JJNY : ปชน.เปิดให้ผู้ผ่านหลักสูตร สมัครเป็นผู้สมัครส.ส.│ส.โรงแรมหวังปัญหาจบได้│ส.อ.ท.ห่วงเวลาจำกัด│เตือน 45 จว.รับมือฝน

เริ่มแล้ว! ปชน. เปิดให้ผู้ผ่านหลักสูตรพรรค สมัครเป็นผู้สมัครส.ส. เตรียมนับถอยหลังเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5356724
.

.
เริ่มแล้ว ‘พรรคประชาชน’ เปิดระบบให้ผู้ผ่านหลักสูตรของพรรค ลงสมัครเป็นผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบ่งเขต-บัญชีรายชื่อ เตรียมความพร้อมนับถอยหลังสู่เลือกตั้ง 
.
เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แล้วในวันนี้ ประเทศไทยจะนับถอยหลังสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ พร้อมกับการจัดทำประชามติเพื่อเปิดทางสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามเงื่อนไขของพรรคประชาชนที่ระบุในข้อตกลงร่วมฯ (MOA) ที่เปิดเผยต่อประชาชนทั่วประเทศ
.
เพื่อให้พรรคประชาชนมีผู้สมัคร ส.ส.ที่มีความพร้อมทั้งด้านความรู้และทักษะการทำงาน เป็นบุคคลที่พี่น้องประชาชนจะให้ความเชื่อมั่นได้ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง วันนี้เวลา 18.00 น. พรรคได้เปิดระบบให้สมาชิกพรรคที่ผ่านการอบรมหลักสูตรตัวแทนสมาชิกพรรคประชาชน (PP101) และหลักสูตรนักการเมืองประชาชน (PC101) สามารถสมัครเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาชนได้ โดยเป็นการรับสมัครภายในผ่านช่องทาง Discord และกลุ่มไลน์ผู้สมัคร PC101 ของแต่ละจังหวัดเท่านั้น
.
สำหรับแบบแบ่งเขต สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2568 ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2568
.

.
ส.โรงแรม หวังปัญหาไทย-กัมพูชาจบได้ หาก ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯ จี้ยกเครื่องความปลอดภัย
https://www.matichon.co.th/economy/news_5356970
.
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ประเทศไทยต้องการนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐบาลที่มีอำนาจทำงานแบบ 100% โดยหากพรรคภูมิใจไทยได้รับการโหวตให้นั่งตำแหน่งนายกฯ คาดหวังว่าจะเป็นผลดีในการที่มีโอกาสเจรจาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชายุติได้ เพราะรัฐบาลไม่ได้มาจากพรรคเดิมที่ยังหารือกันไม่รู้เรื่อง จึงหวังว่าจะเจรจาหาข้อยุติกันได้ โดยระยะเวลาในการทำงาน 4 เดือน ตามเงื่อนไขของพรรคประชาชน มองว่าสิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้แบบไม่ต้องใช้งบประมาณคือ การให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์ความปลอดภัยในด้านความเชื่อมั่น ซึ่งมีผลกระทบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้ 4 เดือนจะเป็นระยะเวลาที่สั้น แต่หากทำได้ทันที จึงอยากเห็นนายกฯ เป็นแม่ทัพสั่งการเรื่องนี้อย่างเข้มข้น
.
นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า แนวทางในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย คือ สั่งตั้งทีมโฆษกแถลงประชาสัมพันธ์การปฏิบัติงานที่ทำแล้วเดือนละ 2 ครั้ง รวบรวมข่าวสารการจับกุมผู้กระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว หรือมาตรการต่างๆ ที่ออกมา ประกาศให้ชัดเจนว่ารัฐบาลไทยมีการทำอะไรไปแล้ว กำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้ ซึ่งอยากให้ตั้งทีมทำงานอย่างต่อเนื่องจนจบรัฐบาล ไม่ว่าจะ 4 เดือนหรือใช้เวลามากกว่านั้น เพราะเชื่อว่า การเคลื่อนไหวรับมือกับข่าวสารต่างๆ อย่างรวดเร็ว จะเห็นผลเชิงบวกและสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยวได้
.
“นักท่องเที่ยวต่างชาติ เชื่อว่าหากสร้างความเชื่อมั่นกลับมาได้ จุดติดแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถกลับมาเที่ยวไทยได้ทันที เพราะประเทศไทยมีความพร้อมในทุกด้านของการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นการที่เราจับกุมและดำเนินคดีการโกง หรือการเอาเปรียบผู้บริโภคทั้งคนไทยและต่างชาติ ก็จะไม่ได้ถูกกระจายข่าวออกไปว่ามีการดำเนินคดีอย่างจริงจัง โดยหากมีการจัดตั้งทีมขึ้นมาทำงานแถลงข่าวออกไป สามารถรวบรวมกรณีที่เกิดขึ้นและบอกได้ว่า ทำอะไรไปแล้วบ้าง จะเป็นผลงานของแต่ละหน่วยงานที่ดำเนินการ และนายกฯ ก็จะมีผลงานในการทำงานตลอดระยะเวลาที่เป็นรัฐบาลด้วย โดยย้ำว่าไม่ใช่การต่อต้านข่าว แต่เป็นการรายงานรับมืออย่างรวดเร็ว เพราะการปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงไม่ได้แล้ว” นายเทียนประสิทธิ์ กล่าว
.
นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า คุณสมบัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ ต้องยอมรับว่าเอกชนไม่สามารถเลือกได้ แต่ก็อยากให้นายกฯ พิจารณาเลือกคนที่มีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว มีพื้นฐานความรู้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอยู่บ้าง หรือหากไม่มีประสบการณ์ ก็อยากให้มีความสามารถในการบริหารจัดการ อย่างน้อยขอให้รับฟังภาคเอกชนแล้วนำไปพิจารณาต่อ เพราะภาคเอกชนเป็นผู้มีประสบการณ์จริง หากหยิบข้อเสนอแนะไปใช้น่าจะส่งผลบวกต่อการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว รวมถึงเศรษฐกิจไทยต่อไปได้
.

