ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนนะคะ ว่าเรามีแมว และ มีประวัติการคุยแชทเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวทุกที่กับเจ้าของ ในเวลาที่เราแจ้งย้าย
ที่พักทุกที่พูดเสียงเดียวกัรว่าเลี้ยงสะอาดไม่มีกลิ่นเหม็นสะอาดกว่าคนยิ่งไม่ได้เลี้ยงสัตว์ เพียงแต่เราเป็นภูมิแพ้กลิ่นเหม็นทุกชนิดสถานที่ต่างๆที่เคยอยู่มาถ้าไม่กลิ่นบุหรี่กลิ่นกัญชากลิ่นใบกระท่อมที่เขาสูบกันก็ฝืนทำกับข้าวแรงๆจากร้านอาหารตามสั่งที่บังเอิญอยู่ติดกัน รวมถึงได้กลิ่นจากเพื่อนบ้านที่เลี้ยงหมาแมวแบบมักง่ายทำให้เราต้องย้าย
ทุกครั้งที่ย้ายออกไม่ได้เกิดจากตัวเราหรือแมว จะเกิดจากเพื่อนบ้านจริงๆจนเราไม่สามารถอยู่ต่อได้
ที่นี้ที่ล่าสุดที่เราย้ายมาอยู่แบบฉุกเฉิน ไม่มีเวลาหาที่พักเลย
มาดูครั้งแรกเจ้าของหรือคนที่พาให้ดูไม่ได้แจ้งรายละเอียดต่างๆอะไรให้ฟังเลยเราก็คิดว่าเป็นห้องเช่าทั่วไป
จนถึงวันที่วางเงินทำสัญญา พอเรามาถึงเราเซ็นสัญญาเราจ่ายเงิน ทางผู้ให้เช่าได้เอาไปให้เราเซ็นยินยอมว่าเป็นพนักงานที่บริษัทพัก
ไอ้เราที่ไม่มีเวลาหาที่อยู่แล้วแล้วก็จ่ายเงินไปแล้วแล้วเขียนสัญญาที่พักไปแล้วก็เลยต้องเซ็น
สถานที่แห่งนี้ชั้น 1-2-3 ทำเป็นออฟฟิศ
ชั้น 4 ชั้น 5 ทำเป็นห้องให้เช่า
พอเขาให้เราเซ็นสัญญาเป็นพนักงานเราก็เลยถามว่าเอาแล้วชั้น 5 นี่เขาเช่าแบบเราไหมเขามาเช่าอยู่หรือเป็นพนักงาน
ทางผู้ให้เช่าพูดว่ามีคุณคนเดียวแหละที่เช่าข้างบนก็เป็นพนักงานที่นี่ ณ ตอนนั้นเราก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรและไม่มีเวลาหาที่อยู่แล้ว
ที่นี้มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดนะสิคะ
ผู้เช่าชั้น 5 เป็นคนเช่าเหมือนกับเรา วันแรกที่เรามาอยู่เช้าเราตื่นขึ้นมา เขากวาดขนแมวกวาดฝุ่นที่ชั้นเขาอ่ะลงมากองหน้าห้องเราเต็มไปหมดเลย
เราก็เลยมีการทักไปถามคนดูแลว่าห้องข้างบนเลี้ยงแมวใช่ไหมทำไมเขาต้องกวาดมาแบบนี้
คนดูแลไม่ได้ตอบอะไรเราตอบแค่ว่าใช่ ก็เอารูปเอาคำพูดใน LINE ของเราอ่ะเข้าไปลงในกลุ่มของ LINE กลุ่มตึกที่เราเช่า
ก็เลยมีการพูดคุยกัน ทางคนให้เช่าบอกว่า อาจจะต้องกวาดแล้วก็มัดใส่ถุงให้ดีๆ
แต่หลังจากนั้นมันปรับรุนแรงขึ้นกว่าเดิม มีทั้งฝุ่นทั้งขนแมวเป็นหิมะคลุ้งเต็มชั้นเรา เวลาเราเปิดประตูห้องออกมา เหมือนประตูบ้านร้างที่ไม่เคยมีคนอยู่คะฝุ่นกระจายเต็มหน้าประตูเลย
เราก็เริ่มไม่โอเคแล้ว ไม่มีการแจ้งเจ้าของเจ้าของก็ทำเป็นอารมณ์เสียหงุดหงิดแล้วมาพูดว่าถ้าทะเลาะกันจะให้ออกทั้งคู่เลย
เราย้ายมาอยู่ไม่ถึงเดือนเราคงย้ายออกไม่ได้ ต่อให้เราอยู่หลายเดือนถ้าเรายังไม่มีที่อยู่ใหม่ที่ดีกว่าเราก็ยังย้ายออกไม่ได้และเขาก็ไม่คืนเงินประกันเราด้วย
เราก็เลยทนทนประมาณ 2 เดือน ของตึกได้เช่าตึกว่างที่ติดกับตึกข้างๆเรา แล้วมีการต่อเติมทำห้องเช่ารีโนเวทเสียงดังทั้งเจาะปูนทุกปูนตลอด 2 เดือนกว่า
กลายเป็นว่าปัญหาเพื่อนบ้านข้างบนก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ให้เช่ายังสร้างปัญหาให้เองอีก นี้ก็หนักใจเลยเพราะเราเริ่มรู้นิสัยคนให้เช่าแล้วว่าเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบเป็นคนที่ต้องการแค่เงินอย่างเดียว
มันเลยทำให้เราคิดหนักทำอะไรไม่ถูกเพราะเราก็ยังหาที่อยู่ไม่ได้ คือที่อยู่ที่ย้ายได้ชั่วคราวมันมีแต่ที่อยู่ที่แบบไม่ต้องย้ายบ่อยๆมันหาไม่ได้เราเหนื่อยกับการย้ายห้องบ่อยๆแล้ว
เราก็เลยทนแต่พอยิ่งทน ในทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ยิ่งหนักขึ้นหนักขึ้นหนักขึ้นๆ หนักจนไม่สามารถจะแบกรับปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเช่านี้ได้อีกต่อไปแล้ว
ถึงวันนี้เป็นวันที่ครบกำหนดจ่ายค่าเช่าคือวันที่ 5 เรามาทำสัญญาวันที่ 4 แต่เราขนของมาเก็บไว้วันที่ 5 เขาก็เลยนับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาแต่เราขอจ่ายวันที่ 5 ทุกเดือน
เราไม่อยากอยู่แล้วเพราะล่าสุดที่มีปัญหาห้องข้างบนทำร้ายทรัพย์สิน ท้าให้เราไปแจ้งตำรวจซึ่งทรัพย์สินที่เขาทำลายมันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายหรอกแต่มันเหมือนกันล่วงละเมิดของของเรา ของเราแล้วเจ้าของก็ไม่รับผิดชอบ
ซึ่งเราใช้ผ้ายางกั้นบันไดไม่ให้ฝุ่นแล้วขนแมวมันตกลงมาเขารื้อออกหมดเลยและก็ไม่เก็บทิ้งเกลื่อนกลาด
ส่วนคนให้เช่ามีการมาพูดว่าเราต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งที่เราไม่ได้เป็นคนทำ ติดตั้งผ้ายางกันฝุ่นและขนแมวรอเป็นคนคุยและปรึกษากับตัวผู้ชาย ห้องข้างบนอยู่เป็นผัวเมียค่ะเราคุยกับคนเป็นผัว
