แรงงานกัมพูชา แห่ลักลอบเข้าไทยต่อเนื่อง โอดกลับไปไม่มีงาน บริษัทที่รัฐจัดหาให้ก็ติดต่อไม่ได้
กองทัพเรือ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่2 หมวดทหารพรานนาวิกโยธิน คลองตาดำ (ฐานปฏิบัติการ05) ได้ทำการลาดตระเวนเฝ้าระวังบริเวณแนวชายแดน ช่วงบริเวณถนนลูกรัง ทางเข้าสวนลำไย หมู่ที่ 8 ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน
พบชาวกัมพูชาจำนวนมาก กำลังเดินเท้าลักลอบเข้ามายังประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จึงแสดงตัวเพื่อเข้าจับกลุ่มตรวจค้น ทำให้กลุ่มของชาวกัมพูชา พร้อมผู้นำพา แตกกระเจิงวิ่งหลบหนีไปได้หลาย 10 คน
สามารถควบคุมตัวได้เพียง 34 ราย แยกเป็น...
📌ชาวกัมพูชาเพศชายจำนวน 21 ราย
📌ชาวกัมพูชาเพศหญิงจำนวน 13 ราย
เตรียมนำตัวส่งดำเนินคดี
สืบทราบได้ว่า จะมีการนำพาแรงงานชาวกัมพูชาเพื่อลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก คาดว่าไม่ต่ำกว่า 50 คน โดยจะลักลอบนำพาข้ามแดน โดยวิธีการเดินข้ามคลอง ซึ่งเป็นลำคลองแบ่งแนวเขตแดนระหว่างกัมพูชา และพื้นที่ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน
ย
หลังจากทราบข่าวที่แน่ชัดจึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ซุ่มเฝ้าระวัง และบางส่วนให้ลาดตระเวนตลอดแนว ที่คาดว่ากลุ่มของชาวกัมพูชาจะใช้เป็นช่องทางในการเดินข้ามผ่านแดน
ปรากฏว่าเมื่อเวลาประมาณ 00.20 น. ที่ผ่านมา (13 ก.ย.68) เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้พบกลุ่มคนจำนวนมากทยอยเดินอยู่บริเวณถนนดินลูกรัง ทางเข้าสวนลำไยของชาวบ้าน และยังเชื่อมต่อกับลำคลองส่งน้ำ
จึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น แต่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัวทำให้กลุ่มของชาวกัมพูชาเกิดความตกใจ วิ่งหลบหนีไปคนละทิศทาง ในจำนวนที่หลบหนีได้มีผู้นำพาอยู่ด้วย ทำให้สามารถควบคุมได้เพียงบางส่วน รวมจำนวนทั้งหมด 34 คน
เจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการสอบสวนผู้ที่พูดไทยได้ ทราบว่าทั้งหมดที่เดินทางมา
📌เสียค่าเดินทาง จากกัมพูชาเพื่อข้ามแดนคนละ 3,000 บาท
📌จ่ายให้กับผู้นำพา ที่จะพาเดินทางจากชายแดนเข้าไปส่งยังสถานที่ทำงาน อีกคนละ 3,000 บาท
รวมแล้วต้องจ่ายค่าเดินทางข้ามแดนทั้งหมดเพื่อกลับเข้ามามายังประเทศไทย คนละ 6,000 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติมยังทราบว่ากลุ่มของชาวกัมพูชาเหล่านี้เพิ่งเดินทางกลับข้ามไปได้ไม่นาน แต่ไม่มีงานทำ ทำให้ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว
ส่วนกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาประกาศว่าจะมีงานให้ทำนั้น ได้มีการโทรไปสอบถาม แต่บริษัทที่จะรับเข้าทำงานไม่รับโทรศัพท์ เมื่อมีคนติดต่อได้ก็จะแจ้งกลับมาว่า พนักงานเต็มแล้ว โดยจะเป็นแบบนี้ทั้งหมด
จึงเป็นเหตุให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศนั้นต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเดินทางลักลอบเข้าประเทศไทยเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพต่อไปจนเป็นเหตุให้ถูกจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้ความรู้กับชาวกัมพูชาเหล่านี้เพิ่มเติมด้วยว่า อย่าทำแบบนี้อีก หากจะเข้ามาก็ขอให้เข้ามาโดยถูกต้องจะได้ไม่ต้องถูกจับดำเนินคดีและผลักดันกลับอีก
จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านแปลง ให้เข้ามาทำการตรวจสอบลงบันทึกจับกุมเพื่อส่งดำเนินคดี หลังจากนั้นจะทำการผลักดันกลับประเทศกัมพูชาต่อไป
ที่มา : โหนกระแส
กัมพูชา แห่ลักลอบเข้าไทยต่อเนื่อง โอดกลับไปไม่มีงาน ที่รัฐจัดหาให้ก็ติดต่อไม่ได้
แรงงานกัมพูชา แห่ลักลอบเข้าไทยต่อเนื่อง โอดกลับไปไม่มีงาน บริษัทที่รัฐจัดหาให้ก็ติดต่อไม่ได้
กองทัพเรือ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่2 หมวดทหารพรานนาวิกโยธิน คลองตาดำ (ฐานปฏิบัติการ05) ได้ทำการลาดตระเวนเฝ้าระวังบริเวณแนวชายแดน ช่วงบริเวณถนนลูกรัง ทางเข้าสวนลำไย หมู่ที่ 8 ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน
พบชาวกัมพูชาจำนวนมาก กำลังเดินเท้าลักลอบเข้ามายังประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จึงแสดงตัวเพื่อเข้าจับกลุ่มตรวจค้น ทำให้กลุ่มของชาวกัมพูชา พร้อมผู้นำพา แตกกระเจิงวิ่งหลบหนีไปได้หลาย 10 คน
สามารถควบคุมตัวได้เพียง 34 ราย แยกเป็น...
