
.
แห่ลงทะเบียน รถไฟฟ้า 20 บาท วันแรก ระบบเสถียร แต่ขั้นตอนซับซ้อน คนบ่นอื้อ
.
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หลังจากที่แอพพลิเคชันทางรัฐ ได้เปิดให้ประชาชนไทยได้ลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 25 สิงหาคม 2568 พบว่า มีประชาชนสนใจที่เข้าไปลงทะเบียนจำนวนมากนับตั้งแต่เริ่มเปิดการลงทะเบียน และ ระบบค่อนข้างเสถียรเป็นปกติ ไม่พบการล่มของระบบการลงทะเบียน
.
แต่จากการสำรวจเบื้องต้น ส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับระบบการลงทะเบียนที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน จึงทำให้ใช้เวลานาน อาทิ การผูกบัตรโดยสาร Rabbit ที่จะต้องเข้าไปยืนยันตัวตนในแอพพลิเคชั่นของ Rabbit ก่อน ถึงจะสามารถกลับมาใช้เลขบัตรดังกล่าวลงทะเบียนในทางรัฐได้
รวมถึงบางท่านติดปัญหา ผูก บัตร EMV Contactless ไม่สำเร็จ เนื่องจากติดค้างทางไป verify gateway
.
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว ยังพบว่าผู้ที่ใช้ทั้งบัตรแรบบิท และบัตร EMV Contactless จำนวนมากบอกว่าการลงทะเบียนด้วยบัตรแรบบิททำได้รวดเร็วกว่าบัตร EMV Contactless ที่มีอาการคล้ายระบบล่ม จนหลายท่านออกอาการท้อ และไม่มีแรงจูงใจอยากลงทะเบียน
สำหรับ ขั้นตอนการลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย มีดังนี้
.
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทาง App Store (ระบบ iOS) และ Play Store (ระบบ Android)
ในกรณีที่ไม่เคยใช้งานแอปฯ ทางรัฐ ต้องดาวน์โหลดและยืนยันตัวตนที่จุดให้บริการตามที่แอปฯ ทางรัฐกำหนด ได้แก่ Counter service 7-11, BigC, Lotus และไปรษณีย์ไทยทุกสาขา
.
2. เตรียมบัตรประชาชน และบัตรโดยสารที่ใช้สำหรับเดินทางในระบบต่างๆ ได้แก่ บัตรแรบบิท และบัตร EMV Contactless
สำหรับผู้ใช้บัตรแรบบิท ต้องมีฟังก์ชัน ABT (Account-Based Ticketing) ด้วยการผูกบัตรแรบบิทกับ Rabbit Wallet หรือ Line Pay อย่างใดอย่างหนึ่ง
.
3. บัตรโดยสารที่ไม่สามารถใช้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ 20 บาทตลอดสายได้ มีดังนี้
.
• บัตรแรบบิทที่ไม่ได้ผูกกับ Line Pay หรือ Rabbit Wallet (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
• บัตรเติมเงิน ได้แก่ บัตร MRT, บัตร MRT PLUS และบัตร Mangmoom (ที่ไม่ใช่บัตร EMV Contactless)
• บัตรรถไฟฟ้าสายสีแดง
• บัตรรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
.
ทั้งนี้ การลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จำกัดสิทธิเฉพาะคนไทยเท่านั้น โดยไม่จำกัดจำนวนสิทธิ ไม่มีวันปิดลงทะเบียน จึงไม่จำเป็นต้องรีบลงทะเบียนตั้งแต่วันแรก โดยมีกำหนดเปิดใช้งานรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
.
.
“ชินวัตร” ลุ้นศาล อนาคตรัฐบาลสั่นคลอน?
.
ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 แต่ยังลุ้น 29 ส.ค. ชี้ชะตา “แพทองธาร” ปมคลิปเสียงฮุนเซน นักวิชาการชี้เสี่ยงถึงขั้นเปลี่ยนนายกฯ–ยุบสภา
.
“ตระกูลชินวัตร” โล่งใจไปเปราะหนึ่ง หลังศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ในคดี ม.112 แต่ก็ยังมีอีก 2 คดีที่ยังต้องลุ้น คือ วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ คดีปมคลิปเสียงนายกฯ “แพทองธาร” กับ “ฮุน เซน” และถัดมาวันที่ 9 กันยายน 2568 ศาลฏีกา นัดฟังคำสั่งคดีทักษิณรักษาตัวชั้น 14
.
