พุทโธ ดูจิต วิปัสสนา
"ให้นึกพุทโธ คำเดียวหลับตางับปากเสีย
ให้ระลึกอยู่...ในใจ พุทโธ คือความรู้
ความรู้ อยู่...ตรงไหน ตั้งสติไว้ตรงนั้น...
ให้เรานึกพุทโธ พุทโธ
บริกรรมเพ่งเล็ง ดู...จิตของเราในพุทโธนั้น
เราไม่อยากเป็นกรรมเป็นเวร
เราก็ต้องตัด ตัดอารมณ์น่ะล่ะ
ให้ อยู่...ในที่รู้
ให้กำหนด ดู...ความรู้ อยู่...ตรงไหนแล้ว
เราก็เพ่ง อยู่ตรงนั้น...
สิ่งทั้งหลายทั้งหมด เกิดจากดวงใจ ของเรา มโนความน้อมนึก
มันเกิดตรงไหน ก็ดับตรงนั้น...
ไม่รู้จักที่เกิด ไปดับที่อื่น มันก็ไม่ดับซี่!
อุปมาเหมือนดับไฟฟ้า ดับดวงนี้...
ดวงนั้น ก็ยังอยู่...
ดับดวง นั้น...ดวงอื่น ยังอยู่...
คนผู้ฉลาดดับที่หม้อแบตเตอรี่
มันก็มืดม๊ดทั่วพระนคร
อันนี้! ไปดับจิตดวงเดียว ก็หมด
ไม่ต้องไปดับตา ดับหู ดับจมูก ดับลิ้น
ดับกาย ดับใจ ดับที่ใจ ดวงเดียวแล้ว...
ดับม๊ด เพราะทั้งหมด...มันเกิดจากใจ
ให้ตั้งสติเพ่งตรง ผู้รู้...
เข้าถึงสมาธิ คือจิตตั้งมั่น มันก็ไม่หวั่นไม่ไหว
ในทุกขเวทนา ทั้งหลาย
เวทนา ก็สักแต่เวทนา
สัญญา ก็สักแต่ว่าสัญญา
สังขาร วิญญาณ ก็สักแต่ว่า
เป็นสังขาร วิญญาณ นึกถึง แต่ผู้รู้...
รู้เท่า...สังขาร รู้เท่า...วิญญาณ
เรื่องมันเป็น ยังงั้น
ท่านว่า...มันไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้น...เป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์
สิ่งนั้น...ไม่ใช้ตัวตน
จิต ของเรา ถ้ามันเที่ยง
ไม่แปรผันโยกย้ายไปมา ก็พึงพาอาศัยได้
นี่! มันไม่เป็นยังงั้น
บอกให้มัน นิ่ง...มันก็ไม่นิ่ง
บอกให้ไปทางนี้ มันไปทางโน้น ยังงี้!
จึงพึ่งไม่ได้
เราจึงต้องมาพากันทำสมาธิ
ดูสิ่งเหล่านี้...เป็นคน หรืออะไร
ให้มารู้จักนะ รู้จักโม หัวใจตัวเรา
มันจึงจะรักษาได้ เราไม่เห็นนะ
ไม่เห็นโม แล้ว...หัวใจตัวเราก็รักษาไม่ได้
มันก็ทะเยอทะยานในรูปในเสียง
ในกลิ่นในรส โผฏฐัพพะธรรมารมณ์ทั้งหลาย
ต้องนั่ง พิจารณาดู...
ให้มันรู้มันเห็น ไม่ต้องไปหาที่ไหนนะ
ให้ ดูสิ่งที่มีอยู่...ในใจเรานี่หละ!
มันมืด หรือมันสว่าง นี่หละ! อัตตะโนนาโถ
เป็นที่พึ่งของตน
ให้รู้จักภาวนาพุทโธ ทำดวงจิตให้ผ่องใส
จะได้เป็นที่พึ่งของเรา ได้แน่นอน
ให้ทราบว่า ในโลกนี้ ไม่มี...แก่นสารอันใด
เกิดมาแล้ว...ก็ต้องตาย เอาอะไรไปไม่ได้
สักอย่าง
ที่จะเอาได้ ก็เป็นเรื่องของดวงจิต เท่านั้น
ฉะนั้น...จึงให้รู้จักทำจิต
คลายจากความชั่ว ความเศร้าหมอง
ทำจิตใจให้เป็นบุญ เป็นกุศล
เป็นจิตที่สงบผ่องใส เป็นสมาธิ
ให้รู้จักใช้ปัญญา พิจารณารูป-นาม
ให้เห็นตามความเป็นจริงของสังขาร
จนสามารถ ละ...วาง...
ตัณหาอุปทาน ทั้งหลายได้."
