ใครรู้สึกเหมือนกันบ้าง? อยู่ประเทศไทยเหนื่อยแค่ไหนก็เหนื่อยไม่จบสิ้น (ฉบับคนต้นทุนชีวิตน้อย)

จขกท มีเรื่องอยากระบายมานานแล้วค่ะ ยาวนิดนึง ข้ามไปได้นะคะ เป็นนิยายสั้น เรื่องราวชีวิตคนๆ นึง 🤣

สืบเนื่องจากเราเป็นคนที่บ้างานมากๆ ตั้งแต่จบ ป ตรี สายสุขภาพมา ก็ทำงานเลย ชีวิตไม่เคยมีการว่างงานเกิดขึ้น ทำ 24-36 ชม. ก็เคยแล้ว แต่เงินได้ไม่เยอะนะ อาชีพที่เราทำ งานหนักมาก แต่ ค่าเวร 10 ปีเท่าไร ก็ไม่อัพขึ้น ค่าข้าวอัพทุก 1-2 ปี น่าจะเดากันได้นะว่าอาชีพอะไร หึหึ…

จนเก็บเงินได้ก้อนนึง ก็…สนองกิเลสตัวเอง โดยการเรียนปริญญาโทสายศิลปะ ดนตรี มหาวิทยาลัยดังเลยด้วย ค่าเทอมค่อนข้างสูง ระหว่างเรียนก็ทำงานไปด้วยตลอด ทำงานข้ามจังหวัดก็มี คือสู้ชีวิตมาตลอด ใครเข้ามาจีบก็ไม่สนใจทำแต่งาน555 (แต่จากรูปร่างหน้าตา ไม่มีคนเชื่อเลยว่าไม่มีแฟน ยกเว้นคนสนิทๆ)

เคยทำงานมากสุด 5 อาชีพ บทบาทต่างกันสิ้นเชิง เช่น ต้องแพคศพคนนับไม่ถ้วน VS เล่นดนตรีให้คนบันเทิง บางครั้งก็ต้องสอนเด็กพิเศษ คิดว่าน่าจะหลากหลายมากประมาณนึง จนพอจบ ป โท ก็เก็บเงินได้อีกก้อนเล็กๆ แต่น้อย เพราะสาขาที่เราเรียน ป โท มันไม่บูมเลยในประเทศไทย โดยเฉพาะเศรษฐกิจแบบนี้ เลยทำให้หางานยากมาก เลยกอดหม้อข้าว ป ตรีต่อไป (ขณะที่เพื่อนที่อยู่ ตปท ทำงานสาขา ป โท รุ่งเรืองมากๆ)

ทีนี้งานมันหนักเกิน เลยหางานประจำที่ไม่ต้องอดนอน เงินเดือนลดมาประมาณหมื่นนึง จาก 50k เป็น 40k+ ก็เก็บเงินได้ยากขึ้น งานก็หนักพอเดิม วันหยุดน้อยจัด ดีว่าที่ใหม่ให้ค่าภาษา แต่ด้วยความประเทศไทยอะ พอเราทำได้ดีกว่าคนอื่น กลัวเสียค่าแรง ก็ขึ้นเพดานค่าภาษาอีก ต้องสอบใหม่เรื่อยๆ ถ้าอยากได้เงินเท่าเดิม เช่น Toeic 780 เค้าว่าน้อยเกิน ต้อง 905 ขึ้นไป ถึงจะได้เงินเท่าเดิม เป็นต้น แล้วเรามันนักสู้!!! เพดานสูงแค่ไหนก็จะทำให้ได้ จนเพื่อนที่ทำงานหลายคนบอกว่าความสามารถเยอะขนาดนี้ ควรไปทำงาน ตปท ไหม? (เหงามาก เพื่อนสนิทหลายคนไปอยู่ ตปท หมดแล้ว เพราะเรื่องค่าแรงที่มันทำเยอะได้น้อยนี่แหละ)

