จากข้อมูลที่พบจากการค้นหาและวิเคราะห์แหล่งต่างๆ เช่น บทสัมภาษณ์ ประวัติวง และการสนทนาในชุมชนแฟนเพลง
Ryuichi Kawamura (หรือ Ryuichi) นักร้องนำของ Luna Sea ได้เปลี่ยนรูปแบบการร้องเพลงจากเสียงหนัก ห้าว หาญ (bold, aggressive, มีการกรีดร้องในเพลงฮาร์ดร็อก) ในช่วงอัลบั้มแรกๆ เช่น Luna Sea (1991), Image (1992), Eden (1993) มาเป็นเสียงที่ใสขึ้น ชัดเจนขึ้น และ melodic มากขึ้นตั้งแต่อัลบั้ม Mother (1994) เป็นต้นไป เป็นการเปลี่ยนแปลงโดยเจตนาของตัวเขาเองและวง เพื่อพัฒนาสไตล์ดนตรี
เหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลง
วิวัฒนาการทางดนตรีของวง : Luna Sea เริ่มต้นจากสไตล์ visual kei ที่ได้รับอิทธิพลจาก heavy metal และ thrash metal (เช่น Slayer, Anthrax) ทำให้เสียงร้องของ Ryuichi ในช่วงแรกหนักและ aggressive มาก แต่ตั้งแต่อัลบั้มแรก พวกเขาเริ่มหันไปเล่นดนตรีที่ "ชอบฟัง" มากกว่า "ชอบเล่น" ตามคำแนะนำของ Sugizo (กีตาร์) ทำให้ sound โดยรวม melodic ขึ้น Progressive ขึ้น และ mainstream มากขึ้น โดยเฉพาะใน Mother ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญไปสู่เสียงที่หลากหลายและเข้าถึงคนฟังกว้างขึ้น
อิทธิพลและแรงบันดาลใจส่วนตัว: Ryuichi ได้รับอิทธิพลจาก Morrie นักร้องนำวง Dead End ในช่วงแรก ทำให้เสียงร้องหนักและ dramatic แต่ต่อมาเขาปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความลึกซึ้ง ความเหงา และ darkness โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ "The Voice of the Mind" ของ Shinji Wada ซึ่งช่วยให้เขาสามารถแสดงอารมณ์ได้อิสระมากขึ้น นำไปสู่เสียงที่ใสและ mellow มากขึ้น
ปัจจัยภายนอก: การเปลี่ยนนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับความสำเร็จของอาชีพโซโล่ (เริ่มปี 1997) ที่หันไปทาง pop มากขึ้น รวมถึงแรงกดดันจากค่ายเพลงเพื่อให้เข้าถึงตลาด mainstream โดยอัลบั้ม Mother ถือเป็นจุดที่วงเริ่มดังมากขึ้น (ขายเกิน 5 แสนแผ่น) และนำไปสู่ความหลากหลายในอัลบั้มถัดๆ ไปอย่าง Style (1996) และ Shine (1998)
AI ให้ข้อมูล เรื่อง "เหตุผลที่ Ryuichi นักร้องวง Luna sea เปลี่ยนเสียงการร้องตั้งแต่ชุด mother"
Ryuichi Kawamura (หรือ Ryuichi) นักร้องนำของ Luna Sea ได้เปลี่ยนรูปแบบการร้องเพลงจากเสียงหนัก ห้าว หาญ (bold, aggressive, มีการกรีดร้องในเพลงฮาร์ดร็อก) ในช่วงอัลบั้มแรกๆ เช่น Luna Sea (1991), Image (1992), Eden (1993) มาเป็นเสียงที่ใสขึ้น ชัดเจนขึ้น และ melodic มากขึ้นตั้งแต่อัลบั้ม Mother (1994) เป็นต้นไป เป็นการเปลี่ยนแปลงโดยเจตนาของตัวเขาเองและวง เพื่อพัฒนาสไตล์ดนตรี
เหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลง
วิวัฒนาการทางดนตรีของวง : Luna Sea เริ่มต้นจากสไตล์ visual kei ที่ได้รับอิทธิพลจาก heavy metal และ thrash metal (เช่น Slayer, Anthrax) ทำให้เสียงร้องของ Ryuichi ในช่วงแรกหนักและ aggressive มาก แต่ตั้งแต่อัลบั้มแรก พวกเขาเริ่มหันไปเล่นดนตรีที่ "ชอบฟัง" มากกว่า "ชอบเล่น" ตามคำแนะนำของ Sugizo (กีตาร์) ทำให้ sound โดยรวม melodic ขึ้น Progressive ขึ้น และ mainstream มากขึ้น โดยเฉพาะใน Mother ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญไปสู่เสียงที่หลากหลายและเข้าถึงคนฟังกว้างขึ้น
อิทธิพลและแรงบันดาลใจส่วนตัว: Ryuichi ได้รับอิทธิพลจาก Morrie นักร้องนำวง Dead End ในช่วงแรก ทำให้เสียงร้องหนักและ dramatic แต่ต่อมาเขาปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความลึกซึ้ง ความเหงา และ darkness โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ "The Voice of the Mind" ของ Shinji Wada ซึ่งช่วยให้เขาสามารถแสดงอารมณ์ได้อิสระมากขึ้น นำไปสู่เสียงที่ใสและ mellow มากขึ้น
ปัจจัยภายนอก: การเปลี่ยนนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับความสำเร็จของอาชีพโซโล่ (เริ่มปี 1997) ที่หันไปทาง pop มากขึ้น รวมถึงแรงกดดันจากค่ายเพลงเพื่อให้เข้าถึงตลาด mainstream โดยอัลบั้ม Mother ถือเป็นจุดที่วงเริ่มดังมากขึ้น (ขายเกิน 5 แสนแผ่น) และนำไปสู่ความหลากหลายในอัลบั้มถัดๆ ไปอย่าง Style (1996) และ Shine (1998)