ได้มีการพูดคุยกันว่าจะใช้ผ้ายางปิดเพราะเขาบอกว่าเขาไม่สามารถคุยกับเมียเขาได้เมียเขาเป็นคนดื้อมากเป็นคนไม่รับฟังทุกเหตุผลเอาแต่ใจตัวเอง ก็เลยแก้ที่ปลายเหตุคือให้ๆหาผ้ายางมาปิดกั้นบันไดตรงราวบันไดทางเดินแทนเพื่อไม่ให้ฝุ่นและขนแมวที่เมียเขากวาดตกลงมากองหน้าห้องเรา เวลาเราเปิดประตูมันก็จะปลิวเข้าห้องกันหมดคะ
ก็เลยมีการมีปากเสียงกันนิดหน่อยที่เขามารื้อของๆเราแล้วเขาก็ด่าเราส่วนแจ้งคนให้เช่านอกจากจะไม่จัดการปัญหายังจะโยนทุกความผิดมาให้รับผิดชอบร่วมกัน
เราเลยยากถามว่าเราควรทำยังไงดี เขาไม่อยากอยู่ต่อแล้วอ่ะเราเหนื่อยกับสิ่งที่เราต้องกวาดหน้าห้องแล้วไปลาก่อนมันคลุ้งเต็มชั้นเราเลยถ้าไม่ทำมันก็ปลิวเข้าห้องเราเพราะว่าเขาทำเป็นห้องต่อเติมแบบงานหยาบ พื้นมันจะลอยอ่ะค่ะมันจะมีรูให้ฝุ่นให้อะไรเข้ามาในห้องได้ง่าย
สิ่งที่เราคิดคือถ้าจะบอกว่าเราจะย้ายออกก็อาจจะโดนหนักกว่านี้ จ่ายค่าห้องค่าเช่ารวมน้ำไฟก็ไม่ใช่ถูกๆนะคะเกือบ 8,000 บาทต่อเดือน สภาพห้องแล้วไม่ต่างจากสลัม แต่ที่เราต้องมาอยู่เพราะเรามีสัตว์เลี้ยงแค่นั้นจริงๆคะ
เราจะแจ้งเขาว่าเงินเรายังไม่ออก น่าจะออกซักอีก 5-6 วัน แล้วในระหว่างที่แจ้งนี้เราหาที่อยู่ใหม่ให้ได้ดีไหมคะ
เงินประกันกับค่าเช่าล่วงหน้าก็พอๆกับค่าห้องเดือนนี้ค่ะ บอกตรงๆเราไม่อยากอยู่แล้วเพียงแต่เรายังหาที่อยู่ไม่ได้เราไม่อยากอยู่ต่อแม้แต่วันเดียวค่ะมันทรมานมากมันทุกข์ใจมาก
เราเหนื่อยมากกับสิ่งที่เราต้องทำทั้งที่มันไม่ใช่หน้าที่ของเราในทุกๆวัน
เช้ามาเราลืมตามาเราเก็บขี้แมวเราเราแค่เปิดประตูออกไปเรายังไม่ได้กินน้ำยังไม่ได้ล้างหน้าล้างตาเราต้องรีบกวาดอะไรออกนอกห้องเราก่อนไม่งั้นมันจะปลิวเข้าห้องเราหมดถ้าเราเปิดประตูเข้าออก
พูดง่ายๆคืองานแรกที่ลืมตาขึ้นมาจากที่นอนกวาดหน้าห้องซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่ของเราเลย
ตอนที่มันดูห้องอ่ะคนให้เช่าบอกว่ามีแม่บ้านมาทำความสะอาดนะ จริงแล้วไม่มีค่ะแม่บ้านมาที่ละวันแล้วก็ไม่ได้ทำชั้นผู้เช่าด้วย
มันเลยทำให้เราหนักใจเพราะเรารู้แล้วคนให้เช่านิสัยเป็นยังไงไม่มีทางพูดคุยด้วยเหตุผลได้ เขาก็เลี้ยงคนงานต่างด้าวไว้หลายคนทั้งเล่นกัญชาทั้งสูบบุหรี่ทั้งเล่นยาซึ่งมันอันตรายมากถ้าเราทำให้เขาโมโหคะ
ไปพอมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ช่วยแนะนำด้วยค่ะไม่อยากอยู่ต่อแล้วจริงๆไม่ต่างจากนรกเลยคะ
เพราะข้างบนไม่ได้แค่กวาดขนแมวและฝุ่นลงมายังชอบแขวนผ้าอะไรเหม็นๆตรงช่องระบายอากาศในห้องน้ำให้มันเข้าห้องเราเหม็นจนเหมือนหนูตายเป็น 10 ชาติคะ
