อะไรใหม่ๆสำหรับเรา

สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์การหาที่ฝึกงานกับเพื่อน ๆ ซึ่งพวกเราไปด้วยกันสามคน โดยเราเป็นคนติดต่อกับ HR ตั้งแต่แรก


วันแรกที่โทรไปคุยกับ HR เราถามเลยว่าฝึกงานได้กี่ตำแหน่ง และบอกว่าเราจะไปกันสามคน ซึ่งตอนนั้นเราก็ถามตำแหน่งที่เราอยากทำ พอ HR คอนเฟิร์มแล้วก็เลยกลายเป็นว่าพวกเราถูกแยกกันไปคนละตำแหน่ง คือเพื่อนคนที่ 1 ได้ตำแหน่งที่ใช้ภาษาตามที่ต้องการ เราได้ตำแหน่งที่อยากทำ ส่วนเพื่อนคนที่ 2 กลับไม่มีตำแหน่งที่เหมาะกับตัวเอง เพราะตอบชัด ๆ ว่าไม่ชอบตำแหน่งไหนเลย


ในความเป็นจริงจากที่เรารู้จัก เพื่อนคนที่ 2 อาจจะมีศักยภาพไม่มากพอที่จะทำตำแหน่งเดียวกับเราและเพื่อนอีกคน แต่ด้วยความที่ HR คอนเฟิร์มไปแล้วว่าจะรับทั้งสามคน ก็เลยจัดให้เพื่อนคนที่ 2 ไปอยู่ฝ่าย HR แทน ซึ่ง HR ก็บอกกับเพื่อนว่า “ถ้าไม่มีความรู้หรือพื้นฐาน เดี๋ยวจะสอนให้ตั้งแต่ต้น” เพื่อนก็ตอบตกลง


แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เราสะดุดใจ คือ ตอนที่ HR ถามเพื่อนว่า “มีอะไรอยากจะถามไหม” เพื่อนถามกลับไปว่า “แล้วเรื่องเบี้ยเลี้ยงหรือค่าเดินทางนี่เป็นยังไง” HR เลยย้อนถามว่า “น้องที่เป็นคนติดต่อ HR ไม่ได้บอกไว้หรอ”


เราฟังแล้วงงมาก เพราะความจริงคือ เราบอกตั้งแต่วันแรกที่โทรไปแล้วว่าที่นี่ไม่มีเบี้ยเลี้ยง เพียงแต่หลังจากนั้นพวกเราคุยกันเองว่า เนื่องจากต้องฝึกงานหลายเดือน อาจลองถามดูว่าองค์กรสามารถสนับสนุนค่าเดินทางได้ไหม แต่เราคิดว่าไม่จำเป็นต้องถาม HR ตรง ๆ ในตอนนั้น เลยฝากเพื่อนไว้ว่าถ้ามีโอกาสสัมภาษณ์ให้ลองถามแทน ซึ่งเราตั้งใจจะสื่อว่า “ลองสอบถามการสนับสนุนค่าเดินทาง” ไม่ใช่ถามแบบ “ค่าเดินทางนี่ยังไง”


ผลคือเพื่อนไปถาม HR ตรง ๆ ว่า “ค่าเดินทางนี่ยังไง” จน HR เข้าใจว่าเราไม่เคยบอกอะไรเพื่อนมาก่อน ทั้งที่จริง ๆ เราเคยแจ้งแล้ว มันเลยทำให้ภาพที่ออกมากลายเป็นว่าเราเป็นคนผิด ที่ไม่บอกข้อมูลให้เพื่อนครบ ทั้งที่จริงเราพูดไปแล้วแต่เหมือนเพื่อนไม่รับเข้าหัว


ตรงนี้ทำให้เรารู้สึกน้อยใจ และไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องถึงพลิกกลายเป็นเราเป็นฝ่ายผิด เลยแอบคิดว่านี่อาจจะเป็นตัวอย่างของการที่บางคนเลือกโทษคนอื่นก่อนจะโทษตัวเองก็ได้ สุดท้ายก็เลยทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยดีกับเพื่อนเท่าไหร่

เรื่องเกิดขึ้นบ่ายวันนี้จนตอนนี้จะขึ้นวันใหม่แล้วไม่ดีอยู่เลยค่ะฮืออออ


เพิ่มเติมนิดนึงนะคะคือตำแหน่งของเพื่อนคนที่ 1 ตอนที่หัวหน้าแผนกโทรมาเพื่อสัมภาษณ์ได้มีการให้ข้อมูลผิดพลาดก็เลยได้โทรหาเพื่อนคนที่ 2 ซึ่งเพื่อนคนที่ 2 ฟังและตอบคำถามของหัวหน้าแผนกไปประมาณ 5 นาทีแล้วพึ่งมาบอกหัวหน้าแผนกว่าสมัครตำแหน่งนี้ไม่ใช่เพื่อนคนที่ 2 ซึ่งทางหัวหน้าแผนกพอทราบก็โมโหนิดหนึ่งแหละเพราะว่าคือก็ถามตอบมากว่า 5 นาทีแล้วอ่ะพึ่งมาบอกว่าโทรผิดคน พอเรารู้เรื่องนี้เราก็งงว่าแล้วเพื่อนคนที่ 2 ทำไมไม่บอกตั้งแต่แนะนำว่าเป็นหัวหน้าแผนกอะไรทำไมถึงทนฟังมา 5 นาทีแล้วพึ่งบอก คือเราไม่ได้เข้าข้างเพื่อนตัวเองนะคะเราเข้าใจหัวหน้าแผนกเพราะว่าคือถ้าผิดก็ควรบอกตั้งแต่แรกไม่ใช่ฟังมาตั้งนานแล้วพึ่งมาบอกเพราะหัวหน้าแผนกเพราะบางทีอาจจะมีงานด่วนเข้าต่อ เหตุการณ์นี้ก็ทำให้เรางงจนเรามากับตัว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่