เวียดนามยัน “ตู้แช่” ไม่ผิด ชี้ FIVB เปลี่ยนกฎกลางคัน จำใจแบนเพื่ออยู่ต่อเวทีโลก
หลังจากที่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) มีคำสั่งตรวจสอบเพศของนักกีฬาหญิงทีมชาติเวียดนาม 2 ราย ได้แก่ ดัง ธิ ฮอง และ เหงียน ฟอง กวิ่ง หลังจบเกมที่เอาชนะเปอร์โตริโก 3-1 เซต ในศึกวอลเลย์บอลหญิง U21 ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอินโดนีเซีย
ผลตรวจพบว่ามีผู้เล่น 1 รายไม่ผ่านคุณสมบัติ ทำให้เวียดนามถูกปรับแพ้ทุกนัดในรอบแรก กลุ่มเอ จากเดิมที่มีสิทธิ์เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย กลายเป็นสถิติชนะ 1 แพ้ 4 หล่นไปอยู่อันดับสุดท้ายของกลุ่ม และต้องไปแข่งขันรอบจัดอันดับ 17–24
จากนั้น สหพันธ์วอลเลย์บอลเวียดนาม จึงประกาศแบน Dang Thi Hong ตลอดไป โดยไม่อนุญาตให้เธอลงเล่นในวอลเลย์บอลลีกเวียดนาม 2025 รอบสอง รวมถึง ห้ามเข้าร่วมการแข่งขันใด ๆ ในระบบของสหพันธ์ฯ นับจากนี้เป็นต้นไป
ล่าสุด เหงียน เวียด ฮัว คณะกรรมการบริหารสหพันธ์วอลเลย์บอลเวียดนาม (VFV) ยืนยันว่า ดัง ธิ ฮอง คือความภาคภูมิใจของเวียดนาม การแบนเธอคือการตัดสินใจที่เจ็บปวด แต่ไม่อาจเลี่ยงได้ เพราะเธอไม่ได้ทำผิดกติกา ไม่ได้ใช้สารต้องห้าม ไม่ได้โกง ไม่ได้ละเมิดข้อบังคับ แต่เธอถูกตัดสิทธิ์ตามข้อกำหนดสากลเกี่ยวกับเพศที่เปลี่ยนกะทันหัน
ในทางทฤษฎี เวียดนามมี 2 ทางเลือกในการอุทธรณ์
1. ยื่นต่อ FIVB โดยตรง – แต่ในฐานะสมาชิก VFV ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ FIVB อยู่แล้ว
2. ฟ้องต่อ CAS ที่สวิตเซอร์แลนด์ – ซึ่งใช้เวลานาน ค่าใช้จ่ายสูง และแม้ชนะก็ได้เพียงการยอมรับเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่ความสัมพันธ์กับ FIVB ย่อมเสียหาย
เมื่อซีเกมส์ ใกล้เข้ามา และได้ยึดกฎใหม่ของ FIVB ไปแล้ว VFV แทบไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับและปรับกฎในประเทศให้สอดคล้อง
ความจริงคือ กีฬาโลกคืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และสปอนเซอร์ สามารถชี้ขาดกฎได้ ที่นั่น เรื่องเพศของนักกีฬาคนหนึ่งอาจสะท้อนแรงกดดันจากเจ้าภาพ ผู้สนับสนุน หรือภาพลักษณ์บนเวทีนานาชาติ
VFV จึงต้องเลือกระหว่าง
* เก็บ ดัง ธิ ฮอง ไว้แข่งในประเทศ แต่แยกตัวจากโลกภายนอก
* หรือยอมรับกฎใหม่ และตัดสิทธิ์เธอจากการเล่นอาชีพ
สุดท้าย VFV เลือกอย่างหลัง เพราะทีมชาติไม่อาจวางแผนระยะยาวบนความไม่แน่นอน “ตู้แช่” จะไม่ได้ลงสนามอีก แต่เธอยังสามารถมีบทบาทอื่นในวงการ เช่น การฝึกสอน การพัฒนาเยาวชน เพราะประสบการณ์ของเธอคือทรัพย์สินที่ล้ำค่า
https://www.facebook.com/share/1YwKiKnf8j/
