ส่องเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2568: ไปไหนดี? ทำไมต้องฟูลเซอร์วิส?

สถิติจากงาน “THAI Talk : Travel Trend and Priceless Experience” ชี้ว่าคนไทยยังรักการเดินทางต่างประเทศ ปี 2568 มีหลายเทรนด์น่าจับตา ทั้งพฤติกรรมและประสบการณ์ใหม่

จากสถิติของสายการบินที่เปิดเผยในงาน “THAI Talk: Travel Trend and Priceless Experience” ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าคนไทยยังคงรักการเดินทางไปต่างประเทศ และมีพฤติกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง ลองมาดูกันว่าในปี 2568 นี้มีเทรนด์อะไรที่น่าจับตามองบ้าง

โตเกียวยังคงครองแชมป์ ส่วนสิงคโปร์และเซี่ยงไฮ้มาแรง
หลายคนคงคุ้นเคยกับความนิยมของญี่ปุ่นมาพักใหญ่ แต่ปี 2568 นี้ โตเกียว ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ในใจคนไทย ขณะที่ สิงคโปร์ และ เซี่ยงไฮ้ ก็ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 และ 3 ตามลำดับ แซงหน้าฮ่องกงและโอซาก้าไปอย่างน่าสนใจ
 

แต่ที่น่าจับตามองสุด ๆ คือเมือง กวางโจว ที่มีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าสาเหตุหลักมาจากนโยบายฟรีวีซ่าของประเทศจีน ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้สะดวกขึ้น และกวางโจวเองก็มีของดีซ่อนอยู่มากมาย ทั้งพิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ และสตรีทฟู้ดที่หลากหลาย ซึ่งตอบโจทย์นักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่แค่การช้อปปิ้ง

นักท่องเที่ยวไทยยุคใหม่ให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่า” และ “ความสบาย”
นักเดินทางไทยในปัจจุบันไม่ได้เน้นแค่ราคาที่ถูกที่สุดอีกต่อไป แต่หันมามองหาความคุ้มค่าและสะดวกสบายตลอดทริปมากขึ้น ทำให้ Full-Service Airlines กลับมาได้รับความนิยม

การบินไทยได้เผยว่า ผู้โดยสารยุคใหม่พร้อมจ่ายเงินครั้งเดียวเพื่อให้ได้บริการที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ที่นั่งสบาย ระบบความบันเทิงทันสมัย อาหารพรีเมียม และที่สำคัญคือตารางบินที่ยืดหยุ่น เช่น บินกลางคืนถึงเช้าเพื่อเที่ยวได้เต็มวัน หรือบินเช้าถึงบ่ายเพื่อเข้าโรงแรมได้พอดี ซึ่งเหมาะกับทั้งกลุ่มคนทำงานและกลุ่มครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือเด็ก
“หั่นเที่ยว ไม่หั่นทริป” คือเทรนด์ใหม่ที่มาแรง
ส่วนของพฤติกรรมการใช้จ่าย ผู้เชี่ยวชาญจาก YouTrip ชี้ให้เห็นถึงแนวคิด “หั่นเที่ยว ไม่หั่นทริป” หรือการเปลี่ยนจุดหมายปลายทางให้เป็นในแถบเอเชียแปซิฟิกที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก แต่ยังคงได้เที่ยวหลาย ๆ ครั้งในหนึ่งปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยไม่ได้ลดทริปเที่ยว แต่แค่ปรับเปลี่ยนจุดหมายให้เข้ากับงบประมาณที่ตั้งไว้ และยังมีการใช้ Digital Wallet และ AI เพื่อช่วยวางแผนและบริหารค่าใช้จ่ายในทริปให้คุ้มค่าที่สุดอีกด้วย

นอกจากนี้ การบินไทยยังสานต่อความยั่งยืนผ่านแคมเปญ “Good Taste for a Good Cause” ที่มุ่งมั่นสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย โดยคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากท้องถิ่นมาใช้ในเมนูอาหารบนเครื่องบิน ทั้งกาแฟดอยตุงและช็อกโกแลตจากกานเวลา ซึ่งนอกจากจะสร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารแล้ว ยังช่วยสร้างคุณค่าคืนสู่สังคมอีกด้วย

สำหรับใครที่วางแผนจะออกเดินทางในช่วงปลายปีนี้ การบินไทยยังมอบโปรโมชันพิเศษร่วมกับ Mastercard มอบส่วนลด 2,000 บาท/ที่นั่ง เมื่อจองบัตรโดยสารไป-กลับทุกเส้นทางในเอเชีย เพียงจองและชำระด้วยบัตร Mastercard ผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2568 สำหรับการเดินทางภายในสิ้นปี 2568 นี้


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่