จีนได้ปล่อยคลิปการทดสอบการส่งเครื่องบินจากรางดีดแบบ EMALS บนเรือบรรทุกเครื่องบิน Fujian ( Type 003 ) เป็นครั้งแรก
ตามคลิปจะเห็นได้ว่าจะมีเครื่องบิน 3 รุ่นถูกส่งจากรางดีดแบบ EMALS ได้แก่เครื่องบินแบบ KJ-600 ซึ่งเป็นเครื่องบินแจ้งเตือนภัยบนเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินแบบ J-35 และเครื่องบินแบบ J-15T ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของจีนในการใช้เทคโนโลยี่รางดีดส่งเครื่องบินแบบแม่เหล็กไฟฟ้า ( Electromagnetic Aircraft Launch System หรือ EMALS ) ซึ่งเทคโนโลยี่นี้ได้ติดตั้งบนเรือบรรทุกเครื่องบินแบบ USS
Gerald R. Ford เป็นลำแรก ส่วนเรือ Fujian ถือว่าเป็นลำที่สองของโลก
- ประเด็นการส่งเครื่องบินจากระบบรางดีด EMALS ของจีน ได้เคยถูกตั้งคำถามจากผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของตะวันตกว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะการส่งเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากกว่าสิบตันนั้นต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามหาศาลเพื่อฉุดเครื่องบินให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าในเวลาอันสั้น จึงมีข้อสังเกตุว่าจีนมีขีดความสามารถที่จะผลิตไฟฟ้าป้อนระบบ EMALS ได้อย่างไร เพราะเรือใช้พลังงานขับเคลื่อนแบบดั้งเดิม ไม่ได้ใช้พลังงานนิวเคลียร์เหมือนเรือ Ford Class ของอเมริกา ที่สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้มากกว่า
- ระบบ EMALS เป็นเทคโนโลยี่ใหม่ ต้องมีระบบควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่แม่นยำ เพื่อดีดส่งเครื่องบินที่มีน้ำหนักวิ่งขึ้นไม่เท่ากันได้ แม้แต่เรือ USS
Gerald R. Ford ยังมีประเด็นเรื่องความเสถียรของระบบ เช่น ในปัจจุบันนี้ เรือ Ford ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบดีดส่งเครื่องบิน F-35C เพราะยังมีประเด็นเรื่องการบูรณาการเข้ากับ Software ของระบบ จึงยังไม่สามารถใช้ดีดส่ง F-35C ได้ในตอนนี้ แต่กับ F/A-18E/F นั้นสามารถผ่านการทดสอบใช้งานได้เต็มที่ คำถามคือ จีนสามารถบูรณาการเครื่องบินรุ่นต่างๆเข้ากับระบบรางดีด EMALS ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงหรือไม่
- จากคลิปที่เห็น แสดงให้เห็นการทดสอบจากรางดีดตัวด้านหน้าซ้าย เพียงตัวเดียว ถ้าเปิดให้ใช้พร้อมกันทั้งสามตัว จะมีพลังงานเพียงพอกับการส่งเครื่องบินด้วยรางดีดสามตัวพร้อมกันหรือไม่ ถ้าสามารถทำได้ถือเป็นพัฒนาการที่ก้าวหน้ามากที่สุด แสดงให้เห็นถึงการควบคุมจัดการพลังงานไฟฟ้าของระบบรางดีด EMALS ที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยี่การส่งวัตถุด้วยระบบรางส่งแม่เหล็กไฟฟ้าจะมีมานานมากกว่า 40 ปีแล้วก็ตาม แต่การประยุกต์นำมาใช้ส่งเครื่องบินบนเรือบรรทุกเครื่องบินในระยะสั้นๆ ถือเป็นความท้าทายของเทคโนโลยี่ชนิดนี้มาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดีดส่งเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากๆ แถมน้ำหนักเครื่องบินแต่ละลำแต่ละเที่ยวบินก็ไม่เท่ากันอีก การดีดส่งให้ได้ความเร็วตามที่ต้องการต้องอาศัยระบบควบคุมพลังงานที่มีความแม่นยำและเสถียรมาก แม้แต่ระบบรางดีดที่ติดตั้งบนเรือ USS
Gerald R. Ford ยังมีประเด็นเรื่องความเสถียรอยู่เลย คำถามคือ แล้วจีนไม่พบประเด็นพวกนี้บ้างเลยหรือ ซึ่งในขณะนี้มีเรือแค่สองลำในโลกที่ติดตั้งใช้งานระบบ EMALS นี้เท่านั้น ซึ่งเรือลำต่อไปของอเมริกาที่จะใช้ระบบนี้คือ USS John F. Kennedy ซึ่งจะเข้าประจำการประมาณปี 2027 ส่วนของจีนน่าจะเป็นเรือ Type 076 เรือบรรทุกโดรนและฮ. ที่ได้ปล่อยลงน้ำและอยู่ในขั้นตอนทดสอบ ก็ติดตั้งระบบ EMALS เพื่อส่งโดรนรบเช่นกัน
