1.นานนับล้านปีที่จิตถือกำเนิดมาจากความว่างของจักรวาล และมาอยู่กับกายเนื้อก่อรูปร่างมาเป็น“คน”
2.เมื่อจิตอยู่ร่วมกับกายเนื้อ อาศัยกายเนื้อเป็นถ้ำ จิตก็เข้าใจไปว่า ตนมีกายเนื้ออยู่ เนื้อหนังเป็นของตน
จะรับรู้อะไร คิดอะไร ทำอะไร มีมีตน ตนเป็นจิต จิตเป็นตน
3. เมื่อจิตเริ่มมีการ“สังเกตุตัวเอง“ จึงเห็นว่า ความรู้สึกต่างๆ เช่น ความทุกข์เกิดจากความคิค จิตสามารถออกจากความคิดได้ จิตเริ่มแยกออกมาจากความคิด
4.ตาม 3 เป็นวิวัฒนาการของคน เป็นปัญญา ที่ทำให้จิตเริ่มพ้นจากความทุกข์ เป็นจิตมีปัญญา ถอยห่างจากความคิด
5.เมื่อจิตสังเกตุตัวเองมากเข้า จิตเห็นว่ารูปกายนี้ มันทำตามความคิดของจิต จิตเป็นผู้สั่งงานมัน
6.เมื่อจิตเห็นว่าทั้ง ความคิด และรูปเอง ล้วนไม่ใช่ตัวจิต จิตจึงแยกตัวออกทั้งจากความคิดและรูปกาย จิตรู้สึกว่า ตัวเองลอยอยู่เหนือรูปกาย มีช่องว่างเล็กๆ
ระหว่างรูปกายและตัวจิตเอง เมื่อ จิตเห็นความจริง “ อย่างนี้เมื่อไร จิตจะรู้สึกถึง ความสุข สงบ ปืติ ที่เกิดกับตัวจิตเอง
นิทานเรื่อง“จิต”
2.เมื่อจิตอยู่ร่วมกับกายเนื้อ อาศัยกายเนื้อเป็นถ้ำ จิตก็เข้าใจไปว่า ตนมีกายเนื้ออยู่ เนื้อหนังเป็นของตน
จะรับรู้อะไร คิดอะไร ทำอะไร มีมีตน ตนเป็นจิต จิตเป็นตน
3. เมื่อจิตเริ่มมีการ“สังเกตุตัวเอง“ จึงเห็นว่า ความรู้สึกต่างๆ เช่น ความทุกข์เกิดจากความคิค จิตสามารถออกจากความคิดได้ จิตเริ่มแยกออกมาจากความคิด
4.ตาม 3 เป็นวิวัฒนาการของคน เป็นปัญญา ที่ทำให้จิตเริ่มพ้นจากความทุกข์ เป็นจิตมีปัญญา ถอยห่างจากความคิด
5.เมื่อจิตสังเกตุตัวเองมากเข้า จิตเห็นว่ารูปกายนี้ มันทำตามความคิดของจิต จิตเป็นผู้สั่งงานมัน
6.เมื่อจิตเห็นว่าทั้ง ความคิด และรูปเอง ล้วนไม่ใช่ตัวจิต จิตจึงแยกตัวออกทั้งจากความคิดและรูปกาย จิตรู้สึกว่า ตัวเองลอยอยู่เหนือรูปกาย มีช่องว่างเล็กๆ
ระหว่างรูปกายและตัวจิตเอง เมื่อ จิตเห็นความจริง “ อย่างนี้เมื่อไร จิตจะรู้สึกถึง ความสุข สงบ ปืติ ที่เกิดกับตัวจิตเอง