(ชื่อกระทู้เรียกทัวร์มาก แต่ก็ไม่รู้จะตั้งยังไงเพื่อสื่อให้ตรงกว่านี้)
เรากับน้องพักอยู่ในอพาร์ทเมนท์เดียวกัน แต่คนละห้อง/ชั้น ปกติเราไม่ค่อยไปห้องน้อง แต่น้องจะมาห้องเรา (มาใช้ตู้เย็นกับไมโครเวฟ ห้องน้องไม่มี) ทีนี้เราค่อนข้างมีปัญหาเวลาจะติดต่อกับน้องทางไลน์ เพราะน้องแทบไม่อ่านไลน์เลย เราโทรไลน์ไปก็ไม่รับสาย ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนเราต้องโทรเข้าเบอร์น้อง (ต้องโทรแบบเสียเงินถึงจะรับสาย) หรือต้องไปหาน้องถึงที่ห้อง แต่เรื่องส่วนใหญ่ที่เราไลน์หาน้อง มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่เป็นเรื่องที่แค่พูดอย่างเดียวไม่พอ ต้องส่งข้อมูลหรือรายละเอียดไปให้น้องดูด้วย และเราไม่ได้ไลน์หาน้องบ่อย มีธุระแล้วถึงจะไลน์ไป
เราไม่ได้คาดหวังว่าพอไลน์ไปแล้วน้องต้องตอบไว แต่เราเห็นพฤติกรรมน้องมานาน ว่ากว่าจะอ่านไลน์ก็ข้ามวันข้ามคืน หรือไม่ก็หลายวันกว่าจะอ่าน ซึ่งนั่นก็นานเกินไป จนบางครั้งก็ไม่ได้คุย หรือกว่าน้องจะรู้ว่าเราไลน์หา ก็ตอนเจอกันตัวเป็นๆ แล้วเราบอกน้อง มันเป็นความรู้สึกที่เหนื่อยหน่ายและน่าหงุดหงิดสำหรับเรา เพราะน้องก็ใช้ไลน์ส่งข้อความติดต่อเราหลายครั้ง (เราทั้งคู่ไม่ชอบการคุยโทรศัพท์เหมือนกัน ชอบส่งข้อความหรือคุยแบบเจอหน้ากันมากกว่า) และเราไม่เคยตอบไลน์ช้าข้ามวันเลย แต่พอเราไลน์หาน้อง น้องไม่อ่านหรืออ่านช้าสุดๆ มันไม่แฟร์กับเรา และพอเรารู้สึกแบบนี้ เราก็จะไม่อยากโทรเข้าเบอร์น้อง หรือไปที่ห้องน้อง เพราะน้ำเสียงและอารมณ์เราเริ่มไม่ดีแล้ว (อีกอย่างเราไม่อยากเสียเงินค่าโทรด้วย เราใช้ระบบเติมเงิน ปกติไม่ค่อยโทรหาใคร) เราทะเลาะกันเรื่องนี้หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
ปัญหาเรื่องไลน์ของน้อง ที่น้องใช้อ้างกับเรา(และกับคนอื่นๆที่บ้าน)มาตลอดหลายปี คือไลน์ของน้องไม่ขึ้นแจ้งเตือนเวลามีใครส่งข้อความหรือโทรหา เราก็ถามน้องว่าได้อัปเดตแอปหรือระบบบ้างไหม น้องตอบว่าไม่ เราถามว่าทำไมไม่อัปเดต น้องตอบว่าเพราะมีคนบอกว่ายิ่งอัปเดตแล้วยิ่งแย่ลง เราก็ไม่เข้าใจ เพราะโทรศัพท์ของเรา เราก็อัปเดตอยู่สม่ำเสมอ ไม่เคยจะมีปัญหา เราไม่เคยขอโทรศัพท์มือถือน้องมาเช็ค เพราะไม่อยากรุกล้ำความเป็นส่วนตัว เราได้แต่บอกให้น้องอัปเดตระบบบ้าง แต่น้องก็ไม่เชื่อเราเลย เหมือนน้องจะกลัวว่าถ้าอัปเดตแล้วจะทำให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลไปถึงมิจฉาชีพ อะไรทำนองนั้น (ไม่ใช่แค่เรื่องไลน์นะ เวลาน้องจะสั่งของออนไลน์ ยังมาขอให้เราช่วยสั่งให้เลย ไม่ยอมสั่งเอง กลัวที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร) เราคิดว่าการไม่อัปเดตมือถือเลยคือสาเหตุที่ทำให้ไลน์ของน้องมีปัญหา แต่พอน้องไม่เชื่อคำแนะนำของเรา แล้วปล่อยให้ปัญหานี้คาราคาซัง มันก็ทำให้เรารู้สึกไม่โอเคกับน้อง