แถไม่เลิก เอาดีดี FIVB แบนสมาคมวอลเลย์บอลเวียดนามเลยมั้ย
หลังจากที่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) มีคำสั่งตรวจสอบเพศของนักกีฬาหญิงทีมชาติเวียดนาม 2 ราย ได้แก่ ดัง ธิ ฮอง และ เหงียน ฟอง กวิ่ง หลังจบเกมที่เอาชนะเปอร์โตริโก 3-1 เซต ในศึกวอลเลย์บอลหญิง U21 ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอินโดนีเซีย
ผลตรวจพบว่ามีผู้เล่น 1 รายไม่ผ่านคุณสมบัติ ทำให้เวียดนามถูกปรับแพ้ทุกนัดในรอบแรก กลุ่มเอ จากเดิมที่มีสิทธิ์เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย กลายเป็นสถิติชนะ 1 แพ้ 4 หล่นไปอยู่อันดับสุดท้ายของกลุ่ม และต้องไปแข่งขันรอบจัดอันดับ 17–24
จากนั้น สหพันธ์วอลเลย์บอลเวียดนาม จึงประกาศแบน Dang Thi Hong ตลอดไป โดยไม่อนุญาตให้เธอลงเล่นในวอลเลย์บอลลีกเวียดนาม 2025 รอบสอง รวมถึง ห้ามเข้าร่วมการแข่งขันใด ๆ ในระบบของสหพันธ์ฯ นับจากนี้เป็นต้นไป
ล่าสุด เหงียน เวียด ฮัว คณะกรรมการบริหารสหพันธ์วอลเลย์บอลเวียดนาม (VFV) ยืนยันว่า ดัง ธิ ฮอง คือความภาคภูมิใจของเวียดนาม การแบนเธอคือการตัดสินใจที่เจ็บปวด แต่ไม่อาจเลี่ยงได้ เพราะเธอไม่ได้ทำผิดกติกา ไม่ได้ใช้สารต้องห้าม ไม่ได้โกง ไม่ได้ละเมิดข้อบังคับ แต่เธอถูกตัดสิทธิ์ตามข้อกำหนดสากลเกี่ยวกับเพศที่เปลี่ยนกะทันหัน
ในทางทฤษฎี เวียดนามมี 2 ทางเลือกในการอุทธรณ์
1. ยื่นต่อ FIVB โดยตรง – แต่ในฐานะสมาชิก VFV ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ FIVB อยู่แล้ว
2. ฟ้องต่อ CAS ที่สวิตเซอร์แลนด์ – ซึ่งใช้เวลานาน ค่าใช้จ่ายสูง และแม้ชนะก็ได้เพียงการยอมรับเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่ความสัมพันธ์กับ FIVB ย่อมเสียหาย
เมื่อซีเกมส์ ใกล้เข้ามา และได้ยึดกฎใหม่ของ FIVB ไปแล้ว VFV แทบไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับและปรับกฎในประเทศให้สอดคล้อง
ความจริงคือ กีฬาโลกคืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และสปอนเซอร์ สามารถชี้ขาดกฎได้ ที่นั่น เรื่องเพศของนักกีฬาคนหนึ่งอาจสะท้อนแรงกดดันจากเจ้าภาพ ผู้สนับสนุน หรือภาพลักษณ์บนเวทีนานาชาติ
VFV จึงต้องเลือกระหว่าง
* เก็บ ดัง ธิ ฮอง ไว้แข่งในประเทศ แต่แยกตัวจากโลกภายนอก
* หรือยอมรับกฎใหม่ และตัดสิทธิ์เธอจากการเล่นอาชีพ
สุดท้าย VFV เลือกอย่างหลัง เพราะทีมชาติไม่อาจวางแผนระยะยาวบนความไม่แน่นอน “ตู้แช่” จะไม่ได้ลงสนามอีก แต่เธอยังสามารถมีบทบาทอื่นในวงการ เช่น การฝึกสอน การพัฒนาเยาวชน เพราะประสบการณ์ของเธอคือทรัพย์สินที่ล้ำค่า
https://www.facebook.com/share/1YwKiKnf8j/