[CR] รีวิวชีวิตตัวเอง ตลอดระยะเวลาเกือบ 24 ปี

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ชีวิต ตอนนี้เรา อายุ 24 ปีนี้ ขอเริ่มตั้งแต่เราจำความได้ เราเป็นคนชอบคณิตมาก ชอบการคำนวณ ชอบการได้ลงมือทำ ต่อด้วยช่วงมัธยมปีที่ 3 เราได้มีโอกาสเจอแม่เพื่อนที่ทำงานธนาคาร แล้วเราก็ชอบอะไรที่เป็นตัวเลขอะ แม่เพื่อนก็บอกว่าเราเหมาะกับการเรียนบัญชีนะ พอมัธยมปลาย เราได้เรียน รด. เพราะว่าเราชอบการใช้กำลัง ได้ใส่ชุดที่เราว่าเท่อะ แล้วตอนที่เรียนรด.ไปด้วย ก็มีความคิดอยากเป็นแพทย์/พยาบาลทหาร เพราะได้รักษาคน ได้รบ เราเป็นคนชอบยิงปืนมาก ตอนเรียน รด. ปี 2 ที่ได้ยิงปืน เรายิงเข้าเป้าเยอะมาก มันเลยทำให้ยิ่งชอบที่จะทำอาชีพเกี่ยวกับทหาร แล้วมารู้ว่าจะไปแพทย์/พยาบาลทหารตอนม.5 แล้ว แล้วก่อนหน้านั้นเราไม่เอาวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เลย แต่เราเรียนสายวิทย์คณิตนะ เราแค่รู้สึกว่า ฟิสิกส์ เราชอบที่ได้คำนวณ แต่ตอนนั้นครูที่สอน สอนเราแล้วเราไม่โอเค เราไม่เข้าใจว่าสอนอะไร เราเลยไม่สามารถเข้าใจฟิสิกส์เลย เคมีเป็นวิชาที่เราได้ครึ่งๆกลางๆ มันใช้ความจำเยอะอะ แต่ก็ไม่เค่าชีวะ เคมีตอนนั้นครูสอนโอเคนะ แต่สอนเร็ว แล้วเราเป็นคนที่ถ้าไม่เข้าใจตั้งแต่แรก เราก็จะไม่เข้าใจขั้นตอนๆไป มันเลยทำให้เคมีเราก็ไม่รอด ต่อมาชีวะเราโอเคที่สุดใน 3 วิชา (อยากมามองว่าเราโทษอย่างอื่นนะ เราไม่ได้โทษอย่างอื่นอย่างเดียวนะ เราก็โทษตัวเองตอนที่เรามารู้ตัวว่าอยากเป็นแพทย์ทหาร) ต่อมาม.6 ถึงช่วงที่จะต้องยื่นมหาลัยแหละ เราสอบตามที่แพทย์ต้องสอบเลย ถึงแม้ว่าเราจะเกรดไม่ถึง อ่อ รอบ 1 กับ 2 เราไม่ได้ยื่นนะ โรงเรียนเรามีให้ทำ Portfolio นะ แต่เราก็ไม่ได้ยื่นมหาลัย เพราะเรายังไม่รู้เลยว่าเราจะเรียนอะไรดี เราเลยสอบพวก 9 วิชาสามัญ GATPAT ต่างๆ แล้วพอตอนยื่นรอบ 3 มาถึง เรายื่นคณะวิทยาศาสตร์มาพี่สาวก่อน เพราะอย่างที่เราว่าเราไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไร รู้แค่ว่าชอบเลข คำนวณ การได้ลงมือทำต่างๆ เรายื่นมหาลัย คณะที่เราคะแนนถึง แต่เราจำได้ว่าอันแรกที่เราหา เป็นแพทย์ทหารเลย แต่คะแนนห่างเยอะเลย ในรอบ 3 เรามียื่นบัญชี และครูด้วยนะ ผลรอบ 3 ออกมา เราได้บัญชีม.