เมื่อตั้งความหวังเกษียณที่ 30 ล้าน กับความเป็นจริงในสังคมไทย

ต้องขอบอกก่อนนะครับว่าอันนี้ไม่ใช่ความคิดหรือความหวังของผม แต่เป็นความคิดและความหวังของคนหลาย ๆ คน โดยดูจากหัวข้อสนทนาในที่ต่าง ๆ รวมถึงหัวข้อกระทู้ในพันทิพ  ที่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีกระทู้คำถาม หรือกระทู้สนทนาว่าเมื่อเกษียณมีเงินเท่าไหร่ถึงจะพอใช้งาน ซึ่งส่วนให้ของคนในวงสนทนาหรือผู้ที่เข้ามาตอบกระทู้จะตั้งเป้าหมายว่า ถ้าจะให้ชีวิตอยู่ดีมีสุขต้องมีเงินอย่างน้อย 10 ล้าน 20 ล้าน หรือจนกระทั่ง 50 ล้าน  ซึ่งถ้าประเมินถึงคู่สนทนาและคนมาตอบกระทู้แล้ว (ความเห็นส่วนตัว) ส่วนใหญ่น่าจะเป็นตั้งแต่ผู้บริหารระดับกลางลงมา (ระดับ ผอ.ฝ่าย ลงมา)   แต่เมื่อดูจากข้อมูล Gemini AI. ด้านล่างที่เอามาอ้างอิง  ก็เกิดคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่า "เรา" ตั้งมาตรฐานความหวังไว้สูงเกินความเป็นจริงไปหรือไม่ในชีวิตจริง และเราควรทำแบบนี้ (สร้างความหวังลม ๆ แล้ง ๆ) ต่อไป หรือกลับมาตั้งความหวังที่อยู่บนความจริงที่เป็นไปได้  เพื่อไม่ให้เสียกำลังใจเมื่อทำไม่ได้และไม่ท้อเกินไปเมื่อเห็นเป้าหมาย  เพื่อนสมาชิกคิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ มาลองแลกเปลี่ยนความเห็นกัน

     จากข้อมูลสถิติล่าสุดที่เผยแพร่โดยธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันคุ้มครองเงินฝาก สามารถสรุปจำนวนบัญชีเงินฝากในประเทศไทยตามช่วงยอดเงินได้ดังนี้ (ข้อมูล ณ สิ้นปี 2567 หรือใกล้เคียง)
   - เงินฝาก 1 - 10 ล้านบาท: มีบัญชีประมาณ 1.78 ล้านบัญชี
   - เงินฝาก 10 - 25 ล้านบาท: มีบัญชีประมาณ 1.03 แสนบัญชี
   - เงินฝาก 25 - 50 ล้านบาท: มีบัญชีประมาณ 31,835 บัญชี
   - เงินฝาก 50 - 100 ล้านบาท: มีบัญชีประมาณ 14,266 บัญชี
   - เงินฝากตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป:
     100 - 200 ล้านบาท: มีบัญชีประมาณ 6,462 บัญชี
     200 - 500 ล้านบาท: มีบัญชีประมาณ 3,454 บัญชี
     ตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป: มีบัญชีประมาณ 1,608 บัญชี
    
     หมายเหตุ :
     ข้อมูลข้างต้นเป็น "จำนวนบัญชี" ไม่ใช่ "จำนวนคน" ซึ่งคนหนึ่งคนอาจมีได้หลายบัญชี
     ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยคนส่วนใหญ่กว่า 88.3% มีเงินฝากในบัญชีไม่ถึง 50,000    
     บาท ซึ่งกลุ่มนี้มีจำนวนมากถึงกว่า 106 ล้านบัญชี

     สรุปโดยรวม :
     แม้ว่าจะมีจำนวนบัญชีเงินฝากที่สูง แต่เงินส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่กับคนจำนวนน้อย ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่มีเงินออมในระดับต่ำ
     และมีเพียงส่วนน้อยที่มีความมั่งคั่งในระดับสูง

     จำนวนแรงงานโดยรวม :
     - ผู้มีงานทำทั้งหมด: ประมาณ 40 ล้านคน (ข้อมูล ณ ปี 2566)
     - แรงงานในระบบ: ประมาณ 19.4 ล้านคน (49%)
     - แรงงานนอกระบบ: ประมาณ 20.2 ล้านคน (51%)

     จำแนกตามกลุ่มงานโดยรวม :
     1. กลุ่มใช้แรงงาน (แรงงานภาคการผลิตและก่อสร้าง)
         จำนวนประมาณ 4-5 ล้านคน
         กลุ่มนี้รวมถึงผู้ปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ก่อสร้าง และแรงงานฝีมือที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยภาคการผลิตมีจำนวนแรงงานประมาณ 4.1 ล้านคน
         (ข้อมูลปี 2566)  กลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของผู้มีงานทำทั้งหมดในไทย
     2. กลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับต้นในสำนักงาน (รวมถึงงานเสมียน)
         จำนวนประมาณ 1.7-1.8 ล้านคน
         กลุ่มนี้รวมพนักงานออฟฟิศระดับเริ่มต้นและงานธุรการที่ใช้ทักษะพื้นฐานทั่วไป โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจัดอยู่ในกลุ่ม "เสมียน"  
         กลุ่มนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแรงงานนอกภาคเกษตร ซึ่งมีจำนวนรวมกว่า 27 ล้านคน
     3. กลุ่มผู้บริหารระดับต้น กลาง และสูง
         จำนวนประมาณ 1.5 ล้านคน
         กลุ่มนี้รวมถึง "ผู้บัญญัติกฎหมาย ข้าราชการอาวุโส และผู้จัดการ" ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะการบริหาร โดยตามข้อมูลของธนาคารแห่ง
         ประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 1.5 ล้านคน  จำนวนนี้เป็นตัวเลขที่ครอบคลุมทั้งภาครัฐและเอกชน

เพี้ยนหืม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่