บันทึกความฝัน ส่วนที่1 พระปั้นตาย

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกๆคน นี่คือเรื่องราวเหนือจินตนาการ ที่ผู้เขียนสามารถจดจำได้หลังจากตื่นนอน มีการเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อหาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น มิได้มีเจตนาลบหลู่ใด ๆเนื้อหาต่อไปนี้อาจมีบรรยากาศระทึกขวัญและชวนขนลุก โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

————————————————พระปั้นตาย———————————————————-
ในฝัน… งานศพผู้ชายคนหนึ่งถูกจัดขึ้นที่วัด บรรยากาศเงียบสงัดจนได้ยินเสียงแมลงกลางคืนอย่างชัดเจน ควันธูปลอยวนคลุ้งแต่กลับไม่มีกลิ่นหอม มีแต่กลิ่นอับเหมือนผ้าขาวคลุมศพที่ชื้นจนเก่า

ทุกอย่างดูปกติ จนถึงตอนเริ่มพิธี……

สายสิญจน์ที่พันรอบโลงศพเกิดกระตุกแรง เพี๊ยะ!! เสียงก้องสะท้อนทั่วศาลา แล้วพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่หน้าศาลาสององค์ค่อย ๆ เอนเอียง ก่อน กุดหัว หล่นลงมากระแทกพื้นดัง ตึง ตึง ตึง… ราวกับมีใครเจตนาทำให้เป็นแบบนั้น

เงียบ… เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของคนรอบข้าง เราเองก็หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
 ก่อนจะเผลอตะโกนออกมา“วิ่ง!!! ทุกคนวิ่งงง!”

ทุกคนแตกฮือ แต่ยิ่งวิ่งก็เหมือนวนอยู่ที่เดิม สุดท้ายเราและคนอื่นๆก็กลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง

โลงศพนั้นสั่นแรงกว่าเดิม ก่อนที่ ร่างของผู้วายชนนท์ จะยันตัวขึ้นช้า ๆ เสียงกระดูกเสียดสีกันดัง 
กร๊อบ กร๊อบ ดวงตาขาวโพลนไร้รูม่านตาหันมองรอบๆ พร้อมเสียงแหบต่ำก้องออกมา 
“ใคร… ใครปลุกกู”
ทันใดนั้น มีคนหกคนเดินออกมาเรียงแถวตรงหน้ามันอย่างไม่รู้ตัว มันกวาดตามองทีละคน แล้วพูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก “กูต้องการแค่สอง… อีกสี่มาทำไม” 

จากนั้นมันก็หันหน้ามาทางเรากับลูกพี่ลูกน้อง นิ้วซีดขาวชี้ตรงมาไม่ผิดพลาด“… ปลุกกูทำไม”

เรากัดฟันตอบไปด้วยความหวาดกลัว 
“ก็เพราะคุณทำพระพุทธรูปหัวขาดถึงสององค์ระหว่างพิธี เราจะไม่หนีได้ยังไง”
หน้าผีบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ก่อนมันจะเคลื่อนตัวไปหาเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนที่มันจะหยุดอยู่ตรงหน้าน้องบ้านตรงข้าม ใช้มือสั่น ๆ ลูบไล้บนใบหน้าเหมือนกำลังจดจำชีวิตที่สูญไป เสียงร้องสะอื้นสั่นสะท้านดังขึ้น ลูกพี่ลูกน้องของเรารีบเอาทิชชู่เปียกเช็ดหน้าให้หญิงสาวด้วยความร้อนรน แต่ร่องรอยเย็นเฉียบยังคงฝังอยู่

ไม่นาน แม่เฒ่าผู้เป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้านก็มาปรากฏตัว เธอถือด้ายแดงกับเครื่องเซ่นบางอย่าง เดินเข้ามาท่ามกลางเงาไฟสลัว ๆ บรรยากาศกดดันยิ่งกว่าเดิม แต่สิ่งที่ทำให้เราขนลุกที่สุดคืองานศพครั้งนี้ ไม่มีพระเลยแม้แต่องค์เดียวเหลือเพียงพระปั้นหัวกุดสององค์เฝ้ามองอยู่เงียบ ๆเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง

แม่เฒ่าเริ่มทำพิธี เสียงท่องคาถาเบา ๆ ดังขึ้นพร้อมควันไฟจากธูปที่ลอยวนเหมือนจะบิดเบี้ยวเป็นรูปร่าง เธอผูกด้ายแดงรอบ ๆ เมรุและพยายามกันไม่ให้ผีเข้ามาใกล้ แต่ร่างนั้นกลับหัวเราะเสียงต่ำ ๆ“คิดว่าด้ายแดงกั้นกูได้เหรอ”

เสียงสะท้อนทำให้ทุกคนเย็นวาบไปถึงกระดูก พริบตานั้นเอง พื้นดินสั่นสะเทือน ครื๊ดด ครืด  แล้วพระพุทธรูปองค์ที่สามซึ่งตั้งอยู่หน้าเมรุเริ่มเอนเอียง ก่อนหัวหล่นลงมากระแทกพื้นเหมือนสององค์แรก
ตึงงงงง!!!

ทุกคนหันไปมองพร้อมกัน แม่เฒ่าหน้าถอดสีทันที เธอกระซิบเสียงสั่น“เสร็จมันแล้ว พระองค์ที่สามหัวกุด พิธีนี้กันไม่อยู่แล้ว”
ผีตัวนั้นหัวเราะก้อง เสียงเหมือนกรีดแผ่นเหล็ก
“กูไม่ต้องการสอง กูไม่ต้องการหก กูต้องการ ‘สามหัว’ เพื่อกลับมาเต็มตัว”

ทันใดนั้น ศีรษะพระปั้นทั้งสามที่หล่นอยู่บนพื้น ค่อย ๆ กลิ้งเข้ามารวมกันตรงหน้าโลง แล้วเปลี่ยนเป็นหัวคนจริง ๆ ดวงตาลืมโพลงจ้องมาที่พวกเรา

ไฟจากเมรุลุกขึ้นเองโดยไม่มีใครจุด แสงสีแดงเลือดส่องเงายาวทาบไปทั่วศาลา ทุกอย่างสั่นสะท้าน เสียงกรีดร้องดังระงมรอบวัดเหมือนมาจากคนตายนับไม่ถ้วน

เราพยายามจะตะโกน แต่เสียงกลับหายไปในลำคอ และทันใดนั้น ทุกอย่างก็มืดสนิท
สิ่งสุดท้ายที่เห็นคือเงาผีชี้หน้ามาที่เรา พร้อมเสียงกระซิบแผ่วเบา“คราวนี้… หนีไม่พ้นแล้ว”

///ฟางเส้นเดียว
14/09/2025
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่