เชียงใหญ่ ตอนนั้นพูดเลยว่า ข้าเจ้าเป็นสาวเฉียงหม่ายยยยยย แต่แม่กับลุงบอกว่ามันไกลบ้านนะ ไม่ต้องเอาหรอก ในใจเราแบบ ถ้าไม่ได้รอบ 4 แล้วเราต้องไปยังไงต่อ เพราะยุคเรามี 5 รอบ 1. Portfolio 2.ทุน 3กับ4 ยื่นคะแนน 5.ถ้าจำไม่ผิดเป็นสอบเทียบหรืออะไรสักอย่าง ใจเราไม่อยากไปถึงรอบ 5 อะ ต่อพอรอบ 3 จบ เราก็ไม่ได้ยืนยันอะไร แล้วมาลุ้นรอบ 4 รอบ 4 ถ้าจำไม่ผิดก็ยื่นคล้ายรอบแรก แต่มายื่นมหาลัยที่อยู่ไม่ไกล ก็นครปฐม กรุงเทพที่ยื่น แล้วก็ไปเลือกลำดับสุดท้ายที่ม.เชียงใหม่อีกรอบ กันไว้เพื่อไม่ได้ที่อื่น พอผลรอบ 4 ออกมา คิดว่าเราจะได้อะไรบ้าง มี วิทย์ ครู บัญชี ............. เฉลย เราได้บัญชี ภาคพิเศษ มหาลัยสีเขียว ย่านกำแพงแสน เดากันได้แหละเนอะ ช่วงที่เราเรียนเป็นช่วงโควิด เรียนออนไลน์ ขอเล่าช่วงที่เรียนออนไลน์หน่อยนะ คือ เราเป็นคนที่หาอ่านมาเยอะว่าช่วงเรียนมหาลัยส่วนใหญ่จะแข่งกันเรียน เราเลยไม่เข้าหาเพื่อนช่วงเรียนออนไลน์เลย แต่เพื่อนก็จะรู้กันว่าเราเป็นรองเฮด งงกันอะดิว่าเป็นรองเฮดได้ไง เหมือนว่าเราจะไปมีส่วนร่วมอะไรสักอย่าง ทำให้เพื่อนรู้จัก เลยได้เป็นรองเฮด มาต่อเรื่องเพื่อน ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนที่จะเข้ามาหาเป็นก่อน เราก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมเพื่อนถึงเข้าหา เพราะคะแนนเรียนเราก็ไม่ได้ท็อปห้องหรืออะไรเลย แค่เวลาอาจารย์ถามก็ตอบได้ตามปกติ แล้วก็มีโอกาสได้เข้าเรียนในมหาลัย 1 อาทิตย์เลยแนะ แล้วก็กลับไปออนไลน์ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดได้นั่งกับเพื่อน 3-4 คนมั้งนะ แล้วพอช่วงโควิดผ่านไปได้เรียนใน  มหาลัยจริงๆแหละ จำไม่ได้ว่าช่วงเทอมไหน แต่อยู่ช่วงปี 2-3 นี่แหละ ก็เลยทำให้เจอเพื่อน เลยจับกลุ่ม ในกลุ่มตอนนั้นก็จะมีแน่ๆ 3 คนมั้ง มีเรา เพื่อนที่คุยตั้งแต่แรก แล้วก็เพื่อนของเพื่อน เป็น 3 คน แล้วก็มีเพื่อนเพิ่มมาเรื่อยๆ แต่เพื่อนคนที่ทักคุยกับเราตั้งแต่แรก ก็ดรอปเรียนไป ตอนนี้ในกลุ่มก็จะมีเพื่อรรวมเราเป็น 6 คน และต่อมาอยู่ๆก็มีเพื่อนคนหนึ่งที่ห้างออกจากกลุ่มไปเรื่อยๆ ห่างออกจากกลุ่ม คือ เวลาในกลุ่มไปไหนที่ไม่เกี่ยวกับเรียน งาน ก็จะไม่เข้ามารวมด้วยเลย แต่งานกลุ่มต่างๆก็จะอยู่ด้วยปกติ แต่ก็จะไม่ค่อยคุยกับคนอื่น ถ้าไม่ใช่งาน งงไหม นั้นสิเราก็งง แต่คุยกับเราปกติ เราถามเพื่อนคนอื่นในกลุ่ม ทุกคนก็ว่าไม่ได้มีอะไรกัน แค่อยู่ๆเพื่อนก็ห่างออกไปเอง พอเรื่องของเพื่อน มาต่อเรื่องเรียน ในระหว่างที่เรียนก็จะมีเพื่อนทักมาขอดูการบ้าน ดูงานบ้าง แรกๆเราก็จะให้เพราะไม่รู้นิสัยเพื่อน หลังๆมาเราสงสัยเราถามเพื่อนคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเรานะ ทักไปเป็นวันไม่มีการตอบ หลังจากนั้นเราทำการไม่ตอบบ้าง เวรต้องระงับด้วยการไม่จองเวร นะทุกคน ให้เราจองเวรคนเดียวพอ ผ่านเรื่องนี้ไป มาเรื่องงานกลุ่มต่างๆ ก็เช่น ทำวิจัย ทำปัญหาพิเศษ 2 งานนี้ เราทำกับคนเดิมเลย ก็คือ เพื่อนในกลุ่มนั้นแหละ งานก็ดูจะผ่านไปด้วยดี เพราะมีเพื่อนที่เป็นคนช่วยนำด้วย 2 คน รวมเราก็เป็น 3 คนที่นำกลุ่ม งานกลุ่ม 5 คนนะ แล้วก็ผ่านงานออกมาได้อย่างราบรื่น เราต้องขอบคุณเพื่อนที่เข้ามาช่วยนำด้วย โคตรภูมิใจเลยอะ อยู่กันมาตั้ง 2-3 ปี ดีใจมากที่เราก็มีเพื่อนเป็นที่พึ่งได้ นิสัยส่วนตัวเราเป็นคนลุยๆเลย ไม่ได้ชอบที่จะเป็นผู้นำ แต่ถ้าคนที่นำเราอยู่เรามองแล้วมันไม่ถูกต้อง เราก็จะขึ้นมานำเอง ยกตัวอย่างให้เห็นเลยนะ เช่น การขับรถ ถ้าวิ่งเลนซ้ายมา แล้วมีรถจอดอยู่เลนซ้ายข้างหน้า สิ่งที่ผู้นำทำ คือ การวิ่งไปใกล้รถคันที่จอดแล้วค่อยออก เราจะมองว่ามีเวลาออกก่อนที่จะถึงแล้วทำไมไม่ออก เพราะถ้าเป็นเราทำเราจะหาช่องเปลี่ยนเลนก่อนที่จะถึงคันที่จอด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเอาแต่ว่า เพราะเราก็จะดูด้วยว่ามันสามารถทำได้ไหม อะไรแบบนี้ จบช่วงเรียนที่มหาลัย เป็นช่วงฝึกงาน อันนี้ขอบอกก่อนเลยว่าเราคิดผิดมากที่เราไปเลือกที่จะฝึกงานที่ใหญ่ๆ เราไปฝึกงานตามที่ๆป้ารหัสเราฝึก ถามว่าได้ทำงานไหม ฝึก 4 เดือน ได้ทำงานแบบให้งานมาทำเป็นของตัวเองเลย ตอนเดือนสุดท้าย ก่อนหน้านั้นก็จะมีเก็บเอกสาร ตรวจเลขภาษี แล้วก็มีได้คีย์เลขภาษีด้วย ก็จะวนๆไปแบบนี้ อ่อ ช่วงหน้างบก็มีได้ไปออกจ็อบตรวจสอบบัญชีด้วย อันนี้ชอบมาก ได้ทำงานอะ อันนี้จะได้ไปช่วงเดือนที่ 2 กับ 3 ของช่วงฝึกงาน ก็จะเป็นว่าเดือนแรกที่ไปฝึกงานก็ทำงานเอกสารในออฟฟิศ เดือน 2,3 ออกจ็อบตรวจสอบ เดือน 4 ทำงานในออฟฟิศ ช่วงฝึกงานไม่รู้จะเล่าอะไรดี เพราะว่าไม่ค่อยได้จดจำช่วงนั้นสักเท่าไร ต่อช่วงที่จบมหาลัย เข้าสู่วัยทำงาน เด็กจบใหม่ส่วนใหญ่จะพักก่อนสัก 2-3 เดือน แล้วค่อยเริ่มทำงาน เราฝึกงานจบสิ้นเดือนมีนาคม 2567 เราก็น่างานประจำต่อเลย เดืนอเมษายน 2567 งานแรกที่ได้เป็นงานพนักงานบัญชีบริษัท(งานที่เราหาเอง) ทำได้อยู่ 2 เดือน เพื่อนพ่อ เราขอเรียกว่าป้า ก็มาแนะนำเราว่าไปทำตรวจสอบบัญชีสิ ไหนๆก็เรียนจบบัญชีมาแล้ว เราเลยออกจากที่ทำบัญชีสิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 มาทำตรวจสอบเดือนมิถุนายน 2567 เลย แบบไม่พัก สับๆเลยไหมละ แล้วก็มาช่วงทดลองงานตรวจสอบบัญชีอันนี้ที่ทำเป็นผู้ช่วงสอบบัญชีนะ งานที่ได้ทำก็ตรวจสอบเลยอ่ะ ได้งานเป็นของตัวเองเลย ไม่เข้าใจก็ถามพี่ในทีมได้เลย เราโชคดีที่ได้อยู่ทีมที่คุยง่าย พี่ๆใจดีมาก ทำผิดพี่ก็จะพูดให้เข้าใจว่าผิดตรงไหน ถ้าเราเข้าใจแบบไหนเราก็เอามาคุยกันได้เลย เป็นอะไรที่ชอบมา หัวหน้างานดี ดีในที่นี้ คือพี่เขาทำงานเก่ง เก่งแทบจะทุกด้านอะ อย่างเราอ่านมาตรฐานไม่เข้าใจ พี่เขาก็จะมาอธิบายให้ฟังว่ามันเป็นยังไง อ่อ ตอนนี้เราทำงานมาได้ 1 ปี กับ 3 เดือน แล้วนะ บริษัทที่เราทำมีสอบประจำปีด้วย เพื่อวัดผลต่างๆภายในบริษัท ปี 2567 ที่เข้ามาเราก็ได้สอบ แต่คะแนนเราได้แค่ 97 เต็ม 200 ตอนนั้นแบบทำไมน้อยจัง เวลาอ่านก็มีมากกว่าคนอื่นด้วยนะ แต่พอมาปีนี้ สอบได้คะแนน 109 เต็ม 200 ผ่านครึ่งแล้ว ถึงแม้มางานจะเยอะขึ้นแต่ก็ได้ความรู้จากการทำงานมากขึ้นด้วย มันเลยทำให้สอบได้คะแนนมากขึ้น ดีใจมากที่สอบผ่าน มากแบบมากๆ เราเป็นคนชอบเอาชนะอะ ถ้าเรามั่นใจแล้วดันไม่เป็นตามที่คิด เราจะไม่โอเคนิดๆ สิ่งที่เรามาทั้งหมด เราต้องเราแบบไม่ให้เจาะจงตัวใคร เพราะเดี๋ยวจะโดนกล่าวหาได้ แต่ถ้าได้เป็นเพื่อนเรา เราเล่าหมด ชื่อไม่มีเก็บ หลุดหมดอะ แต่งานไม่มีหลุดนะจ้ะ เรื่องที่เราชอบหยิบมาเม้ามอยมากที่สุดจะเป็นเรื่องเพื่อนมหาลัย 2 คนเอาแค่นี้พอ เดี๋ยวคนมองไม่ดี แต่มาแชร์ประสบการณ์ฟิลเพื่อนคุยกันนะทุกคน