ที่มา :-
กรมประชาสัมพันธ์
https://gracz.co.th/blog/post/world-ozone-day
ทุกวันที่ 16 กันยายนของทุกปีทั่วโลกได้ถูกกำหนดให้เป็น "วันโอโซนโลก" (World Ozone Day) เพื่อให้ทั่วโลก ตระหนักถึงความสำคัญของ “โอโซน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกรองรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ไม่ให้ลงมาพื้นผิวโลกมากเกินไป และตระหนักถึงปรากฏการณ์การลดลงของชั้นโอโซนบนชั้นบรรยากาศระดับชั้นสตราโตสเฟียร์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาและพบปัญหานี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 และพบอีกว่า ทุกๆ 10 ปีจะมีอัตราการลดลงในระดับ 4% นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า การลดลงอย่างต่อเนื่องของชั้นโอโซนบริเวณพื้นที่ขั้วโลก คือสาเหตุสำคัญของการเกิดปรากฏการณ์โลกร้อนอีกด้วย
แม้ว่าชั้นโอโซนจะอยู่ห่างไกลจากตัวเรา แต่กิจกรรมของมนุษย์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสารทำลายชั้นโอโซน เช่น สารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFCs) ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นและสเปรย์ฉีดพ่น เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ชั้นโอโซนถูกทำลายและเกิดรูโหว่ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ทั่วโลกต้องหันมาแก้ไขอย่างจริงจัง
วันโอโซนโลกจึงไม่ใช่แค่วันแห่งการรำลึก แต่เป็นวันแห่งการลงมือทำร่วมกัน การร่วมมือกันในระดับนานาชาติผ่าน "พิธีสารมอนทรีออล" ทำให้การผลิตและใช้สารทำลายชั้นโอโซนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ชั้นโอโซนค่อยๆเริ่มฟื้นตัว โดยคาดการว่าปริมาณโอโซนจะกลับเข้าสู่ระดับปกติในปี พ.ศ. 2613 แต่การฟื้นตัวนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราทุกคนยังคงตระหนักและร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง
มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโลกที่ยั่งยืน เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยปกป้องชั้นโอโซนและบรรเทาวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
"ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน "
16 กันยายน : “วันโอโซนโลก” (World Ozone Day)
https://gracz.co.th/blog/post/world-ozone-day