ถ้าทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จะทำยังไงกันคะ
ที่พักทุกที่พูดเสียงเดียวกัรว่าเลี้ยงสะอาดไม่มีกลิ่นเหม็นสะอาดกว่าคนยิ่งไม่ได้เลี้ยงสัตว์ เพียงแต่เราเป็นภูมิแพ้กลิ่นเหม็นทุกชนิดสถานที่ต่างๆที่เคยอยู่มาถ้าไม่กลิ่นบุหรี่กลิ่นกัญชากลิ่นใบกระท่อมที่เขาสูบกันก็ฝืนทำกับข้าวแรงๆจากร้านอาหารตามสั่งที่บังเอิญอยู่ติดกัน รวมถึงได้กลิ่นจากเพื่อนบ้านที่เลี้ยงหมาแมวแบบมักง่ายทำให้เราต้องย้าย
ทุกครั้งที่ย้ายออกไม่ได้เกิดจากตัวเราหรือแมว จะเกิดจากเพื่อนบ้านจริงๆจนเราไม่สามารถอยู่ต่อได้
ที่นี้ที่ล่าสุดที่เราย้ายมาอยู่แบบฉุกเฉิน ไม่มีเวลาหาที่พักเลย
มาดูครั้งแรกเจ้าของหรือคนที่พาให้ดูไม่ได้แจ้งรายละเอียดต่างๆอะไรให้ฟังเลยเราก็คิดว่าเป็นห้องเช่าทั่วไป
จนถึงวันที่วางเงินทำสัญญา พอเรามาถึงเราเซ็นสัญญาเราจ่ายเงิน ทางผู้ให้เช่าได้เอาไปให้เราเซ็นยินยอมว่าเป็นพนักงานที่บริษัทพัก
ไอ้เราที่ไม่มีเวลาหาที่อยู่แล้วแล้วก็จ่ายเงินไปแล้วแล้วเขียนสัญญาที่พักไปแล้วก็เลยต้องเซ็น
สถานที่แห่งนี้ชั้น 1-2-3 ทำเป็นออฟฟิศ
ชั้น 4 ชั้น 5 ทำเป็นห้องให้เช่า
พอเขาให้เราเซ็นสัญญาเป็นพนักงานเราก็เลยถามว่าเอาแล้วชั้น 5 นี่เขาเช่าแบบเราไหมเขามาเช่าอยู่หรือเป็นพนักงาน
ทางผู้ให้เช่าพูดว่ามีคุณคนเดียวแหละที่เช่าข้างบนก็เป็นพนักงานที่นี่ ณ ตอนนั้นเราก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรและไม่มีเวลาหาที่อยู่แล้ว
ที่นี้มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดนะสิคะ
ผู้เช่าชั้น 5 เป็นคนเช่าเหมือนกับเรา วันแรกที่เรามาอยู่เช้าเราตื่นขึ้นมา เขากวาดขนแมวกวาดฝุ่นที่ชั้นเขาอ่ะลงมากองหน้าห้องเราเต็มไปหมดเลย
เราก็เลยมีการทักไปถามคนดูแลว่าห้องข้างบนเลี้ยงแมวใช่ไหมทำไมเขาต้องกวาดมาแบบนี้
คนดูแลไม่ได้ตอบอะไรเราตอบแค่ว่าใช่ ก็เอารูปเอาคำพูดใน LINE ของเราอ่ะเข้าไปลงในกลุ่มของ LINE กลุ่มตึกที่เราเช่า
ก็เลยมีการพูดคุยกัน ทางคนให้เช่าบอกว่า อาจจะต้องกวาดแล้วก็มัดใส่ถุงให้ดีๆ
แต่หลังจากนั้นมันปรับรุนแรงขึ้นกว่าเดิม มีทั้งฝุ่นทั้งขนแมวเป็นหิมะคลุ้งเต็มชั้นเรา เวลาเราเปิดประตูห้องออกมา เหมือนประตูบ้านร้างที่ไม่เคยมีคนอยู่คะฝุ่นกระจายเต็มหน้าประตูเลย