บางครั้งพ่อแม่ที่อยู่ไกลติดต่อเรามา และบอกว่าส่งไลน์หาน้องแล้วน้องไม่อ่านไม่ตอบ ฝากเราบอกน้องให้หน่อยว่าพ่อแม่ติดต่อมาเรื่อง... เราก็บอกให้พ่อแม่โทรเข้าเบอร์น้องเลย (ก็มันเรื่องอะไรล่ะที่เราต้องรับภาระไปบอกน้อง ขนาดเราอยู่ใกล้น้องยังไลน์ติดต่อไม่ได้เลย คุยกับน้องเรื่องนี้ทีไรเราก็มักจะอารมณ์เสีย น้องก็หัวแข็งไม่เคยเชื่อคำแนะนำเรา คุยด้วยแล้วเหนื่อย) เราเคยคิดจะดัดนิสัยน้องด้วยการทำตัวเราให้น้องเข้าถึงยากบ้าง เช่น ไม่ตอบไลน์เวลาน้องส่งข้อความหรือโทรมา หรือล็อคห้องตัวเองจากด้านนอกเวลาเราไม่อยู่ เพื่อไม่ให้น้องเข้าได้ (ปกติน้องเข้าห้องเราง่าย เพราะเราปั๊มกุญแจให้) หรือล็อคห้องจากด้านใน 2 ชั้น ให้น้องไขกุญแจเข้ามาไม่ได้ ถ้าจะเข้าต้องเคาะประตู (แต่เราก็ได้แค่คิด ถ้าทำจริงคงเป็นเรื่อง พ่อแม่รู้ก็จะไม่สบายใจ) เราคิดจะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้น้องเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแก้ได้ไหม เพราะตอนนี้เราก็ยังไม่แน่ใจว่าปัญหามันเกิดจากโทรศัพท์ของน้อง หรือจากนิสัยของน้องมากกว่ากันแน่
จะทำยังไงกับน้องตัวเองที่ไม่ค่อยยอมอ่านไลน์ดี
เรากับน้องพักอยู่ในอพาร์ทเมนท์เดียวกัน แต่คนละห้อง/ชั้น ปกติเราไม่ค่อยไปห้องน้อง แต่น้องจะมาห้องเรา (มาใช้ตู้เย็นกับไมโครเวฟ ห้องน้องไม่มี) ทีนี้เราค่อนข้างมีปัญหาเวลาจะติดต่อกับน้องทางไลน์ เพราะน้องแทบไม่อ่านไลน์เลย เราโทรไลน์ไปก็ไม่รับสาย ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนเราต้องโทรเข้าเบอร์น้อง (ต้องโทรแบบเสียเงินถึงจะรับสาย) หรือต้องไปหาน้องถึงที่ห้อง แต่เรื่องส่วนใหญ่ที่เราไลน์หาน้อง มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่เป็นเรื่องที่แค่พูดอย่างเดียวไม่พอ ต้องส่งข้อมูลหรือรายละเอียดไปให้น้องดูด้วย และเราไม่ได้ไลน์หาน้องบ่อย มีธุระแล้วถึงจะไลน์ไป
เราไม่ได้คาดหวังว่าพอไลน์ไปแล้วน้องต้องตอบไว แต่เราเห็นพฤติกรรมน้องมานาน ว่ากว่าจะอ่านไลน์ก็ข้ามวันข้ามคืน หรือไม่ก็หลายวันกว่าจะอ่าน ซึ่งนั่นก็นานเกินไป จนบางครั้งก็ไม่ได้คุย หรือกว่าน้องจะรู้ว่าเราไลน์หา ก็ตอนเจอกันตัวเป็นๆ แล้วเราบอกน้อง มันเป็นความรู้สึกที่เหนื่อยหน่ายและน่าหงุดหงิดสำหรับเรา เพราะน้องก็ใช้ไลน์ส่งข้อความติดต่อเราหลายครั้ง (เราทั้งคู่ไม่ชอบการคุยโทรศัพท์เหมือนกัน ชอบส่งข้อความหรือคุยแบบเจอหน้ากันมากกว่า) และเราไม่เคยตอบไลน์ช้าข้ามวันเลย