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส มองว่า ปลายเดือนสิงหาคมนี้ถือเป็น “โค้งชี้ชะตาทางการเมือง และคดีความ” ของทั้งพ่อ-ลูกตระกูลชินวัตร และอาจเห็นความเสี่ยงการยุบพรรค-ยุบสภา จะทำให้กระบวนการทางการเมืองชัดเจนขึ้น
.
เช่นเดียวกับ นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คดีคลิปเสียงนายกฯ เป็นลบ โดยกรณีนายกฯพ้นจากตำแหน่งและทำรัฐมนตรีต้องพ้นด้วยทั้งคณะ อาจจะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง แต่หากผลออกมาและไม่ได้กระทบต่อเสถียพภาพของรัฐบาล ก็มองเป็นค่อนไปในทางบวกและกลับมาหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยได้อีกครั้ง
.
ขณะที่ “รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธพร อิสรชัย” อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงคดีการเมืองที่เกิดขึ้น โดย “รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธพร” มอง 50/50 สำหรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีต่อคดีคลิปเสียงของนายกฯ “แพทองธาร” กับ “ฮุน เซน” แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คดี ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 สิงหาคม และ 9 กันยายนนั้น ย่อมส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลอย่างแน่นอน
.
รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธพร กล่าวว่า “มีผลแน่นอน เพราะ ณ วันนี้ มี 3 สัญญาณใหญ่ที่เราต้องดู คือ สัญญาณทางคดี สัญญาณทางการเมือง และสัญญาณทางเศรษฐกิจ ซึ่งในส่วนของสัญญาณทางคดี วันนี้ก็ไปแล้ว 2 เรื่องก็ยังเหลือในเรื่องของคดีคุณอุ๊งอิ๊ง กับเรื่องชั้น 14 ถ้าเป็นผลออกมาในเชิงบวก ก็อาจจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในเรื่องต่างๆกลับมาสู่รัฐบาล แต่ถ้าผลออกมาในเชิงลบ ก็อาจจะต้องไปถึงขั้นของการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีเลยก็เป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องนี้ เป็นเพียง 1 ใน 3 ปัจจัยใหญ่เท่านั้น ยังมีปัจจัยทางเศรษฐกิจและปัจจัยการเมืองอีก”
.
ทั้งนี้ ยังเตือนว่า รัฐบาลเสียงปริมน้ำ สภาร่ม และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล ไม่ว่านายกฯแพทองธารจะอยู่ หรือ มีนายกฯคนใหม่เข้ามา เรื่องเหล่านี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องเผชิญ
.
“ปัจจัยทางการเมืองในประเทศ ก็คือเรื่องของเสถียรภาพรัฐบาล ณ วันนี้ก็มีการทำให้เกิดภาวะเสียงปริมน้ำ และก็สภาร่ม แล้วก็ต้องปิดประชุมบ่อยครั้ง ก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้วย และขณะเดียวกันวันนี้มีคนเริ่มพูดถึงมาตรา 5 มีคนพูด ถึงเรื่องของมาตรา 144 จะเซ็ตซีโร่ สส.ทั้งสภาอะไรต่างๆเหล่านี้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่ากังวล และขณะเดียวกันสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาจะปะทุขึ้นมาอีกเมื่อไร นี่ก็เป็นโจทย์ยิ่งท้าทายไม่ว่าจะคุณอุ๊งอิ๊งอยู่ต่อ หรือจะเป็นนายกฯคนใหม่ก็ดี และอีกประการหนึ่ง ก็คือสัญญาณทางเศรษฐกิจ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นโยบาย งบประมาณปี 69 จะพื้นฟูเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนอะไรยังไง อันนี้ก็เป็นโจทย์ใหญ่ เมื่อคุณอุ๊งอิ๊งจะได้ไปต่อ หรือว่าจะต้องเปลี่ยนนายกฯคนใหม่ก็ต้องเจอกับโจทย์นี้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นอันนี้ผมว่าก็ยังมีอะไรหลายๆอย่างที่รออยู่ข้างหน้า”
.