.
ส.อ.ท. ห่วงรบ.ใหม่มีเวลาจำกัด วอน ใช้โอกาส 4 เดือน ฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน
https://www.matichon.co.th/economy/news_5356776
.
ส.อ.ท. ห่วงรบ.ใหม่มีเวลาจำกัด วอน ใช้โอกาส 4 เดือน ฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน
.
วันที่ 5 กันยายน นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ภายหลังการโหวตเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเฉพาะกิจ โดยมีวาระการทำงาน 4 เดือนว่า ส.อ.ท. ต้องขอแสดงความยินดีกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 และยินดีที่ประเทศไทยมีความชัดเจนด้านผู้นำรัฐบาล ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนและภาคธุรกิจ หลังจากที่การเมืองมีความไม่แน่นอนมาระยะหนึ่ง
.
เราหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ และกล้าตัดสินใจ โดยเฉพาะในทีมเศรษฐกิจหลัก เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพราะสิ่งนี้จะเป็นสัญญาณสำคัญที่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้ทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ แม้จะเป็นรัฐบาลระยะสั้น ก็ควรรีบเร่งทำงานอย่างเต็มที่ทันที” นายเกรียงไกร กล่าว
.
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า “ระยะเวลา 4 เดือนนับว่าสั้นมาก” สำหรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการปรับระบบภาษี การพัฒนาทักษะแรงงาน หรือการวางยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน ซึ่งต้องใช้ความต่อเนื่องหลายปีจึงเห็นผลชัดเจน ในระยะเวลาจำกัดนี้ รัฐบาลจึงควรเน้นมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาปัญหาเร่งด่วนและสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ดี
.
สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่ต้องการเห็นภายใน 4 เดือน ส.อ.ท. เสนอว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งดำเนินการ ดังนี้
1. บรรเทาค่าครองชีพและต้นทุนพลังงาน ที่ส่งผลโดยตรงต่อประชาชนและผู้ประกอบการ
2. ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการเพิ่มสภาพคล่อง ลดภาษี และมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย
3. เร่งรัดการเจรจาการค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ และตลาดสำคัญ เพื่อไม่ให้การเจรจาสะดุดจากการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
4. ปรับปรุงระบบธุรกิจและภาษี ให้ทันสมัย ลดความซ้ำซ้อน และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นประเด็นหลักที่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุน ภาคธุรกิจและหน่วยงานราชการหลายแห่งอยู่ในภาวะ “wait and see” ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ทำได้เพียงประมาณ 50% ของเป้าหมาย ซึ่งกระทบต่อการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ หากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินมาตรการได้อย่างชัดเจน การเจรจาการค้าระหว่างประเทศอาจหยุดชะงัก และการลงทุนใหม่ๆ อาจล่าช้าออกไป ซึ่งจะเป็นความท้าทายสำคัญของรัฐบาลเฉพาะกิจในช่วงเวลาเพียง 4 เดือนนี้
.
“แม้รัฐบาลจะมีเวลาจำกัด แต่ก็เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะสร้างแรงกระตุ้นต่อเศรษฐกิจ และสร้างบรรยากาศเชิงบวกให้รัฐบาลถาวรในอนาคตมาสานต่อ ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อให้มาตรการเหล่านี้เกิดผลจริง” นายเกรียงไกร กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่