จีนได้ปล่อยคลิปทดสอบการส่งเครื่องบินจากรางดีดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน Fujian ( Type 003 ) เป็นครั้งแรก
ตามคลิปจะเห็นได้ว่าจะมีเครื่องบิน 3 รุ่นถูกส่งจากรางดีดแบบ EMALS ได้แก่เครื่องบินแบบ KJ-600 ซึ่งเป็นเครื่องบินแจ้งเตือนภัยบนเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินแบบ J-35 และเครื่องบินแบบ J-15T ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของจีนในการใช้เทคโนโลยี่รางดีดส่งเครื่องบินแบบแม่เหล็กไฟฟ้า ( Electromagnetic Aircraft Launch System หรือ EMALS ) ซึ่งเทคโนโลยี่นี้ได้ติดตั้งบนเรือบรรทุกเครื่องบินแบบ USS Gerald R. Ford เป็นลำแรก ส่วนเรือ Fujian ถือว่าเป็นลำที่สองของโลก
- ประเด็นการส่งเครื่องบินจากระบบรางดีด EMALS ของจีน ได้เคยถูกตั้งคำถามจากผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของตะวันตกว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะการส่งเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากกว่าสิบตันนั้นต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามหาศาลเพื่อฉุดเครื่องบินให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าในเวลาอันสั้น จึงมีข้อสังเกตุว่าจีนมีขีดความสามารถที่จะผลิตไฟฟ้าป้อนระบบ EMALS ได้อย่างไร เพราะเรือใช้พลังงานขับเคลื่อนแบบดั้งเดิม ไม่ได้ใช้พลังงานนิวเคลียร์เหมือนเรือ Ford Class ของอเมริกา ที่สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้มากกว่า
- ระบบ EMALS เป็นเทคโนโลยี่ใหม่ ต้องมีระบบควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่แม่นยำ เพื่อดีดส่งเครื่องบินที่มีน้ำหนักวิ่งขึ้นไม่เท่ากันได้ แม้แต่เรือ USS Gerald R. Ford ยังมีประเด็นเรื่องความเสถียรของระบบ เช่น ในปัจจุบันนี้ เรือ Ford ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบดีดส่งเครื่องบิน F-35C เพราะยังมีประเด็นเรื่องการบูรณาการเข้ากับ Software ของระบบ จึงยังไม่สามารถใช้ดีดส่ง F-35C ได้ในตอนนี้ แต่กับ F/A-18E/F นั้นสามารถผ่านการทดสอบใช้งานได้เต็มที่ คำถามคือ จีนสามารถบูรณาการเครื่องบินรุ่นต่างๆเข้ากับระบบรางดีด EMALS ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงหรือไม่
- จากคลิปที่เห็น แสดงให้เห็นการทดสอบจากรางดีดตัวด้านหน้าซ้าย เพียงตัวเดียว ถ้าเปิดให้ใช้พร้อมกันทั้งสามตัว จะมีพลังงานเพียงพอกับการส่งเครื่องบินด้วยรางดีดสามตัวพร้อมกันหรือไม่ ถ้าสามารถทำได้ถือเป็นพัฒนาการที่ก้าวหน้ามากที่สุด แสดงให้เห็นถึงการควบคุมจัดการพลังงานไฟฟ้าของระบบรางดีด EMALS ที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยี่การส่งวัตถุด้วยระบบรางส่งแม่เหล็กไฟฟ้าจะมีมานานมากกว่า 40 ปีแล้วก็ตาม แต่การประยุกต์นำมาใช้ส่งเครื่องบินบนเรือบรรทุกเครื่องบินในระยะสั้นๆ ถือเป็นความท้าทายของเทคโนโลยี่ชนิดนี้มาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดีดส่งเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากๆ แถมน้ำหนักเครื่องบินแต่ละลำแต่ละเที่ยวบินก็ไม่เท่ากันอีก การดีดส่งให้ได้ความเร็วตามที่ต้องการต้องอาศัยระบบควบคุมพลังงานที่มีความแม่นยำและเสถียรมาก แม้แต่ระบบรางดีดที่ติดตั้งบนเรือ USS Gerald R. Ford ยังมีประเด็นเรื่องความเสถียรอยู่เลย คำถามคือ แล้วจีนไม่พบประเด็นพวกนี้บ้างเลยหรือ ซึ่งในขณะนี้มีเรือแค่สองลำในโลกที่ติดตั้งใช้งานระบบ EMALS นี้เท่านั้น ซึ่งเรือลำต่อไปของอเมริกาที่จะใช้ระบบนี้คือ USS John F. Kennedy ซึ่งจะเข้าประจำการประมาณปี 2027 ส่วนของจีนน่าจะเป็นเรือ Type 076 เรือบรรทุกโดรนและฮ. ที่ได้ปล่อยลงน้ำและอยู่ในขั้นตอนทดสอบ ก็ติดตั้งระบบ EMALS เพื่อส่งโดรนรบเช่นกัน