-----------------------------------------------------------------
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
พุดโทคำเดียวหลับตางับปากเถอะ
"ให้นึกพุทโธ คำเดียวหลับตางับปากเสีย
ให้ระลึกอยู่...ในใจ พุทโธ คือความรู้
ความรู้ อยู่...ตรงไหน ตั้งสติไว้ตรงนั้น...
ให้เรานึกพุทโธ พุทโธ
บริกรรมเพ่งเล็ง ดู...จิตของเราในพุทโธนั้น
เราไม่อยากเป็นกรรมเป็นเวร
เราก็ต้องตัด ตัดอารมณ์น่ะล่ะ
ให้ อยู่...ในที่รู้
ให้กำหนด ดู...ความรู้ อยู่...ตรงไหนแล้ว
เราก็เพ่ง อยู่ตรงนั้น...
สิ่งทั้งหลายทั้งหมด เกิดจากดวงใจ ของเรา มโนความน้อมนึก
มันเกิดตรงไหน ก็ดับตรงนั้น...
ไม่รู้จักที่เกิด ไปดับที่อื่น มันก็ไม่ดับซี่!
อุปมาเหมือนดับไฟฟ้า ดับดวงนี้...
ดวงนั้น ก็ยังอยู่...
ดับดวง นั้น...ดวงอื่น ยังอยู่...
คนผู้ฉลาดดับที่หม้อแบตเตอรี่
มันก็มืดม๊ดทั่วพระนคร
อันนี้! ไปดับจิตดวงเดียว ก็หมด
ไม่ต้องไปดับตา ดับหู ดับจมูก ดับลิ้น
ดับกาย ดับใจ ดับที่ใจ ดวงเดียวแล้ว...
ดับม๊ด เพราะทั้งหมด...มันเกิดจากใจ
ให้ตั้งสติเพ่งตรง ผู้รู้...
เข้าถึงสมาธิ คือจิตตั้งมั่น มันก็ไม่หวั่นไม่ไหว
ในทุกขเวทนา ทั้งหลาย
เวทนา ก็สักแต่เวทนา
สัญญา ก็สักแต่ว่าสัญญา
สังขาร วิญญาณ ก็สักแต่ว่า
เป็นสังขาร วิญญาณ นึกถึง แต่ผู้รู้...
รู้เท่า...สังขาร รู้เท่า...วิญญาณ
เรื่องมันเป็น ยังงั้น
ท่านว่า...มันไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้น...เป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์
สิ่งนั้น...ไม่ใช้ตัวตน
จิต ของเรา ถ้ามันเที่ยง
ไม่แปรผันโยกย้ายไปมา ก็พึงพาอาศัยได้
นี่! มันไม่เป็นยังงั้น
บอกให้มัน นิ่ง...มันก็ไม่นิ่ง
บอกให้ไปทางนี้ มันไปทางโน้น ยังงี้!
จึงพึ่งไม่ได้
เราจึงต้องมาพากันทำสมาธิ
ดูสิ่งเหล่านี้...เป็นคน หรืออะไร
ให้มารู้จักนะ รู้จักโม หัวใจตัวเรา
มันจึงจะรักษาได้ เราไม่เห็นนะ
ไม่เห็นโม แล้ว...หัวใจตัวเราก็รักษาไม่ได้
มันก็ทะเยอทะยานในรูปในเสียง
ในกลิ่นในรส โผฏฐัพพะธรรมารมณ์ทั้งหลาย
ต้องนั่ง พิจารณาดู...
ให้มันรู้มันเห็น ไม่ต้องไปหาที่ไหนนะ
ให้ ดูสิ่งที่มีอยู่...ในใจเรานี่หละ!
มันมืด หรือมันสว่าง นี่หละ! อัตตะโนนาโถ
เป็นที่พึ่งของตน
ให้รู้จักภาวนาพุทโธ ทำดวงจิตให้ผ่องใส
จะได้เป็นที่พึ่งของเรา ได้แน่นอน
ให้ทราบว่า ในโลกนี้ ไม่มี...แก่นสารอันใด
เกิดมาแล้ว...ก็ต้องตาย เอาอะไรไปไม่ได้
สักอย่าง
ที่จะเอาได้ ก็เป็นเรื่องของดวงจิต เท่านั้น
ฉะนั้น...จึงให้รู้จักทำจิต
คลายจากความชั่ว ความเศร้าหมอง
ทำจิตใจให้เป็นบุญ เป็นกุศล
เป็นจิตที่สงบผ่องใส เป็นสมาธิ
ให้รู้จักใช้ปัญญา พิจารณารูป-นาม
ให้เห็นตามความเป็นจริงของสังขาร
จนสามารถ ละ...วาง...
ตัณหาอุปทาน ทั้งหลายได้."
-----------------------------------------------------------------
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร