"ทีวีซีน" ชื่อนี้คนไทยรู้จักมักคุ้นกันดีในฐานะผู้ผลิตละครที่รักษามาตรฐานคุณภาพมาช้านาน ภายใต้การบริหารงานของนักสู้ที่ชื่อ "เจ๊ปิ่น-ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์" ก่อตัวขึ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2534
แต่เมื่ออ่านรายชื่อผู้ก่อตั้งค่ายละครแห่งนี้อาจดูแปลกใจไปบ้าง เพราะนอกจากเจ๊ปิ่นแล้ว ยังมีสองพี่น้อง "พงษ์ศักดิ์ นาคพงศ์" อดีตผู้กำกับรายการของช่อง 3 และ "ศันสนีย์ นาคพงศ์" อดีตผู้ประกาศข่าวจากช่อง 7 ร่วมก่อตั้งและถือหุ้นส่วนในระยะแรก ก่อนจะแยกตัวออกไปในภายหลัง
แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงผู้ผลิตรายการประเภทต่าง ๆ ป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง เริ่มด้วยละครซิทคอมภาคดึกเรื่อง "25 ขวาสุด" ที่ได้รับความนิยมจากคนทำงานกลางคืน สามารถทำเรตติ้งเป็นหน้าเป็นตาให้กับช่อง 7 แต่ทว่าผลประกอบการในช่วงนั้นถือว่า "ขาดทุน"
แต่เจ๊ปิ่นกับเพื่อน ๆ ยังสู้ต่อ โดยผลิตละครสนุก ๆ ออกมาให้ติดตามเรื่อย ๆ เช่นเรื่อง คนเยอะเรื่องแยะ, สังขยาหน้ากุ้ง และ "แชะ แชะ แชะ" อันเป็นละครประเดิมหน้าจอช่อง 3 ช่วงหลังข่าวภาคค่ำ ก่อนจะยึดหัวหาดที่นั่นในเวลาถัดมา
และตั้งแต่นั้นมา "ทีวีซีน" รับผลิตละครอย่างเดียวตลอด เรื่องสั้น-เรื่องยาว แนวไหนได้หมด แถมยังปั้นนักแสดงให้กลายเป็นดาวค้างฟ้า อย่างพระเอกเบอร์ 1 ต้องยกให้ "อั้ม อธิชาติ" ส่วนนางเอกก็ยกให้ "เบนซ์ พรชิตา"
เบนซ์นี่เองที่ทำให้เหล่าลูกเด็กเล็กแดงติดตามจนงอมแงม ด้วยฤทธิ์กระหึ่มของ "โดเรมี โดเรมี ซอลลา..." จากบทบาทนักร้องจำเป็นในเรื่อง "สะใภ้ไร้ศักดินา" โกยเรตติ้งและชื่อเสียงเงินทองให้กับแบ็กอัพคู่ค้าคือช่อง 3 และ "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" ผู้ถือสิทธิ์ผลิตเพลงประกอบละครเมื่อปี 2544
ซึ่งเดิมทีวีซีนทาบทาม "นัท มีเรีย" ที่เคยร่วมงานในเรื่อง แชะ แชะ แชะ เมื่อสิบปีก่อน มารับบท "ปลิวลม" แต่เคลียร์คิวไม่ได้จึงให้เบนซ์แหละมาสวมแทน
มีผู้กำกับมาประดับงานคุณภาพกับค่ายนี้หลายท่าน ที่เด่น ๆ ก็เช่น สุประวัติ ปัทมสูต, ชนะ คราประยูร, อดุลย์ บุญบุตร ฯลฯ รวมถึงผู้เขียนบทมือหนึ่งอย่าง เอกลิขิต
มีละครที่โดดเด่นในแง่คุณภาพจนกวาดรางวัลมากมายอย่าง "เรือนไม้สีเบจ" (2547) มีละครที่พลิกโฉมด้านเทคนิคจนได้รับคำชมพอสมควรอย่าง "รากบุญ" (2555-2557) เป็นต้น
นางเอกที่ยังคงฮอตไม่สร่างซา ค่าตัวสูง ๆ อย่าง "ญาญ่า อุรัสยา" และ "เบลล่า ราณี" ก็เกิดจากทีวีซีนเช่นกัน...แต่พอไปเล่นละครนอกคอกกลับโด่งดังยิ่งกว่า จนแทบจะไม่ได้ติดต่อหรือคืนรังเดิมอีกเลย เข้าทำนองรวยแล้วลืม
แต่ทีวีซีนยังคงเดินหน้าปั้นดาราหรือตัวแทนของคน ๆ นั้นต่อไป พร้อมกับความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ชิ้นงานเพื่อออกไปสู่ความชื่นชมทั่วทั้งโลก
แม้ว่าความมีชื่อเสียงของ "ทีวีซีน" ในวันนี้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าเมื่อก่อน ยังโดดเดี่ยว ยังอยู่ ยังไม่คิดไปช่องไหน ถ้าเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม เราเองก็จะเบาใจ
ขออวยพรให้เจ๊ปิ่นและลูก ๆ หลาน ๆ อีกทั้งเหล่านิวเจเนอเรชัน ผลิตผลงานดีมีคุณภาพอีกแล้วกันนะ...สวัสดี.
"34 ปี ทีวีซีน" ค่ายละครอมตะนิรันดร์กาล
แต่เมื่ออ่านรายชื่อผู้ก่อตั้งค่ายละครแห่งนี้อาจดูแปลกใจไปบ้าง เพราะนอกจากเจ๊ปิ่นแล้ว ยังมีสองพี่น้อง "พงษ์ศักดิ์ นาคพงศ์" อดีตผู้กำกับรายการของช่อง 3 และ "ศันสนีย์ นาคพงศ์" อดีตผู้ประกาศข่าวจากช่อง 7 ร่วมก่อตั้งและถือหุ้นส่วนในระยะแรก ก่อนจะแยกตัวออกไปในภายหลัง
แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงผู้ผลิตรายการประเภทต่าง ๆ ป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง เริ่มด้วยละครซิทคอมภาคดึกเรื่อง "25 ขวาสุด" ที่ได้รับความนิยมจากคนทำงานกลางคืน สามารถทำเรตติ้งเป็นหน้าเป็นตาให้กับช่อง 7 แต่ทว่าผลประกอบการในช่วงนั้นถือว่า "ขาดทุน"
แต่เจ๊ปิ่นกับเพื่อน ๆ ยังสู้ต่อ โดยผลิตละครสนุก ๆ ออกมาให้ติดตามเรื่อย ๆ เช่นเรื่อง คนเยอะเรื่องแยะ, สังขยาหน้ากุ้ง และ "แชะ แชะ แชะ" อันเป็นละครประเดิมหน้าจอช่อง 3 ช่วงหลังข่าวภาคค่ำ ก่อนจะยึดหัวหาดที่นั่นในเวลาถัดมา
และตั้งแต่นั้นมา "ทีวีซีน" รับผลิตละครอย่างเดียวตลอด เรื่องสั้น-เรื่องยาว แนวไหนได้หมด แถมยังปั้นนักแสดงให้กลายเป็นดาวค้างฟ้า อย่างพระเอกเบอร์ 1 ต้องยกให้ "อั้ม อธิชาติ" ส่วนนางเอกก็ยกให้ "เบนซ์ พรชิตา"
เบนซ์นี่เองที่ทำให้เหล่าลูกเด็กเล็กแดงติดตามจนงอมแงม ด้วยฤทธิ์กระหึ่มของ "โดเรมี โดเรมี ซอลลา..." จากบทบาทนักร้องจำเป็นในเรื่อง "สะใภ้ไร้ศักดินา" โกยเรตติ้งและชื่อเสียงเงินทองให้กับแบ็กอัพคู่ค้าคือช่อง 3 และ "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" ผู้ถือสิทธิ์ผลิตเพลงประกอบละครเมื่อปี 2544
ซึ่งเดิมทีวีซีนทาบทาม "นัท มีเรีย" ที่เคยร่วมงานในเรื่อง แชะ แชะ แชะ เมื่อสิบปีก่อน มารับบท "ปลิวลม" แต่เคลียร์คิวไม่ได้จึงให้เบนซ์แหละมาสวมแทน
มีผู้กำกับมาประดับงานคุณภาพกับค่ายนี้หลายท่าน ที่เด่น ๆ ก็เช่น สุประวัติ ปัทมสูต, ชนะ คราประยูร, อดุลย์ บุญบุตร ฯลฯ รวมถึงผู้เขียนบทมือหนึ่งอย่าง เอกลิขิต
มีละครที่โดดเด่นในแง่คุณภาพจนกวาดรางวัลมากมายอย่าง "เรือนไม้สีเบจ" (2547) มีละครที่พลิกโฉมด้านเทคนิคจนได้รับคำชมพอสมควรอย่าง "รากบุญ" (2555-2557) เป็นต้น
นางเอกที่ยังคงฮอตไม่สร่างซา ค่าตัวสูง ๆ อย่าง "ญาญ่า อุรัสยา" และ "เบลล่า ราณี" ก็เกิดจากทีวีซีนเช่นกัน...แต่พอไปเล่นละครนอกคอกกลับโด่งดังยิ่งกว่า จนแทบจะไม่ได้ติดต่อหรือคืนรังเดิมอีกเลย เข้าทำนองรวยแล้วลืม
แต่ทีวีซีนยังคงเดินหน้าปั้นดาราหรือตัวแทนของคน ๆ นั้นต่อไป พร้อมกับความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ชิ้นงานเพื่อออกไปสู่ความชื่นชมทั่วทั้งโลก
แม้ว่าความมีชื่อเสียงของ "ทีวีซีน" ในวันนี้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าเมื่อก่อน ยังโดดเดี่ยว ยังอยู่ ยังไม่คิดไปช่องไหน ถ้าเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม เราเองก็จะเบาใจ
ขออวยพรให้เจ๊ปิ่นและลูก ๆ หลาน ๆ อีกทั้งเหล่านิวเจเนอเรชัน ผลิตผลงานดีมีคุณภาพอีกแล้วกันนะ...สวัสดี.