แล้ว…ถึงจุดพลิกผันในชีวิต โดนคนโกงเงิน ด้วยความสงสารของตัวเอง… หลักแสน ทีนี้เราเป๋เลย คนทำงานเก็บเงินมาตลอด โดนคนไทยด้วยกันเองนี่แหละหลอก จิตใจทำด้วยอะไร… ดีที่ครอบครัวซัพพอร์ต(จิตใจ) ว่าอย่างเราขยันอยู่แล้ว แปปเดียวก็หาคืนได้ ทำใจมาเดือนนึงก็พอไหว ประหยัดสุดๆ ให้ตำรวจตามเรื่องก็เงียบ อย่างว่า ไม่เคยคาดหวังอยู่แล้ว ขนาดเราช่วยเดินเรื่องให้ทุกอย่าง ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวเขาโดนเองไม่เดินหรอก อ้างสารพัดงานเยอะไม่มีเวลานู่นนี่ แบบเออกุไม่ควรหวังกับพวกยิ้มอะ55555 เป็นอีกเหตุผลที่หมดศรัทธากับประเทศนี้

พออายุจะเข้าเลข 3 เลยเริ่มคิดมากขึ้น แบบ เชี่ยร์ อายุเกิน 29 แล้ว เงินเก็บไม่ถึงครึ่งล้านเลย แล้วไม่ใช่นิสัยขี้เกียจด้วย ทำงานมาตลอด เห้ยมันเกิดอะไรขึ้น (ปกติไหมอะคนอายุเท่านี้ควรเก็บได้เยอะแล้วไหม) แล้วก็โทษตัวเองตลอดว่าหรือเราทำงานหนักไม่พอ เราโง่ให้เขาหลอก เราใจดีเกิน เราไม่ควรไปลองเรียนสิ่งที่เราชอบ หรือมันผิดพลาดอะไรตรงไหน จุดใด หรือ “ประเทศนี้ไม่ใช่ที่ของเรา” ทุกวันนี้เหนื่อย แต่ไม่กล้าบ่น ไม่กล้าโชว์ความอ่อนแอออกมาให้ใครรู้ เพราะรู้ว่าทุกคนก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่รู้สึกว่า ที่เราเหนื่อยไปมันคุ้มแล้วจริงๆ ใช่ไหม?

อย่าพูดถึงเรื่องความรัก การวางแผนครอบครัว บอกเลยว่าถ้ามีทุน จบ ป เอก ยังง่ายกว่าหาแฟนดีๆ สักคนเลย555555 เพื่อนรอบตัวรอจุดพลุให้อยู่ถ้ามีแฟน ปกติเป็นคนชิลๆ แต่ถ้าเรื่อง life partner นี่จะเลือกสุดๆ ยอมรับ ใครมางี่เง่าใส่ หรือทำให้ชีวิตเหนื่อยมากขึ้น จะไม่คุยต่อเลย ส่วนใหญ่เคยมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ เพราะค่อนข้างเข้าใจในความ working woman และความต้อง strong ตลอดเวลาของเรา ไม่ค่อยงี่เง่าใส่ แต่สู้ Long distance ไม่ไหว 🥲

สักพักพอใจเย็นลง คิดได้ก็แบบ เออ แค่ทุกวันนี้พ่อแม่สุขภาพดี เราเองยังมีแรง มีความรู้ หาเงินได้ ไม่เจ็บป่วย ก็คงต้องสู้ต่อไปไหม ใช้ชีวิตให้เหมือนกับพรุ่งนี้ตายไปแล้วไม่เสียดาย (เห็นความตายมาเยอะมากทุกรูปแบบ)

แต่พอเห็นเงินในบัญชีแล้วก็อดคิดมากไม่ได้ ว่าอายุเท่านี้แล้ว พยายามสุดตรีนแล้ว ด้วยความสามารถเรา มันได้เก็บเงินแค่นี้จริงๆ เหรอวะ?? (ไม่เคยใช้เงินที่บ้านเลยตั้งแต่เรียนจบตรีมา) ตอนนี้เริ่มเก็บเงินคืนมาจากที่โดนโกงได้แล้ว มีหนี้แค่ที่เดียวคือยืมเงินตัวเองจากอนาคตมาใช้ (หุ้นสหกรณ์ตนเอง)

หรือเราแค่คิดมากไป สถานการณ์ของเรามันปกติใช่ไหม อยู่ถูกที่ถูกทางรึเปล่า (ตั้งใจจะไม่ตั้งกระทู้แล้วแต่อดไม่ได้ที่จะระบาย เก็บกดตั้งแต่โดนโกงเงิน555)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่