
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ประสบความสำเร็จในการคิดค้นพัฒนาปืนแอนตี้โดรนหรือที่เรียกว่า Anti-Drone Gun ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีการป้องกันที่ตอบสนองความต้องการเร่งด่วนในการรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลจากการทุ่มเทของทีมนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์นวัตกรรมเฉพาะทาง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ Center of Specialty Innovation (CoSI) ที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีปืนแอนตี้โดรนได้สำเร็จและมีประสิทธิภาพในระดับสากล

เทคโนโลยีเบื้องหลังปืนแอนตี้โดรนนี้ มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงด้วยการใช้หลักการการรบกวนสัญญาณในช่วงคลื่นความถี่ 2.4 และ 5.8 GHz ซึ่งเป็นย่านความถี่หลักที่โดรนทั่วไปใช้ในการสื่อสารกับระบบควบคุมทางไกล เมื่อปืนแอนตี้โดรนปล่อยสัญญาณไปยังโดรนเป้าหมาย จะเกิดสัญญาณการรบกวนซึ่งจะตัดขาดการเชื่อมโยงระหว่างโดรนเป้าหมายกับผู้ปฏิบัติการที่บังคับผ่านรีโมทคอนโทรล ส่งผลให้โดรนสูญเสียการควบคุมทันที และจะดำเนินการตามโปรแกรมที่ถูกตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการลงจอดในจุดที่อยู่ปัจจุบันหรือบินกลับสู่จุดควบคุมโดยอัตโนมัติ

ความโดดเด่นของปืนแอนตี้โดรนที่พัฒนาขึ้นนี้ยังรวมถึงระยะการทำงานที่สามารถยิงได้ไกลสูงสุดถึง 1 กิโลเมตร ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ปืนแอนตี้โดรนนี้ได้ผ่านการทดสอบการใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมปฏิบัติการที่จังหวัดสุรินทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ปืนแอนตี้โดรนที่ทีมนักวิจัยจากศูนย์นวัตกรรมเฉพาะทางฯ ได้พัฒนาขึ้นยังมีความคุ้มค่าในด้านต้นทุนการผลิต เพราะปัจจุบันปืนแอนตี้โดรนที่มีจำหน่ายในท้องตลาดนั้นมีราคาสูงและมีขนาดที่ใหญ่ไม่สะดวกต่อการใช้งาน แต่ปืนตัวนี้สามารถผลิตได้ด้วยต้นทุนที่ประหยัดและมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล พร้อมทั้งมีความสะดวกในการใช้งานและการเคลื่อนย้ายในพื้นที่ปฏิบัติการจริง
เครดิต เพจข่าวไทยรัฐ
ถึงคิว?มหาลัยเอกชน ม.กรุงเทพ มอบ "ปืนแอนตี้โดรน" จากการต่อยอดงานวิจัยให้กองทัพใช้งานจริง
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ประสบความสำเร็จในการคิดค้นพัฒนาปืนแอนตี้โดรนหรือที่เรียกว่า Anti-Drone Gun ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีการป้องกันที่ตอบสนองความต้องการเร่งด่วนในการรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลจากการทุ่มเทของทีมนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์นวัตกรรมเฉพาะทาง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ Center of Specialty Innovation (CoSI) ที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีปืนแอนตี้โดรนได้สำเร็จและมีประสิทธิภาพในระดับสากล
เทคโนโลยีเบื้องหลังปืนแอนตี้โดรนนี้ มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงด้วยการใช้หลักการการรบกวนสัญญาณในช่วงคลื่นความถี่ 2.4 และ 5.8 GHz ซึ่งเป็นย่านความถี่หลักที่โดรนทั่วไปใช้ในการสื่อสารกับระบบควบคุมทางไกล เมื่อปืนแอนตี้โดรนปล่อยสัญญาณไปยังโดรนเป้าหมาย จะเกิดสัญญาณการรบกวนซึ่งจะตัดขาดการเชื่อมโยงระหว่างโดรนเป้าหมายกับผู้ปฏิบัติการที่บังคับผ่านรีโมทคอนโทรล ส่งผลให้โดรนสูญเสียการควบคุมทันที และจะดำเนินการตามโปรแกรมที่ถูกตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการลงจอดในจุดที่อยู่ปัจจุบันหรือบินกลับสู่จุดควบคุมโดยอัตโนมัติ
ความโดดเด่นของปืนแอนตี้โดรนที่พัฒนาขึ้นนี้ยังรวมถึงระยะการทำงานที่สามารถยิงได้ไกลสูงสุดถึง 1 กิโลเมตร ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ปืนแอนตี้โดรนนี้ได้ผ่านการทดสอบการใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมปฏิบัติการที่จังหวัดสุรินทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ปืนแอนตี้โดรนที่ทีมนักวิจัยจากศูนย์นวัตกรรมเฉพาะทางฯ ได้พัฒนาขึ้นยังมีความคุ้มค่าในด้านต้นทุนการผลิต เพราะปัจจุบันปืนแอนตี้โดรนที่มีจำหน่ายในท้องตลาดนั้นมีราคาสูงและมีขนาดที่ใหญ่ไม่สะดวกต่อการใช้งาน แต่ปืนตัวนี้สามารถผลิตได้ด้วยต้นทุนที่ประหยัดและมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล พร้อมทั้งมีความสะดวกในการใช้งานและการเคลื่อนย้ายในพื้นที่ปฏิบัติการจริง
เครดิต เพจข่าวไทยรัฐ