ใครมีแพลนไปเที่ยวยุโรปช่วงปลายปีนี้ฟังทางนี้! ✈️🌍
ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ การเข้ายุโรปจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป! EU กำลังจะเปิดใช้งานระบบพรมแดนดิจิทัลใหม่ที่เรียกว่า EES (Entry/Exit System) ซึ่งจะใช้กับนักเดินทางทุกคนที่ไม่ได้ถือสัญชาติ EU (non-EU) สำหรับการเดินทางเข้ายุโรปแบบ short stay รวมถึงคนไทยด้วยค่ะ
• EES คืออะไร แล้วต้องทำยังไง?
• EES เป็นระบบที่จะใช้เก็บข้อมูลการเข้า-ออกของนักเดินทางทุกคนที่ไม่ได้ถือสัญชาติ EU โดยจะเข้ามาแทนที่การประทับตราพาสปอร์ตแบบเดิมที่เราคุ้นเคยกัน ต่อจากนี้จะไม่มีระบบ stamp แล้วนะคะ
○ ขั้นตอนใหม่: ครั้งแรกที่ไปถึง จะต้องทำการลงทะเบียนข้อมูลชีวมิติ(Biometrics)ได้แก่ การสแกนหนังสือเดินทาง, ลายนิ้วมือ และถ่ายรูปที่ตู้ kiosk อัตโนมัติหรือกับเจ้าหน้าที่ (เพราะฉะนั้น อย่าลืมเผื่อเวลาด้วยนะ!)
• เริ่มใช้งาน: ระบบจะเริ่มทยอยใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2568 โดยจะค่อยๆ ขยายไปยังจุดผ่านแดนสำคัญต่างๆ และคาดว่าจะครอบคลุมทุกที่ภายในต้นปี 2569
• ข้อมูลส่วนตัว: ข้อมูลที่ลงทะเบียนครั้งแรกจะใช้ได้นานถึง 3 ปี ทำให้การเดินทางครั้งต่อไปสะดวกขึ้น
สรุปคนไทยต้องขอ วีซ่าเชงเกนเหมือนเดิม แม้จะเก็บข้อมูล Biometrics ไปแล้วตอนขอวีซ่า แต่ก็ต้องลงทะเบียนใหม่ครั้งแรก ตอนผ่านแดน แต่ก็จะทำให้การผ่านตม.ครั้งต่อไปเร็วขึ้น
แม้ในช่วงแรกอาจจะมีข้อกังวลเรื่องคิวที่อาจจะยาวขึ้นบ้าง แต่ในระยะยาว ระบบนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทำให้การเดินทางระหว่างประเทศราบรื่นขึ้นแน่นอนค่ะ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปเที่ยวกัน!
ข้อมูลข่าว : BBC news
CR : FB เพจ Chillichilloutt
https://www.facebook.com/share/p/15uUm7ft3R/?mibextid=wwXIfr
#เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวยุโรป #ไปยุโรป #วีซ่าเชงเกน #EES #EUtravel #Schengen #ข่าวท่องเที่ยว #ทริปยุโรป
✈️ใครจะไปยุโรปช่วงปลายปีนึ้ โปรดอ่าน EU กำลังจะเปิดใช้งานระบบพรมแดนดิจิทัลใหม่ที่เรียกว่า EES (Entry/Exit System)
ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ การเข้ายุโรปจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป! EU กำลังจะเปิดใช้งานระบบพรมแดนดิจิทัลใหม่ที่เรียกว่า EES (Entry/Exit System) ซึ่งจะใช้กับนักเดินทางทุกคนที่ไม่ได้ถือสัญชาติ EU (non-EU) สำหรับการเดินทางเข้ายุโรปแบบ short stay รวมถึงคนไทยด้วยค่ะ
• EES คืออะไร แล้วต้องทำยังไง?
• EES เป็นระบบที่จะใช้เก็บข้อมูลการเข้า-ออกของนักเดินทางทุกคนที่ไม่ได้ถือสัญชาติ EU โดยจะเข้ามาแทนที่การประทับตราพาสปอร์ตแบบเดิมที่เราคุ้นเคยกัน ต่อจากนี้จะไม่มีระบบ stamp แล้วนะคะ
○ ขั้นตอนใหม่: ครั้งแรกที่ไปถึง จะต้องทำการลงทะเบียนข้อมูลชีวมิติ(Biometrics)ได้แก่ การสแกนหนังสือเดินทาง, ลายนิ้วมือ และถ่ายรูปที่ตู้ kiosk อัตโนมัติหรือกับเจ้าหน้าที่ (เพราะฉะนั้น อย่าลืมเผื่อเวลาด้วยนะ!)
• เริ่มใช้งาน: ระบบจะเริ่มทยอยใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2568 โดยจะค่อยๆ ขยายไปยังจุดผ่านแดนสำคัญต่างๆ และคาดว่าจะครอบคลุมทุกที่ภายในต้นปี 2569
• ข้อมูลส่วนตัว: ข้อมูลที่ลงทะเบียนครั้งแรกจะใช้ได้นานถึง 3 ปี ทำให้การเดินทางครั้งต่อไปสะดวกขึ้น
สรุปคนไทยต้องขอ วีซ่าเชงเกนเหมือนเดิม แม้จะเก็บข้อมูล Biometrics ไปแล้วตอนขอวีซ่า แต่ก็ต้องลงทะเบียนใหม่ครั้งแรก ตอนผ่านแดน แต่ก็จะทำให้การผ่านตม.ครั้งต่อไปเร็วขึ้น
แม้ในช่วงแรกอาจจะมีข้อกังวลเรื่องคิวที่อาจจะยาวขึ้นบ้าง แต่ในระยะยาว ระบบนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทำให้การเดินทางระหว่างประเทศราบรื่นขึ้นแน่นอนค่ะ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปเที่ยวกัน!
ข้อมูลข่าว : BBC news
CR : FB เพจ Chillichilloutt https://www.facebook.com/share/p/15uUm7ft3R/?mibextid=wwXIfr
#เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวยุโรป #ไปยุโรป #วีซ่าเชงเกน #EES #EUtravel #Schengen #ข่าวท่องเที่ยว #ทริปยุโรป