แต่พอเราไลน์หาน้อง น้องไม่อ่านหรืออ่านช้าสุดๆ มันไม่แฟร์กับเรา และพอเรารู้สึกแบบนี้ เราก็จะไม่อยากโทรเข้าเบอร์น้อง หรือไปที่ห้องน้อง เพราะน้ำเสียงและอารมณ์เราเริ่มไม่ดีแล้ว (อีกอย่างเราไม่อยากเสียเงินค่าโทรด้วย เราใช้ระบบเติมเงิน ปกติไม่ค่อยโทรหาใคร) เราทะเลาะกันเรื่องนี้หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
ปัญหาเรื่องไลน์ของน้อง ที่น้องใช้อ้างกับเรา(และกับคนอื่นๆที่บ้าน)มาตลอดหลายปี คือไลน์ของน้องไม่ขึ้นแจ้งเตือนเวลามีใครส่งข้อความหรือโทรหา เราก็ถามน้องว่าได้อัปเดตแอปหรือระบบบ้างไหม น้องตอบว่าไม่ เราถามว่าทำไมไม่อัปเดต น้องตอบว่าเพราะมีคนบอกว่ายิ่งอัปเดตแล้วยิ่งแย่ลง เราก็ไม่เข้าใจ เพราะโทรศัพท์ของเรา เราก็อัปเดตอยู่สม่ำเสมอ ไม่เคยจะมีปัญหา เราไม่เคยขอโทรศัพท์มือถือน้องมาเช็ค เพราะไม่อยากรุกล้ำความเป็นส่วนตัว เราได้แต่บอกให้น้องอัปเดตระบบบ้าง แต่น้องก็ไม่เชื่อเราเลย เหมือนน้องจะกลัวว่าถ้าอัปเดตแล้วจะทำให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลไปถึงมิจฉาชีพ อะไรทำนองนั้น (ไม่ใช่แค่เรื่องไลน์นะ เวลาน้องจะสั่งของออนไลน์ ยังมาขอให้เราช่วยสั่งให้เลย ไม่ยอมสั่งเอง กลัวที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร) เราคิดว่าการไม่อัปเดตมือถือเลยคือสาเหตุที่ทำให้ไลน์ของน้องมีปัญหา แต่พอน้องไม่เชื่อคำแนะนำของเรา แล้วปล่อยให้ปัญหานี้คาราคาซัง มันก็ทำให้เรารู้สึกไม่โอเคกับน้อง
บางครั้งพ่อแม่ที่อยู่ไกลติดต่อเรามา และบอกว่าส่งไลน์หาน้องแล้วน้องไม่อ่านไม่ตอบ ฝากเราบอกน้องให้หน่อยว่าพ่อแม่ติดต่อมาเรื่อง... เราก็บอกให้พ่อแม่โทรเข้าเบอร์น้องเลย (ก็มันเรื่องอะไรล่ะที่เราต้องรับภาระไปบอกน้อง ขนาดเราอยู่ใกล้น้องยังไลน์ติดต่อไม่ได้เลย คุยกับน้องเรื่องนี้ทีไรเราก็มักจะอารมณ์เสีย น้องก็หัวแข็งไม่เคยเชื่อคำแนะนำเรา คุยด้วยแล้วเหนื่อย) เราเคยคิดจะดัดนิสัยน้องด้วยการทำตัวเราให้น้องเข้าถึงยากบ้าง เช่น ไม่ตอบไลน์เวลาน้องส่งข้อความหรือโทรมา หรือล็อคห้องตัวเองจากด้านนอกเวลาเราไม่อยู่ เพื่อไม่ให้น้องเข้าได้ (ปกติน้องเข้าห้องเราง่าย เพราะเราปั๊มกุญแจให้) หรือล็อคห้องจากด้านใน 2 ชั้น ให้น้องไขกุญแจเข้ามาไม่ได้ ถ้าจะเข้าต้องเคาะประตู (แต่เราก็ได้แค่คิด ถ้าทำจริงคงเป็นเรื่อง พ่อแม่รู้ก็จะไม่สบายใจ) เราคิดจะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้น้องเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแก้ได้ไหม เพราะตอนนี้เราก็ยังไม่แน่ใจว่าปัญหามันเกิดจากโทรศัพท์ของน้อง หรือจากนิสัยของน้องมากกว่ากันแน่