📌ชาวกัมพูชาเพศชายจำนวน 21 ราย
📌ชาวกัมพูชาเพศหญิงจำนวน 13 ราย
เตรียมนำตัวส่งดำเนินคดี
สืบทราบได้ว่า จะมีการนำพาแรงงานชาวกัมพูชาเพื่อลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก คาดว่าไม่ต่ำกว่า 50 คน โดยจะลักลอบนำพาข้ามแดน โดยวิธีการเดินข้ามคลอง ซึ่งเป็นลำคลองแบ่งแนวเขตแดนระหว่างกัมพูชา และพื้นที่ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน
ย
หลังจากทราบข่าวที่แน่ชัดจึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ซุ่มเฝ้าระวัง และบางส่วนให้ลาดตระเวนตลอดแนว ที่คาดว่ากลุ่มของชาวกัมพูชาจะใช้เป็นช่องทางในการเดินข้ามผ่านแดน
ปรากฏว่าเมื่อเวลาประมาณ 00.20 น. ที่ผ่านมา (13 ก.ย.68) เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้พบกลุ่มคนจำนวนมากทยอยเดินอยู่บริเวณถนนดินลูกรัง ทางเข้าสวนลำไยของชาวบ้าน และยังเชื่อมต่อกับลำคลองส่งน้ำ
จึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น แต่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัวทำให้กลุ่มของชาวกัมพูชาเกิดความตกใจ วิ่งหลบหนีไปคนละทิศทาง ในจำนวนที่หลบหนีได้มีผู้นำพาอยู่ด้วย ทำให้สามารถควบคุมได้เพียงบางส่วน รวมจำนวนทั้งหมด 34 คน
เจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการสอบสวนผู้ที่พูดไทยได้ ทราบว่าทั้งหมดที่เดินทางมา
📌เสียค่าเดินทาง จากกัมพูชาเพื่อข้ามแดนคนละ 3,000 บาท
📌จ่ายให้กับผู้นำพา ที่จะพาเดินทางจากชายแดนเข้าไปส่งยังสถานที่ทำงาน อีกคนละ 3,000 บาท
รวมแล้วต้องจ่ายค่าเดินทางข้ามแดนทั้งหมดเพื่อกลับเข้ามามายังประเทศไทย คนละ 6,000 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติมยังทราบว่ากลุ่มของชาวกัมพูชาเหล่านี้เพิ่งเดินทางกลับข้ามไปได้ไม่นาน แต่ไม่มีงานทำ ทำให้ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว
ส่วนกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาประกาศว่าจะมีงานให้ทำนั้น ได้มีการโทรไปสอบถาม แต่บริษัทที่จะรับเข้าทำงานไม่รับโทรศัพท์ เมื่อมีคนติดต่อได้ก็จะแจ้งกลับมาว่า พนักงานเต็มแล้ว โดยจะเป็นแบบนี้ทั้งหมด
จึงเป็นเหตุให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศนั้นต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเดินทางลักลอบเข้าประเทศไทยเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพต่อไปจนเป็นเหตุให้ถูกจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้ความรู้กับชาวกัมพูชาเหล่านี้เพิ่มเติมด้วยว่า อย่าทำแบบนี้อีก หากจะเข้ามาก็ขอให้เข้ามาโดยถูกต้องจะได้ไม่ต้องถูกจับดำเนินคดีและผลักดันกลับอีก
จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านแปลง ให้เข้ามาทำการตรวจสอบลงบันทึกจับกุมเพื่อส่งดำเนินคดี หลังจากนั้นจะทำการผลักดันกลับประเทศกัมพูชาต่อไป
ที่มา : โหนกระแส