" สัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง (ม.306) vs สัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก (ม.374) "
สองสัญญานี้ถ้าดูเผิน ๆ คล้ายกันมาก ๆๆๆ ข้อสอบ จะต้องออกมารวมกันเพื่อหลอกแน่ ๆ !
(มาตราที่กล่าวในกระทู้นี้เป็นบทบัญญัติที่อยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์)
💥
ความแตกต่าง
1.ลักษณะของสัญญา
-สัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง (ม.306) = เจ้าหนี้โอน "สิทธิความเป็นเจ้าหนี้" ให้อีกบุคคลนึง (ผู้รับโอน)
-สัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก (ม.374) = คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งตกลงจะชำระหนี้แก่ "บุคคลภายนอก"
2.แบบของสัญญา
-สัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง (ม.306) = กฎหมายกำหนดให้ต้องทำเป็นหนังสือ
(ไม่ทำนส. = โมฆะ ตาม ม.152)
-สัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก (ม.374) = กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
(ทำด้วยวาจาก็บังคับกันได้)
🔥
ตัวอย่าง เทียบจากรูปด้านบน
- B กู้ยืมเงินจาก A ค้างชำระ 10 บาท
- C จ้าง B ร้องเพลงให้ฟัง ค้างชำระค่าจ้าง 10 บาท
**ย่อยให้ง่ายขึ้นคือ ตอนนี้ A เป็นเจ้าหนี้ B (กู้ยืม) และ B เป็นเจ้าหนี้ C (จ้างทำของ)
> กรณี 1 B ตกลงกับ A ให้เก็บเงินกู้ยืมที่ค้าง 10 บาท จาก C ได้เลย
= B โอนสิทธิความเป็นเจ้าหนี้ให้แก่ A
จึงเป็นสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง (ม.306)
> กรณี 2 แต่ถ้า B ตกลงกับ C ให้ C นำค่าจ้างร้องเพลงที่ค้างชำระไปจ่ายให้ A ได้เลย
= B ตกลงกับ C ให้ชำระหนี้แก่คนนอก
จึงเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก (ม.306)
🔥
ตัวอย่าง จากคำพิพากษาฎีกา เรียบเรียงใหม่เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น
(ฎ.3702/2545)
1. A ซื้อกระจกและจ้าง B มาติดตั้งกระจกในตึกของตน
2. ต่อมา A ขายที่ดินพร้อมตึกดังกล่าวให้แก่ C ในราคา 10 บาท
3.1 โดยตกลงว่าให้ C ชำระค่าที่ดินเพียง 9 บาท ส่วนอีก 1 บาท ที่เหลือ ให้นำไปจ่ายเป็นค่าติดตั้งกระจกแก่ B
>> ตามข้อตกลง B ถือเป็นบุคคลภายนอก ข้อตกลงดังกล่าวจึงถือเป็น "
สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก"
ดังนั้น
C สามารถเรียกเก็ยค่าติดตั้งกระจกจาก B ได้โดยตรง ตาม ปพพ มาตรา 374 วรรคแรก
3.2 แต่ถ้าเพิ่มอีกข้อเท็จจริงเป็นว่า A ไปตกลงกับ B ด้วยว่า ให้ไปเรียกเก็บค่าติดตั้งกระจกจาก C ได้เลยนะ เพราะ C ค้างชำระค่าที่ดินฉันอยู่
>> ตามข้อตกลงนี้ ถือเป็นการที่ A โอนสิทธิเรียกร้องที่ตนมีต่อ C ให้ B ข้อตกลงดังกล่าวจึงถือเป็น "
สัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง" ตาม ปพพ มาตรา 306 ซึ่ง
ต้องทำเป็นหนังสือจึงจะสมบูรณ์ตามกฎหมาย และต้องแจ้งการโอนนี้ให้ C ลูกหนี้ ทราบถึงข้อตกลงนี้ด้วยจึงจะสามารถไปเรียกให้ชำระหนี้ได้
สัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง (ม.306) vs สัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก (ม.374) - ปพพ
สองสัญญานี้ถ้าดูเผิน ๆ คล้ายกันมาก ๆๆๆ ข้อสอบ จะต้องออกมารวมกันเพื่อหลอกแน่ ๆ !
