ผู้เขียน : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สหวรัชญ์ พลหาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปรากฏการณ์ “เกรดเฟ้อ” หรือ Grade Inflation ที่กำลังเกิดขึ้นในระดับอุดมศึกษาทั่วโลกกำลังเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
เมื่อสัดส่วนของเกรด A เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่สัมพันธ์กับการพัฒนาทักษะและความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียน..
โดยในช่วงโควิด-19 บางมหาวิทยาลัยมีนักศึกษาได้เกรด A สูงถึง 49% และอัตราการสอบผ่านรายวิชาในปัจจุบันสูงถึง 90-95%
โดยปรากฏการณ์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงนิวซีแลนด์ ในสหราชอาณาจักร สัดส่วนของปริญญาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเพิ่มขึ้นถึง 28% ....
และแนวโน้มเดียวกันนี้ยังพบในหลายประเทศ....
ประเด็นที่น่าพิจารณาคือ การเพิ่มขึ้นของเกรดเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับปัจจัยที่ควรส่งผลต่อผลการเรียน
ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพนักศึกษาแรกเข้า สัดส่วนนักศึกษาหญิง งบประมาณต่อหัว หรืออัตราส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษา
แต่การศึกษาชี้ให้เห็นว่า ระบบแรงจูงใจในสถาบันอุดมศึกษาอาจเป็นปัจจัยสำคัญ
เมื่องบประมาณถูกผูกกับจำนวนนักศึกษา จึงเกิดแรงกดดันในการรักษาจำนวนผู้เรียน
จากรายงานพบว่า ในบางมหาวิทยาลัยมีการกำหนดเป้าหมายอัตราการสอบผ่านของนักศึกษาไว้สูงถึง 60-88%
ซึ่งอาจส่งผลให้มาตรฐานการประเมินถูกปรับลดลง...
ผลกระทบของเกรดเฟ้อมีหลายมิติ ทั้งการลดทอนคุณค่าของผลการเรียนที่โดดเด่น และการลดแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองของผู้เรียน
เมื่อความแตกต่างระหว่างผู้ที่ทุ่มเทพัฒนาตนเองกับผู้ที่พยายามเพียงเล็กน้อยไม่ชัดเจนอีกต่อไป ทำให้แรงจูงใจมุ่งมั่นพัฒนาตนเองลดน้อยลง
..........
อย่างไรก็ตาม ในระดับอุดมศึกษา การที่เกรดไม่สามารถสะท้อนความแตกต่างของความสามารถได้อย่างเหมาะสม
เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะส่งผลต่อการคัดเลือกบุคลากรในตลาดแรงงานและมาตรฐานวิชาชีพในระยะยาว
สำหรับประเทศไทย เราควรเริ่มจากการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อติดตามแนวโน้มการให้เกรด .......สังคมไทยควรต้องตั้งคำถามว่า
เราต้องการระบบการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริง หรือเพียงแค่สร้างภาพลักษณ์ความสำเร็จผ่านตัวเลขที่สวยงาม
บทเรียนจากต่างประเทศเตือนให้เราตระหนักว่า เมื่อเกรด A กลายเป็นเกรดธรรมดา หลายภาคส่วนจะได้รับผลกระทบ
สถาบันการศึกษาอาจสูญเสียความน่าเชื่อถือ และสังคมโดยรวมจะเผชิญความท้าทายในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เต็มตามศักยภาพ... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/opinion-column-11/news-1882750
นึกว่า ฝรั่ง ไม่มีเกรดเฟ้า เกียตินิยม เหมือนบ้านเรา
เพราะ อะไร เกรดของการศึกษถึง ไม่บอกคุณภาพคนที่จบมา
ปรากฏการณ์ “เกรดเฟ้อ” หรือ Grade Inflation ที่กำลังเกิดขึ้นในระดับอุดมศึกษาทั่วโลกกำลังเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
เมื่อสัดส่วนของเกรด A เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่สัมพันธ์กับการพัฒนาทักษะและความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียน..
โดยในช่วงโควิด-19 บางมหาวิทยาลัยมีนักศึกษาได้เกรด A สูงถึง 49% และอัตราการสอบผ่านรายวิชาในปัจจุบันสูงถึง 90-95%
โดยปรากฏการณ์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงนิวซีแลนด์ ในสหราชอาณาจักร สัดส่วนของปริญญาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเพิ่มขึ้นถึง 28% ....
และแนวโน้มเดียวกันนี้ยังพบในหลายประเทศ....
ประเด็นที่น่าพิจารณาคือ การเพิ่มขึ้นของเกรดเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับปัจจัยที่ควรส่งผลต่อผลการเรียน
ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพนักศึกษาแรกเข้า สัดส่วนนักศึกษาหญิง งบประมาณต่อหัว หรืออัตราส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษา
แต่การศึกษาชี้ให้เห็นว่า ระบบแรงจูงใจในสถาบันอุดมศึกษาอาจเป็นปัจจัยสำคัญ
เมื่องบประมาณถูกผูกกับจำนวนนักศึกษา จึงเกิดแรงกดดันในการรักษาจำนวนผู้เรียน
จากรายงานพบว่า ในบางมหาวิทยาลัยมีการกำหนดเป้าหมายอัตราการสอบผ่านของนักศึกษาไว้สูงถึง 60-88%
ซึ่งอาจส่งผลให้มาตรฐานการประเมินถูกปรับลดลง...
ผลกระทบของเกรดเฟ้อมีหลายมิติ ทั้งการลดทอนคุณค่าของผลการเรียนที่โดดเด่น และการลดแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองของผู้เรียน
เมื่อความแตกต่างระหว่างผู้ที่ทุ่มเทพัฒนาตนเองกับผู้ที่พยายามเพียงเล็กน้อยไม่ชัดเจนอีกต่อไป ทำให้แรงจูงใจมุ่งมั่นพัฒนาตนเองลดน้อยลง
..........
อย่างไรก็ตาม ในระดับอุดมศึกษา การที่เกรดไม่สามารถสะท้อนความแตกต่างของความสามารถได้อย่างเหมาะสม
เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะส่งผลต่อการคัดเลือกบุคลากรในตลาดแรงงานและมาตรฐานวิชาชีพในระยะยาว
สำหรับประเทศไทย เราควรเริ่มจากการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อติดตามแนวโน้มการให้เกรด .......สังคมไทยควรต้องตั้งคำถามว่า
เราต้องการระบบการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริง หรือเพียงแค่สร้างภาพลักษณ์ความสำเร็จผ่านตัวเลขที่สวยงาม
บทเรียนจากต่างประเทศเตือนให้เราตระหนักว่า เมื่อเกรด A กลายเป็นเกรดธรรมดา หลายภาคส่วนจะได้รับผลกระทบ
สถาบันการศึกษาอาจสูญเสียความน่าเชื่อถือ และสังคมโดยรวมจะเผชิญความท้าทายในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เต็มตามศักยภาพ... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/opinion-column-11/news-1882750
นึกว่า ฝรั่ง ไม่มีเกรดเฟ้า เกียตินิยม เหมือนบ้านเรา