เมื่อเวลาประมาณ สี่ทุ่มที่ผ่านมา NASA แถลง ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างหินที่ยาน Perseverance เก็บได้ ณ บริเวณหุบเขา Neretva Vallis ซึ่งในอดีตเคยเป็นแม่น้ำมาก่อน โดยหินดังกล่าวมีแถบสีขาวสลับแดง ซึ่งบริเวณสีขาวดังกล่าวคือแคลเซียมซัลเฟต ซึ่งเกิดจากการที่นำพัดพาแร่ธาตุมาสะสม แต่จุดที่น่าสนใจนั้นคือบริเวณแถบสีแดง ที่เมื่อยานซูมเข้าไปดูจะเห็นเป็นลายจุดคล้ายลายเสือดาว จุดเหล่านี้มีร่องรอยของแร่ธาตุที่อุดมด้วยธาตุเหล็กสองชนิด vivianite (hydrated iron phosphate) และ greigite (iron sulfide)
โดย vivianite นี้ บนโลกมักพบในหินตะกอน รอบอินทรีย์วัตถุ(ซากดึกดำบรรพ์ของจุลินทรีย์) ในขณะเดียวกัน จุลลินทรีย์บางชนิดบนโลกก็สามารถผลิต greigite
นี่จึงเป็น Bio-Signature (สัญญาณของสิ่งมีชีวิต) ที่อาจจะบอกเราว่าครั้งหนึ่งดาวอังคารเคยมีสิ่งมีชีวิต แต่อย่างไรก็แล้วแต่ NASA ยังไม่คอนเฟิร์ม 100% ว่านี่เป็นการค้นพบซากสิ่งมีชีวิต(จุลลินทรีย์)บนดาวอังคาร เนื่องจากว่าเราไม่อาจรู้ได้ว่าแร่ธาตุดังกล่าวสามารถเกิดจากสิ่งไม่มีชีวิตได้หรือไม่
ภาพของหินดังกล่าว
ข้อมูลจาก NASA
1.
https://www.youtube.com/live/-StZggK4hhA?si=fBsnyqKVFWWGNkwK
2.
https://www.nasa.gov/news-release/nasa-says-mars-rover-discovered-potential-biosignature-last-year/?fbclid=IwdGRleAMufwRjbGNrAy5-92V4dG4DYWVtAjExAAEeAngMxKEhGPRR8oSDhA_1cdEWi9FK5Qx2uP-OL7yBRMcGf-YolRezA-G9WzQ_aem_R8PpFEyV_GJohLF97YSwSg
3.
https://www.nature.com/articles/s41586-025-09413-0.pdf
NASA แถลง พบหลักฐานที่อาจจะบ่งชี้ถึงการมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร
โดย vivianite นี้ บนโลกมักพบในหินตะกอน รอบอินทรีย์วัตถุ(ซากดึกดำบรรพ์ของจุลินทรีย์) ในขณะเดียวกัน จุลลินทรีย์บางชนิดบนโลกก็สามารถผลิต greigite
นี่จึงเป็น Bio-Signature (สัญญาณของสิ่งมีชีวิต) ที่อาจจะบอกเราว่าครั้งหนึ่งดาวอังคารเคยมีสิ่งมีชีวิต แต่อย่างไรก็แล้วแต่ NASA ยังไม่คอนเฟิร์ม 100% ว่านี่เป็นการค้นพบซากสิ่งมีชีวิต(จุลลินทรีย์)บนดาวอังคาร เนื่องจากว่าเราไม่อาจรู้ได้ว่าแร่ธาตุดังกล่าวสามารถเกิดจากสิ่งไม่มีชีวิตได้หรือไม่
ภาพของหินดังกล่าว
ข้อมูลจาก NASA
1.https://www.youtube.com/live/-StZggK4hhA?si=fBsnyqKVFWWGNkwK
2.https://www.nasa.gov/news-release/nasa-says-mars-rover-discovered-potential-biosignature-last-year/?fbclid=IwdGRleAMufwRjbGNrAy5-92V4dG4DYWVtAjExAAEeAngMxKEhGPRR8oSDhA_1cdEWi9FK5Qx2uP-OL7yBRMcGf-YolRezA-G9WzQ_aem_R8PpFEyV_GJohLF97YSwSg
3.https://www.nature.com/articles/s41586-025-09413-0.pdf