เราก็เริ่มไม่โอเคแล้ว ไม่มีการแจ้งเจ้าของเจ้าของก็ทำเป็นอารมณ์เสียหงุดหงิดแล้วมาพูดว่าถ้าทะเลาะกันจะให้ออกทั้งคู่เลย
เราย้ายมาอยู่ไม่ถึงเดือนเราคงย้ายออกไม่ได้ ต่อให้เราอยู่หลายเดือนถ้าเรายังไม่มีที่อยู่ใหม่ที่ดีกว่าเราก็ยังย้ายออกไม่ได้และเขาก็ไม่คืนเงินประกันเราด้วย
เราก็เลยทนทนประมาณ 2 เดือน ของตึกได้เช่าตึกว่างที่ติดกับตึกข้างๆเรา แล้วมีการต่อเติมทำห้องเช่ารีโนเวทเสียงดังทั้งเจาะปูนทุกปูนตลอด 2 เดือนกว่า
กลายเป็นว่าปัญหาเพื่อนบ้านข้างบนก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ให้เช่ายังสร้างปัญหาให้เองอีก นี้ก็หนักใจเลยเพราะเราเริ่มรู้นิสัยคนให้เช่าแล้วว่าเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบเป็นคนที่ต้องการแค่เงินอย่างเดียว
มันเลยทำให้เราคิดหนักทำอะไรไม่ถูกเพราะเราก็ยังหาที่อยู่ไม่ได้ คือที่อยู่ที่ย้ายได้ชั่วคราวมันมีแต่ที่อยู่ที่แบบไม่ต้องย้ายบ่อยๆมันหาไม่ได้เราเหนื่อยกับการย้ายห้องบ่อยๆแล้ว
เราก็เลยทนแต่พอยิ่งทน ในทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ยิ่งหนักขึ้นหนักขึ้นหนักขึ้นๆ หนักจนไม่สามารถจะแบกรับปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเช่านี้ได้อีกต่อไปแล้ว
ถึงวันนี้เป็นวันที่ครบกำหนดจ่ายค่าเช่าคือวันที่ 5 เรามาทำสัญญาวันที่ 4 แต่เราขนของมาเก็บไว้วันที่ 5 เขาก็เลยนับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาแต่เราขอจ่ายวันที่ 5 ทุกเดือน
เราไม่อยากอยู่แล้วเพราะล่าสุดที่มีปัญหาห้องข้างบนทำร้ายทรัพย์สิน ท้าให้เราไปแจ้งตำรวจซึ่งทรัพย์สินที่เขาทำลายมันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายหรอกแต่มันเหมือนกันล่วงละเมิดของของเรา ของเราแล้วเจ้าของก็ไม่รับผิดชอบ
ซึ่งเราใช้ผ้ายางกั้นบันไดไม่ให้ฝุ่นแล้วขนแมวมันตกลงมาเขารื้อออกหมดเลยและก็ไม่เก็บทิ้งเกลื่อนกลาด
ส่วนคนให้เช่ามีการมาพูดว่าเราต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งที่เราไม่ได้เป็นคนทำ ติดตั้งผ้ายางกันฝุ่นและขนแมวรอเป็นคนคุยและปรึกษากับตัวผู้ชาย ห้องข้างบนอยู่เป็นผัวเมียค่ะเราคุยกับคนเป็นผัว
ได้มีการพูดคุยกันว่าจะใช้ผ้ายางปิดเพราะเขาบอกว่าเขาไม่สามารถคุยกับเมียเขาได้เมียเขาเป็นคนดื้อมากเป็นคนไม่รับฟังทุกเหตุผลเอาแต่ใจตัวเอง ก็เลยแก้ที่ปลายเหตุคือให้ๆหาผ้ายางมาปิดกั้นบันไดตรงราวบันไดทางเดินแทนเพื่อไม่ให้ฝุ่นและขนแมวที่เมียเขากวาดตกลงมากองหน้าห้องเรา เวลาเราเปิดประตูมันก็จะปลิวเข้าห้องกันหมดคะ