(มาตราที่กล่าวในกระทู้นี้เป็นบทบัญญัติที่อยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์)
💥ความแตกต่าง
1.ลักษณะของสัญญา
-สัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง (ม.306) = เจ้าหนี้โอน "สิทธิความเป็นเจ้าหนี้" ให้อีกบุคคลนึง (ผู้รับโอน)
-สัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก (ม.374) = คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งตกลงจะชำระหนี้แก่ "บุคคลภายนอก"
2.แบบของสัญญา
-สัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง (ม.306) = กฎหมายกำหนดให้ต้องทำเป็นหนังสือ
(ไม่ทำนส. = โมฆะ ตาม ม.152)
-สัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก (ม.374) = กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
(ทำด้วยวาจาก็บังคับกันได้)
🔥ตัวอย่าง เทียบจากรูปด้านบน
- B กู้ยืมเงินจาก A ค้างชำระ 10 บาท
- C จ้าง B ร้องเพลงให้ฟัง ค้างชำระค่าจ้าง 10 บาท
**ย่อยให้ง่ายขึ้นคือ ตอนนี้ A เป็นเจ้าหนี้ B (กู้ยืม) และ B เป็นเจ้าหนี้ C (จ้างทำของ)
> กรณี 1 B ตกลงกับ A ให้เก็บเงินกู้ยืมที่ค้าง 10 บาท จาก C ได้เลย
= B โอนสิทธิความเป็นเจ้าหนี้ให้แก่ A
จึงเป็นสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง (ม.306)
> กรณี 2 แต่ถ้า B ตกลงกับ C ให้ C นำค่าจ้างร้องเพลงที่ค้างชำระไปจ่ายให้ A ได้เลย
= B ตกลงกับ C ให้ชำระหนี้แก่คนนอก
จึงเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก (ม.306)
🔥ตัวอย่าง จากคำพิพากษาฎีกา เรียบเรียงใหม่เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น
(ฎ.3702/2545)
1. A ซื้อกระจกและจ้าง B มาติดตั้งกระจกในตึกของตน
2. ต่อมา A ขายที่ดินพร้อมตึกดังกล่าวให้แก่ C ในราคา 10 บาท
3.1 โดยตกลงว่าให้ C ชำระค่าที่ดินเพียง 9 บาท ส่วนอีก 1 บาท ที่เหลือ ให้นำไปจ่ายเป็นค่าติดตั้งกระจกแก่ B
>> ตามข้อตกลง B ถือเป็นบุคคลภายนอก ข้อตกลงดังกล่าวจึงถือเป็น "สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก" ดังนั้น C สามารถเรียกเก็ยค่าติดตั้งกระจกจาก B ได้โดยตรง ตาม ปพพ มาตรา 374 วรรคแรก
3.2 แต่ถ้าเพิ่มอีกข้อเท็จจริงเป็นว่า A ไปตกลงกับ B ด้วยว่า ให้ไปเรียกเก็บค่าติดตั้งกระจกจาก C ได้เลยนะ เพราะ C ค้างชำระค่าที่ดินฉันอยู่
>> ตามข้อตกลงนี้ ถือเป็นการที่ A โอนสิทธิเรียกร้องที่ตนมีต่อ C ให้ B ข้อตกลงดังกล่าวจึงถือเป็น "สัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง" ตาม ปพพ มาตรา 306 ซึ่งต้องทำเป็นหนังสือจึงจะสมบูรณ์ตามกฎหมาย และต้องแจ้งการโอนนี้ให้ C ลูกหนี้ ทราบถึงข้อตกลงนี้ด้วยจึงจะสามารถไปเรียกให้ชำระหนี้ได้