง (dispute) ไปที่ KTC
• คำตอบคือ ร้านค้าปฏิเสธเพราะตั๋วเป็น non-refundable
• ถ้าอยากโต้แย้งต่อ ต้องเข้าสู่กระบวนการ Arbitration ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถึง 18,000 บาท
• สุดท้ายเราจึง ยอมรับผล และจ่ายยอด 5,380.89 บาทเอง
📌 ความรู้สึก
ผิดหวังมากค่ะ เพราะเราคิดว่า การกดยืนยัน OTP คือหลักประกันความปลอดภัย แต่สุดท้ายกลับไม่ช่วยอะไรเลย
ยังต้องเสียเงินทั้งตั๋วที่ไม่ได้ใช้ และตั๋วใหม่ที่ต้องซื้อ
📌 บทเรียน
1. OTP ไม่ได้การันตีว่าเราจะปลอดภัยจากปัญหา
2. ตั๋วแบบ non-refundable ถ้าเกิดอะไรขึ้น = เสียเงินเต็ม ๆ
3. สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตอาจไม่ได้ช่วยในทุกกรณี
🙏 หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้หลาย ๆ คนระวังมากขึ้นเวลาซื้อตั๋วเครื่องบินและใช้บัตรเครดิตค่ะ
สรุป Q&A
Q: OTP คืออะไร? เกี่ยวอะไรด้วย?
A: OTP = ยืนยันว่าเงินเราถูกหักจริงค่ะ แต่ไม่ได้การันตีว่าตั๋วจะออกนะ 😅
Q: สรุปเสียเงินกี่ใบ?
A: เสียเงินกับตั๋วที่ใช้ไม่ได้ 1 ใบ แล้วต้องซื้อตั๋วใหม่อีก 1 ใบ → รวม 2 รอบ แต่บินจริงแค่ครั้งเดียว ✈️
Q: ทำไมไม่คุยกับสายการบิน?
A: คุยแล้วค่ะ แต่เขาไม่คืนเพราะเป็น non-refundable → เลยต้องผ่าน KTC ตามขั้นตอน dispute แต่ผลก็เหมือนเดิม 😔
Q: KTC เกี่ยวอะไร?
A: เพราะเงินถูกหักผ่านบัตรเครดิต → dispute ต้องทำผ่าน KTC ค่ะ ไม่ใช่วิ่งตามสายการบินเองอย่างเดียว
#บัตรเครดิต #ตั๋วเครื่องบิน
เมื่อการใช้ OTP ไม่ช่วยอะไร — บทเรียนจากการจองตั๋วเครื่องบินกับ KTC
📌 เรื่องมีอยู่ว่า
• 18 ส.ค. 2568 เวลา 20:07 น. → เราจองตั๋วเครื่องบิน Myanmar Airways และกดยืนยัน OTP ผ่านบัตร KTC เรียบร้อย คิดว่าการจองสำเร็จแล้ว
• แต่ตอน 22:06 น. กลับได้รับอีเมลแจ้งว่า “การจองถูกยกเลิก” เพราะระบบไม่ตัดเงินทันเวลา อันนี้เป็นการตอบกลับจากสายการบิน
• สุดท้ายบัตรเครดิตกลับโดนถูกเรียกเก็บเงินกับ อีกการจองหนึ่ง ที่เราไม่ได้ใช้ และตั๋วนั้นเป็น non-refundable (คืนเงินไม่ได้)
📌 ผลที่ตามมา
• ตั๋วใบแรกที่ถูกตัดเงินไป ใช้ไม่ได้และขอเงินคืนไม่ได้
• เราต้อง ซื้อตั๋วใหม่ในวันที่ 19 ส.ค. เพื่อบินกลับจริง
• กลายเป็นว่าเสียเงิน ซ้ำซ้อน ทั้งตั๋วที่ไม่ได้ใช้ + ตั๋วใหม่ที่ต้องซื้อเพิ่ม
📌 สิ่งที่เจอจาก KTC
• เราลองยื่นเรื่องโต้แย้ง (dispute) ไปที่ KTC
• คำตอบคือ ร้านค้าปฏิเสธเพราะตั๋วเป็น non-refundable
• ถ้าอยากโต้แย้งต่อ ต้องเข้าสู่กระบวนการ Arbitration ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถึง 18,000 บาท
• สุดท้ายเราจึง ยอมรับผล และจ่ายยอด 5,380.89 บาทเอง
📌 ความรู้สึก
ผิดหวังมากค่ะ เพราะเราคิดว่า การกดยืนยัน OTP คือหลักประกันความปลอดภัย แต่สุดท้ายกลับไม่ช่วยอะไรเลย
ยังต้องเสียเงินทั้งตั๋วที่ไม่ได้ใช้ และตั๋วใหม่ที่ต้องซื้อ
📌 บทเรียน
1. OTP ไม่ได้การันตีว่าเราจะปลอดภัยจากปัญหา
2. ตั๋วแบบ non-refundable ถ้าเกิดอะไรขึ้น = เสียเงินเต็ม ๆ
3. สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตอาจไม่ได้ช่วยในทุกกรณี
🙏 หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้หลาย ๆ คนระวังมากขึ้นเวลาซื้อตั๋วเครื่องบินและใช้บัตรเครดิตค่ะ
สรุป Q&A
Q: OTP คืออะไร? เกี่ยวอะไรด้วย?
A: OTP = ยืนยันว่าเงินเราถูกหักจริงค่ะ แต่ไม่ได้การันตีว่าตั๋วจะออกนะ 😅
Q: สรุปเสียเงินกี่ใบ?
A: เสียเงินกับตั๋วที่ใช้ไม่ได้ 1 ใบ แล้วต้องซื้อตั๋วใหม่อีก 1 ใบ → รวม 2 รอบ แต่บินจริงแค่ครั้งเดียว ✈️
Q: ทำไมไม่คุยกับสายการบิน?
A: คุยแล้วค่ะ แต่เขาไม่คืนเพราะเป็น non-refundable → เลยต้องผ่าน KTC ตามขั้นตอน dispute แต่ผลก็เหมือนเดิม 😔
Q: KTC เกี่ยวอะไร?
A: เพราะเงินถูกหักผ่านบัตรเครดิต → dispute ต้องทำผ่าน KTC ค่ะ ไม่ใช่วิ่งตามสายการบินเองอย่างเดียว
#บัตรเครดิต #ตั๋วเครื่องบิน