ก็เลยมีการมีปากเสียงกันนิดหน่อยที่เขามารื้อของๆเราแล้วเขาก็ด่าเราส่วนแจ้งคนให้เช่านอกจากจะไม่จัดการปัญหายังจะโยนทุกความผิดมาให้รับผิดชอบร่วมกัน
เราเลยยากถามว่าเราควรทำยังไงดี เขาไม่อยากอยู่ต่อแล้วอ่ะเราเหนื่อยกับสิ่งที่เราต้องกวาดหน้าห้องแล้วไปลาก่อนมันคลุ้งเต็มชั้นเราเลยถ้าไม่ทำมันก็ปลิวเข้าห้องเราเพราะว่าเขาทำเป็นห้องต่อเติมแบบงานหยาบ พื้นมันจะลอยอ่ะค่ะมันจะมีรูให้ฝุ่นให้อะไรเข้ามาในห้องได้ง่าย
สิ่งที่เราคิดคือถ้าจะบอกว่าเราจะย้ายออกก็อาจจะโดนหนักกว่านี้ จ่ายค่าห้องค่าเช่ารวมน้ำไฟก็ไม่ใช่ถูกๆนะคะเกือบ 8,000 บาทต่อเดือน สภาพห้องแล้วไม่ต่างจากสลัม แต่ที่เราต้องมาอยู่เพราะเรามีสัตว์เลี้ยงแค่นั้นจริงๆคะ
เราจะแจ้งเขาว่าเงินเรายังไม่ออก น่าจะออกซักอีก 5-6 วัน แล้วในระหว่างที่แจ้งนี้เราหาที่อยู่ใหม่ให้ได้ดีไหมคะ
เงินประกันกับค่าเช่าล่วงหน้าก็พอๆกับค่าห้องเดือนนี้ค่ะ บอกตรงๆเราไม่อยากอยู่แล้วเพียงแต่เรายังหาที่อยู่ไม่ได้เราไม่อยากอยู่ต่อแม้แต่วันเดียวค่ะมันทรมานมากมันทุกข์ใจมาก
เราเหนื่อยมากกับสิ่งที่เราต้องทำทั้งที่มันไม่ใช่หน้าที่ของเราในทุกๆวัน
เช้ามาเราลืมตามาเราเก็บขี้แมวเราเราแค่เปิดประตูออกไปเรายังไม่ได้กินน้ำยังไม่ได้ล้างหน้าล้างตาเราต้องรีบกวาดอะไรออกนอกห้องเราก่อนไม่งั้นมันจะปลิวเข้าห้องเราหมดถ้าเราเปิดประตูเข้าออก
พูดง่ายๆคืองานแรกที่ลืมตาขึ้นมาจากที่นอนกวาดหน้าห้องซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่ของเราเลย
ตอนที่มันดูห้องอ่ะคนให้เช่าบอกว่ามีแม่บ้านมาทำความสะอาดนะ จริงแล้วไม่มีค่ะแม่บ้านมาที่ละวันแล้วก็ไม่ได้ทำชั้นผู้เช่าด้วย
มันเลยทำให้เราหนักใจเพราะเรารู้แล้วคนให้เช่านิสัยเป็นยังไงไม่มีทางพูดคุยด้วยเหตุผลได้ เขาก็เลี้ยงคนงานต่างด้าวไว้หลายคนทั้งเล่นกัญชาทั้งสูบบุหรี่ทั้งเล่นยาซึ่งมันอันตรายมากถ้าเราทำให้เขาโมโหคะ
ไปพอมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ช่วยแนะนำด้วยค่ะไม่อยากอยู่ต่อแล้วจริงๆไม่ต่างจากนรกเลยคะ
เพราะข้างบนไม่ได้แค่กวาดขนแมวและฝุ่นลงมายังชอบแขวนผ้าอะไรเหม็นๆตรงช่องระบายอากาศในห้องน้ำให้มันเข้าห้องเราเหม็นจนเหมือนหนูตายเป็น 10 ชาติคะ