เเฟนรู้สึกเบื่อกับการทำงานธุรกิจกับที่บ้านผมเอง

สวัสดีครับ พอดีผมอยากฟังความคิดเห็นเพื่อนๆว่าเพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง
ต้องท้าวความก่อนว่าผมมีธุรกิจที่บ้าน ครอบครัวค่อนข้างใหญ่ครับ ซึ่งผมเป็นทายาทรุ่นที่สองคนที่ทำงานในปัจจับัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นเเรกครับไม่ว่าจะ ป้า น้า อา ผมรวมถึงเเม่ของผมด้วยครับบริษัทผมเปิดมาค่อนข้างนานงานเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทีนี้พอผมเรียนจบหลังหาประสบการณ์ต่างๆนาๆเลยอยากกลับมาช่วยสานต่อที่บ้านเลยกลับช่วยงานที่บ้านครับ ผมอายุผม 24 เเฟนผมเเก่กว่าผม 1 ปี อายุ 25 พอดีเเฟนผมหลังเรียนจบก็สมัครงานหลายๆที่ระหว่างรอสัมภาษณ์ เผอิญกับทางที่บ้านผมต้องการพนักงานเพิ่มพอดี พี่สาวผมเลยชวนลองมาทำงานกับธุรกิจที่บ้านผมครับเเฟนผมเลยตกลงลองมาเรียนรู้การทำงานต่างๆที่บ้านผมครับ โดยตอนเเรกตกลงกันว่าจะเเค่มาประมาณว่ามาฝึกงานสัก 3 เดือนถ้าอยากอยู่ต่อก็ได้เเต่ขึ้นอยู่กับว่าจะผ่านโปรไหมประมาณนี้ หลังจากเเฟนผมได้ลองมาทำงานกับที่บ้านผม ทุกคนในบ้านก็โอเครครับในด้านการทำงาน เป็นคนทำงานไว เรียนรู้เร็ว ระเอียดรอบคอบ ซึ่งเเฟนผมทำงานในเเผนกที่ค่อนข้างจะซีเรียสเรื่องนี้ทางที่บ้านผมเลยรู้สึกโอเครมากๆครับ ที่นี้หลังจากผ่านโปรเป็นที่เรียบร้อยเเล้วก็กลับมาคุยกันอีกครั้งครับว่าจะลองไปทำที่อื่นไหมหรืออยากอยู่ต่อก็ไม่ได้บังคับนะ เเฟนผมจึงเลือกที่จะอยู่ต่อครับ ด้วยความที่เราทั้งคู่เคยคุยกันว่า เออทำงานเราก็อยู่ใกล้กันทำอะไรต่างๆก็ง่ายครับ อย่างเช่น กินข้าวหลังเลิกงานหรือหลังเลิกงานอยากไปไหนมันก็สะดวกครับ ผมก็ไปส่งได้ง่ายด้วยอะไรด้วย ก็เลยตกลงกันว่าจะอยู่ต่อ
เวลาผ่านไปปีกว่าๆด้วยความที่ธุรกิจที่บ้านผมส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นพวกภาครัฐครับ โดยปีนี้ถึงปีหน้างานจะเยอะมากๆเเบบน่าจะเยอะที่สุดเท่าที่เคยทำมา เเฟนผมเลยงานค่อนข้างที่จะเข้ามาเยอะครับ เพราะต้องทำเกี่ยวกับเอกสารที่ต้องเกี่ยวกับทางภาครัฐฉะนั้นงานของเค้าเลยค่อนข้างที่จะต้องละเอียดมาก ด้วยความที่เเฟนผมทำหน้าที่ตรงนี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่เคยทำผิดพลาดเลยสักครั้ง
ที่บ้านก็ชมตลอดครับ เเต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ระหว่างที่ทำงานจนมาถึงตอนนี้เเฟนผมมักจะชอบเอาตัวไปเปรียบกับพนักงานที่ทางบ้านผมจ้างมาครับ คือผมเข้าใจว่าเรืาองนี้อาจจะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ทางที่บ้านผมเคยพูดกับผมว่าที่ให้เข้าด้วยความที่ผมเป็นเด็กจบใหม่ไม่เคยมีประสบการณ์อาจจะให้ไม่สูงนักก็ประมาณ21000 ต่อเดือนครับ เเต่ของผมเงินเดือนค่อนข้างห่างกับเค้าเกือบสามเท่าเเต่ผมดูหลายอย่างครับเหมือนประมาณที่ว่าบ้านผมให้ผมเรียนรู้งานหลายๆเเผนกอนาคตจะได้สามารถมาช่วยดูกิจการช่วยงานกับพี่ๆได้อาจจะมีความที่เป็นหลานด้วยเเหละครับเลยอาจจะได้มากกว่าคนอื่นๆ เเต่ที่นี้ด้วยความที่บ้านผมก็จะมีพนักงานที่พึ่งจบใหม่มาทำงานอยู่ด้วยค่อนข้างเยอะเป็นเจนใหม่ เเฟนผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ทีนี้จากที่ผมได้บอกไปตอนเเรกงานของเเฟนผมส่วนใหญ่ต้องใช้ความละเอียดเเละรอบคอบ เอกสารเยอะทำให้เหมือนเเฟนผมท้อครับถ้าเทียบกับพนักงานคนอื่นๆที่บางคนมีช่วงว่างบางคนเงินเดือนเยอะกว่าเเฟนผมในขนาดที่อายุใกล้ๆกันเเต่เวลาทำงานทำงานค่อนข่างน้อย มันเหมือนประมาณไม่เเฟร์อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ซึ่งผมก็พอเข้าใจนะเเต่ด้วยความที่เเฟนผมมาทำงานที่บ้านผมเเล้วเวลาไปเที่ยวหรือเทศกาลต่างๆที่บ้านก็พาไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวผมโดยที่เค้าไม่เคยไปต่างประเทศเลยอันนี้ไปเป็นเเค่สมาชิกครอบครัวนะครับไม่นับรวมพนักงาน บางเทศกาลอย่างตรุษจีน ก็ได้เงินอังเปาเยอะกว่าคนอื่นๆเเบบเห็นได้ชัด ถ้าเทียบกับพนักงานคนอื่นๆที่เเจกด้วย ผมรู้สึกว่าครอบครัวผมค่อนข้างให้การยอรับเค้าในเรื่องการทำงานเเละนิสัยของตัวเเฟนผมครับ ระหว่างทำงานอยู่นี้ตอนเเรกเเฟนผมอาศัยอยู่คอนโดส่วนผมอยู่ที่บ้านเเฟนผมเช่าคอนโดเอาเเละไกลจากที่ทำงาน เเต่พอเริ่มได้การยอมรับจากที่บ้านทางที่บ้านผมเลยเเนะนำให้เเฟนผมซื้อคอนโดเเถวระเเวกบ้านผมครับ คือต้องบอกก่อนว่าที่บ้านที่ผมอาศัยอยู่นั้นกับที่ทำงานอยู่ใกล้กันมากถึงขนาดที่สามารถเดินไปได้ จากการหารืออะไรกันเสร็จเเฟนผมเลยตัดสินใจซื้อคอนโดผ่อนจ่ายเป็นเดือนๆเพราะว่าค่าเช่าที่เคยเช่าอยู่กับผ่อนซื้อราคาเเทบไม่ต่างกันเลยเลยตัดสินใจซื้อเลยดีกว่าจะได้เป็นทรัพย์สินของตัวเอง หลังจากซื้อเเล้วทางที่บ้านผมก็ช่วยออกพวกของใช้ต่างๆไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเเทบทุกอย่างครับ เตียงนอนฝูก อะไรประมาณนี้ครับคือเอาง่ายๆสามารถขนของมาอยู่ได้เลยอาจจะมีผมกับเเฟนควักจ่ายเองบ้างเเต่น้อยมากครับ ผมเลยรู้สึกว่าที่บ้านผมให้ความอบอุ่นเเละยินดีที่เเฟนผมมาอยู่ในครอบครัวของผมมากๆครับ เเต่พอทำงานไปจนถึงทุกวันนี้เหมือนเข้าจะชอบบ่นอยากลาออกนู่นนี่นั่นทั้งเรื่องงานทั้งเรื่องเงินเเต่เค้าไม่เคยมีปัญหาด้านเงินเลยครับเพราะทุกวันนี้ผมก็ออกให้ตลอดเเละเต็มใจไม่ได้เดือดร้อนอะไรสำหรับผม ไม่ว่าจะค่าข้าวต่างๆนา อาหารเทียงก็กินกับครอบครัวผมไม่ต้องจ่ายที่จะจ่ายคงมีเวลาหลังเลิกงานเเล้วออกไปหาไรกินกันสองคนครับฉะนั้นผู้รู้สึกเค้าอยู่สบายมากค่าคอนโดผมก็ช่วยออกต่อเดือนคนละครึ่งกับเเฟนครับเเต่ผมเเค่รู้สึกว่าเค้าอาจจะไม่โอเครในสิ่งที่เค้ามีหรือเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพนักงานเรื่องเงินเดือนที่ตัวเองทำงานหนักกว่าคนอื่นๆเเละเงินเดือนอาจจะไม่สมเหตุสมผลประมาณนี้ครับ เเต่ผมเคยบอกเค้าเเล้วว่าตอนพี่เขยพี่สะไภ้ผมเข้ามาช่วยงานที่บ้านเเรกๆก็ประมาณนี้ เเต่ของเเฟนผมตอนนี้เค้ามาอาจจะทำงานเยอะกว่าพี่เขยพี่สะใภ้เพราะบริษัทโตขึ้นทุกๆปีเลยอาจจะเหนื่อยกว่า ผมยังบอกเค้าไปอีกว่ายังไงเวลาปรับเงินเดือนยังไงๆระยะยาวเเฟนผมต้องได้มากกว่าพนักงานอยู่เเล้วถึงปีเเรกเวลาปรับเงินเดือนอาจจะได้ไม่ต่างกันมากเเต่ถ้าเทียบสัก3-5ปียังไงก็เยอะกว่าเเน่ๆถ้าถึงขั้นอยู่ไปจนถึงเเต่งงานนอกจากเงินเดือนที่ได้เพิ่มขึ้นเเล้วอาจจะได้เป็นหัวหน้าคนเเละมีลูกน้องมาช่วยงานด้วยซ้ำ ผมบอกไปประมาณนี้เพราะผมค่อนข้างมั่นใจว่าจะเป็นเเบบนั้นจากตัวอย่างพี่เขยพี่สะใภ้ที่ผ่านมาก็เป็นทรงๆนี้กันหมดจนกระทั่งเเต่งงานก็เริ่มสบายกันเเล้วมีลูกน้องเงินเดือนสูง เเฟนผมเค้าก็ฟังครับเเต่เหมือนฟังไปอย่างนั้นผมพูดหลายรอบจนผมท้อเพราะเหมือนเข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามจะบอกว่าลำบากตอนนี้อนาคตยังไงก็สบายเชื่อผมเถอะ ผมได้เเค่เพียงบอกเค้าเเบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการที่บางทีเค้าไม่มีความสุขเวลาเลิกงานหรือมีปัญหาเรื่องงานก็เครียดบ่นอยากลาออกเวลามีปัญหาเรื่องงานต่างๆผมเสนอทางเเก้อย่างการพูดคุยเค้าก็ไม่ยอมพูดเก็บปัญหาไว้คนเดียวเเล้วก็มาระบายให้ผมฟังซึ่งเเรกๆผมก็ฟังเเล้วบอกทางเเก้บวกทั้งมุมมองของผมเองเเต่เค้าก็เลือกที่จะช่างมันเเละเก็บเอาไว้จนเป็นเเบบนี้บ่อยมากๆจนบางทีผมเหนื่อยที่จะพูดเหนื่อยที่จะช่วยบางทีผมช่วยกลับกลายเป็นว่าเค้าไม่โอเครเค้าไม่พอใจ เหมือนเค้าจะคอยคิดเกินเหตุว่าเดี๋ยวถ้าทำตรงนี้จะเป็นเเบบนี้เเน่ๆไม่ดีชัวร์ๆ เเต่จริงๆเรื่องบางเรื่องไม่มีอะไรเลยจนบางทีเค้ารับายให้ผมฟังผมเลยเเก้ปัญหาให้เลยเเล้วก็จบไปโดยที่เค้าได้ประโยชน์เต็มๆ ผมเลยไม่รู้ต้องทำยังไงครับเค้าพูดเหมือนจะลาออกตลอดเวลาพูดประมาณว่าที่อยู่ทุกวันนี้เพราะผม พูดจนบางที่ผมรู้สึกท้อมากๆตาม จนเริ่มไม่อยากทำงาน ผมพยายามหาเงินมาให้เค้าให้เค้าใช้ชีวิตได้สุขสบายผมเเค่ต้องการให้คิดเพื่อนาคตว่าตัวเองจะสบายเเน่ๆในอนาคตช่วยอดทนนิดนึง สู้ไปด้วยกันโตไปด้วยกัน ผมเคยถึงขั้นบอกเค้าว่าถ้าไม่อยากอยู่ผมจะไม่ห้ามไปทำในสิ่งที่ตัวเองรักในสิ่งที่ตัวเองชอบก็ได้ ถึงในใจยังอยากให้อยู่เเต่ถ้าเค้ามีความสุขด้านนอกมากกว่าผมก็โอเคร เเต่ถ้าไปเเล้วจะไม่สามารถกลับมาทำไม่ได้อีกเเล้วนะเพราะมันอาจจะไม่สมควร ประมาณนั้น ผมเลยอยากลองฟังความคิดเห็นเพื่อนๆครับว่าคิดเห็นกันอย่างไรพูดตรงๆได้ครับ
ปล.กระทู้นี้เป็นกระทู้เเรกของผมครับผิดพลาดประการใดผมขออภัยด้วยครับผม🙏🏻
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่