มีจุดถ่ายรูปกับฉากถ่ายรูปว่างๆ ที่จะซ้อนภาพวิวของ Jurassic World เข้ามาอีกที ถ่ายเสร็จเจ้าหน้าที่จะให้บัตรที่มี QR Code สามารถสแกนเพื่อดูรูปแบบมีลายน้ำพาดเต็มรูปได้ ถ้าอยากได้รูปก็จ่ายเงินซื้อ
Blue มาอยู่ในห้องฝึก Raptor นี่เอง เจ้าหน้าที่สาธิตวิธีออกคำสั่งกับ Blue โดยจะต้องจ้องตาตลอด ห้ามคลาดสายตา ชูแขนไปข้างหน้า สามารถยกแขนขึ้นลงหรือไปทางซ้ายขวาได้ Blue ก็จะมองตามแขน เมื่อสาธิตจบแล้ว นักท่องเที่ยวเด็กๆ ก็สามารถออกคำสั่งกับ Blue ได้ด้วย
โซนต่อไปเป็น Indominus Rex ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ตัดต่อพันธุกรรมจาก 3 สายพันธุ์
[CR] รีวิว Jurassic World: The Experience Bangkok เที่ยวเกาะไดโนเสาร์แห่งแรกของไทย
ที่ Asiatique มีลานจอดรถหลายจุด แนะนำให้ไปจอดที่ลาน P3 นะครับ เดินใกล้สุด เดินจากลานจอดเข้าไปก็เป็นโซน Jurassic World เลย
รถไฟรับส่งน่ารักๆ จอดอยู่หน้าทางเข้า
ทางเข้ามีจอมองเห็นชัดเจน
ทางเข้าห้องจำหน่ายตั๋ว ใครซื้อผ่านเว็บมาแล้วไม่ต้องเข้าตรงนี้นะครับ ไปต่อคิวได้เลย เปิด QR Code ที่ได้รับทางอีเมลให้เจ้าหน้าที่ดู
เมื่อผ่านจุดตรวจตั๋วแล้ว จะเป็นโถงรอขึ้นเรือ ในโถงมีจัดแสดงหินอำพันที่มีซากแมลงเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว
ตัวใหญ่มาก น่าจะกัดเจ็บ ใครอย่าเพาะให้มันกลับมามีชีวิตใหม่นะ
มีจุดถ่ายรูปกับฉากถ่ายรูปว่างๆ ที่จะซ้อนภาพวิวของ Jurassic World เข้ามาอีกที ถ่ายเสร็จเจ้าหน้าที่จะให้บัตรที่มี QR Code สามารถสแกนเพื่อดูรูปแบบมีลายน้ำพาดเต็มรูปได้ ถ้าอยากได้รูปก็จ่ายเงินซื้อ
ถึงคิวขึ้นเรือ บนเรือมีเจ้าหน้าที่บรรยาย โดยการเที่ยวชมเกาะจะใช้เวลาประมาณ 1 - 1.5 ชั่วโมง สามารถถ่ายรูปถ่ายคลิปได้ แต่ห้ามเปิดแฟลช เพราะจะทำให้ไดโนเสาร์ตกใจและอาละวาดได้
นั่งเรือไปสักพักเจอปลาวาฬโผล่ขึ้นมาทักทาย
มีช่วงที่เรือผ่านพายุฝนก่อนถึงเกาะ เหมือนหลังคาเรือจะรั่ว มีละอองฝนตกใส่หัวด้วย
เรือถึงเกาะแล้ว บรรยากาศบนเกาะเป็นป่าดิบเลย มืดๆ หน่อย อากาศเย็นสบาย
ประตูทางเข้า มองเห็นไดโนเสาร์ตัวใหญ่ยักษ์ต้อนรับอยู่
ประวัติของ Brachiosaurus เป็นไดโนเสาร์กินพืช ตัวสูง 12.4 เมตร
ตัวนี้น่าจะเป็นลูก ยังไม่สูงมาก
มีบันไดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปถ่ายรูปใกล้ๆ ได้
มีเจ้าหน้าที่อุ้มไดโนเสาร์ทารกให้ถ่ายรูปได้ ต้องใส่ถุงมือด้วยเพราะเล็บคมมาก
กล้องส่องโดโนเสาร์ที่เดินอยู่ไกลๆ
ตัวต่อมาคือ Ankylosaurus เจ้านี่ดูแข็งแกร่งมาก
โซนต่อไปเป็น Velociraptor ซึ่งต้องต่อคิวเข้า มีการจำกัดจำนวนคนต่อรอบ
Raptor ในโซนนี้มีตะกร้อครอบปากไว้ จะได้ไม่เที่ยวไปกัดนักท่องเที่ยว
โซนนี้มี Raptor ทั้งหมด 4 ตัว แต่ละตัวมีชื่อด้วย
Delta
Echo
Charlie
Blue... Blue หายไปไหน? หรือว่า...
Blue มาอยู่ในห้องฝึก Raptor นี่เอง เจ้าหน้าที่สาธิตวิธีออกคำสั่งกับ Blue โดยจะต้องจ้องตาตลอด ห้ามคลาดสายตา ชูแขนไปข้างหน้า สามารถยกแขนขึ้นลงหรือไปทางซ้ายขวาได้ Blue ก็จะมองตามแขน เมื่อสาธิตจบแล้ว นักท่องเที่ยวเด็กๆ ก็สามารถออกคำสั่งกับ Blue ได้ด้วย
โซนต่อไปเป็น Indominus Rex ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ตัดต่อพันธุกรรมจาก 3 สายพันธุ์
ดูเจ้านี่ได้สักพัก มีไดโนเสาร์อีกตัวโผล่มา แล้วทั้งสองตัวก็ไฝว้กัน เจ้าหน้าที่เลยต้องรีบอพยพนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่นี้
จากนั้นก็เดินชมไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ตามทาง
ห้องนี้เป็นห้องเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ มีไข่ไดโนเสาร์อยู่ในตู้อบ กับมีไดโนเสาร์ที่เพิ่งฟักออกจากไข่ด้วย
ออกจากห้องเพาะ เจอรถ Gyrosphere จอดเสียอยู่กลางป่า แถวนี้มีอะไรหว่า?
โผล่มาแล้ว... T-rex พี่ใหญ่แห่ง Jurassic World ดูหน้าตาไม่สบอารมณ์ เหมือนกำลังโมโหหิวอยู่
เจ้าหน้าที่รีบอพยพนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ แล้วก็มาโผล่ที่ร้านขายของที่ระทึก เอ้ย ระลึกเลยครับ
ตุ๊กตาน่ารักมาก ยังกับเจ้าก๊อง
ส่วนตัวคิดว่า Jurassic World: The Experience Bangkok ของไทยทำออกมาได้ดีเลยครับ ไดโนเสาร์ดูสมจริง ให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนังจริงๆ เจ้าหน้าที่ก็สวมบทบาทกันจริงจังมาก เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับครอบครัว เห็นพ่อแม่พาลูกไปเที่ยวกันเยอะเลย ส่วนที่รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยคือระยะเวลามันสั้นไป แป๊บเดียวจบแล้ว อยากอยู่ในนี้สักสองชั่วโมง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น