“สมาคมโรคเอดส์ฯ” ยืนยัน ปัจจุบันเอดส์ไม่มีระยะสุดท้าย-ไม่อยากให้หากินกับผู้ป่วย

จากกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจ เกี่ยวกับผู้ป่วยโรคเอดส์ที่รักษาอยู่ในวัดพระบาทน้ำพุ จนเกิดคำถามต่างๆ ว่าสถานการณ์ของผู้ป่วยโรคเอดส์ การรักษา- ยารักษาเป็นอย่างไร? 

ล่าสุด พญ.จุรีรัตน์ บวรวัฒนนุวงศ์ นายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย แถลงข้อเท็จจริงถึงสถานการณ์โรคเอดส์ในปัจจุบันว่า
- ปัจจุบันนี้รัฐมียาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี รักษาใช้ชีวิตปกติได้ โรคเอดส์ไม่มีระยะสุดท้าย
- ในปัจจุบันมีผู้ป่วยเอดส์ที่อยู่ในระดับไม่แพร่เชื้อ 4 แสนคน ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 9,000 คน และเสียชีวิตปีละ 10,000 คน

แต่ในอนาคตตั้งเป้าลดจำนวนลงเรื่อย ๆ จากการพัฒนาการรักษาที่ดีขึ้น มีการแจกยารักษาฟรี หลังกินยาต้าน 3 เดือน จะไม่แพร่เชื้อให้ใคร สามารถมีครอบครัว มีบุตรได้ ไม่อยากให้คนนำคนไข้โรคเอดส์ไปหากิน และอยากรณรงค์ให้ตรวจคัดกรองเอดส์ จะไม่มีคนเสียชีวิตจากโรคเอดส์ถ้าเข้ารับการรักษา
*** ขอย้ำว่าโรคเอดส์ไม่มีคำว่าเอดส์ระยะสุดท้าย ขอสื่อสารไปถึงผู้มีความเสี่ยง ผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม รวมถึงผู้ป่วยในวัดว่า อยากให้ครอบครัวเข้าใจว่าผู้ป่วยทุกคนไม่มีใครเสียชีวิต สามารถกลับไปอยู่บ้านได้ ใช้ชีวิตได้ปกติ***

40 ปีก่อน โรคเอดส์เป็นโรคที่รักษาไม่ได้ ใครเป็นต้องออกจากงาน แต่ปัจจุบันโรคเอดส์กลายเป็นโรคที่รักษาได้ ยุติยับยั้งได้ หากรับยาต้านภายใน 1-2 เดือน ไปทำงานได้ ไม่เป็นภาระกับครอบครัว เมื่อรักษาต่อเนื่อง 3-6 เดือน จะแพร่เชื้อไม่ได้อีกต่อไป เพราะเชื้อหลงเหลืออยู่ในตัวน้อยมาก โรคเอดส์กลายเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตรวจไม่เจอเชื้อแต่มีความเสี่ยงรับยาป้องกันได้ 99.5%

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบ และกำกับติดตามการเข้าถึงบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และวัณโรค เปิดเผยว่า การตรวจคัดกรองโรคเอสด์เป็นสิทธิ์ของทุกคน ทุกสิทธิ์การรักษา แนะนำให้เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง แล้วเข้าไปที่เมนู "กระเป๋าสุขภาพ" ค้นหาจุดบริการใกล้บ้านที่เปิดให้จองรับชุดตรวจคัดกรอง ซึ่งเตรียมรองรับไว้ปีละ 1 ล้านชุด

ด้าน นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรคเอดส์ไม่มีคำว่าระยะสุดท้ายแล้ว ไม่มีลูกที่ต้องกำพร้า เพราะพ่อแม่เสียชีวิตจากโรคเอดส์ระยะสุดท้าย แต่ยังมีคนเอาเรื่องโรคเอดส์ระยะสุดท้ายมาขอบริจาค ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องสอบสวนตรวจสอบ แต่ที่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องเพราะทราบเรื่องพยาบาลชาวสวิตเซอร์แลนด์ โดยพยาบาลสาวคนดังกล่าวอ้างว่ามาทำงานอาสาสมัครในวัดแห่งหนึ่ง เอายาต้านไวรัสไปให้คนไข้ที่วัดกินแล้วอาการดีขึ้น แข็งแรงขึ้น ปรากฎว่าพยาบาลถูกไล่ออก ถูกขู่ฆ่า ยาต้านถูกขโมยไปทิ้ง เพื่อให้คนไข้กลายเป็นผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้าย ผ่านมา 17 ปีที่แล้ว เคยไปวัด ไปบริจาคให้ผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้าย และเด็กกำพร้าจากพ่อแม่ป่วยโรคเอดส์ ปัจจุบันใบอนุโมทนาบัตรก็ยังเขียนแบบนี้

อมยิ้ม33
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่