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามพัฒนาการการเมืองไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพิจารณาของศาลเกี่ยวกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” ว่าจะหลุดหรือไม่ หากหลุดจากตำแหน่ง ก็จำเป็นจะต้องหาคนใหม่ นักวิเคราะห์ ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นใคร และนโยบายต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ดังนั้นทุกจังหวะ ทุกย่างก้าว การเมืองไทยน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
.
.
.
“ชัยภูมิ” ฝายแตก! น้ำทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรเกือบ 500 ไร่
.
“ชัยภูมิ” ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำไหลบ่าทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรแล้วเกือบ 500 ไร่
.
เมื่อวานนี้ (24 ส.ค.68) นางสาวนันทิดา ภูมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านว่า ที่บ้านโนนส้มกบ หมู่ที่ 3 ต.บ้านแก้ง เกิดน้ำไหลหลาก ทะลักฝายแตกใกล้จุดที่เคยแตกเมื่อปีก่อน
.
เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า ฝากบริเวณดังกล่าวถูกกัดเซาะจนขาด ส่งผลให้นำไหลบ่าอย่างรวดเร็ว เข้าสู่พื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน เสียหายเกือบ 500 ไร่ สืบเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันที่ผ่านมา จึงแจ้งเตือนผ่านเฟซบุ๊กด้วย ใจความสำคัญ ดังนี้
.
“แจ้งพ่อแม่พี่น้อง ที่ใช้ถนนสัญจร เส้นฝายใหม่ บ้านโนนส้มกบ หมู่3 ตอนนี้ฝายขาดนะคะ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน และน้ำบนภูเขาได้ไหลมาบรรจบกัน ทำให้ฝายน้ำล้น เกินกำลังที่จะรับ และบริเวณดังกล่าวต่ำกว่าจุดเปิดปิดน้ำ จึงแจ้งไว้เบื้องต้น เมื่อหมดฝน อบต.บ้านแก้ง จะรีบลงไปดำเนินการแก้ไขให้เร็วไวที่สุดนะคะ”
.
https://www.facebook.com/reel/1281433673456108
JJNY : 20 บ.วันแรก ขั้นตอนซับซ้อน คนบ่นอื้อ│“ชินวัตร” ลุ้นศาล อนาคตรัฐบาลสั่นคลอน? │“ชัยภูมิ” ฝายแตก! │ฝนถล่มหนัก 35 จว.
https://www.matichon.co.th/economy/news_5338032
.
.
สำหรับผู้ใช้บัตรแรบบิท ต้องมีฟังก์ชัน ABT (Account-Based Ticketing) ด้วยการผูกบัตรแรบบิทกับ Rabbit Wallet หรือ Line Pay อย่างใดอย่างหนึ่ง
.
.
.
เมื่อวานนี้ (24 ส.ค.68) นางสาวนันทิดา ภูมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านว่า ที่บ้านโนนส้มกบ หมู่ที่ 3 ต.บ้านแก้ง เกิดน้ำไหลหลาก ทะลักฝายแตกใกล้จุดที่เคยแตกเมื่อปีก่อน
.
เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า ฝากบริเวณดังกล่าวถูกกัดเซาะจนขาด ส่งผลให้นำไหลบ่าอย่างรวดเร็ว เข้าสู่พื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน เสียหายเกือบ 500 ไร่ สืบเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันที่ผ่านมา จึงแจ้งเตือนผ่านเฟซบุ๊กด้วย ใจความสำคัญ ดังนี้
.
“แจ้งพ่อแม่พี่น้อง ที่ใช้ถนนสัญจร เส้นฝายใหม่ บ้านโนนส้มกบ หมู่3 ตอนนี้ฝายขาดนะคะ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน และน้ำบนภูเขาได้ไหลมาบรรจบกัน ทำให้ฝายน้ำล้น เกินกำลังที่จะรับ และบริเวณดังกล่าวต่ำกว่าจุดเปิดปิดน้ำ จึงแจ้งไว้เบื้องต้น เมื่อหมดฝน อบต.บ้านแก้ง จะรีบลงไปดำเนินการแก้ไขให้เร็วไวที่สุดนะคะ”
https://www.facebook.com/reel/1281433673456108