สวัสดีครับ........ผมเป็นเด็กจบใหม่คนนึงที่หางานยากมากเพราะพึ่งจบใหม่และได้พบกับบริษัทๆหนึ่ง ซึ่งขอไม่เปิดเผยละกันนะครับ
*** ต้องบอกก่อนนะครับว่านี่เป็นเรื่องที่จะมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวในการทำงานแรกของผม ซึ่งมันอาจจะดูเล็กน้อยสำหรับใครบางคน แต่มันส่งผลกระทบใหญ่ต่อผมมากๆ จนถึงตอนที่เขียนนี้***
ผมเป็นเด็กที่จบใหม่และเคยคิดว่าจะหยุดระหว่างเรียนเพราะที่เรียนอยู่มันไม่ใช่ตัวผมเลยและไม่มีความสุข จนสุดท้ายก็ทนเรียนจนจบและก็หางานทำ ซึ่งทำงานอะไรก็ได้เคยเป็นความคิดในหัวเพราะถ้าได้เงินก็ทำๆไป แต่เรื่องนี้จะทำให้ผมคิดใหม่หมดและทำให้เป็นอย่างหัวกระทู้เลย.
ต้องท้าวความก่อนว่าผมเป็นคนไม่ค่อยได้เก็บผลงานไว้เพราะถ้าเราทำเสร็จก้ลบทิ้งหรือทำไม่สวยก็ลบทิ้งทำใหม่ แบบใหม่ตลอด นั่นทำให้ไม่มีผลงานใน Portfolio เลย นี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุก็ได้ตอนผมกลับมาคิด และพอไปสมัครงานก็ไม่ค่อยมีคนรับเพราะผลงานไม่พอแถมเป็นเด็กจบใหม่ บางที่ก็ส่งไปไม่ตอบและไปเจอบริษัทๆหนึ่งซึ่งประกาศรับด่วนเลยไปสมัรและได้สัมภาษณ์เลยทันทีในอีกไม่กี่วัน ซึ่งตอนนั้นดีใจมากมีงานทำซักทีเพราะผมต้องหาเงินจ่ายค่าที่พักและค่าแมว (เลี้ยงแมวไว้ 7 ตัว แมวโต 2 ตัว แมวเด็ก 5 ตัว) จึงต้องรีบหางานเพราะกลัวลูกๆหลานๆจะอดอยากเลยคิดว่าถ้าได้งานอะไรก็จะทำไปไม่ตรงสายไม่เป็นไร ด้วยความรักแมวมากกว่าตัวเองเลยทำเลยตั้งแต่สัมภาษณ์ผ่านแค่ที่เดียว และไปทำงานหลังจากวัเกิด 1 วัน.
เริ่มทำงานวันแรกที่บริษัททาง HR มีอบรมอะไรต่างๆอย่างดีและเราก็เข้าห้องไปฝึกทำงานอยู่ 2 อาทิตย์กว่าๆ ซึ่ง 2 อาทิตย์กว่าๆที่ว่านี้ยังม่มีอะไรเกิดขึ้น พักเที่ยงก็คุยกับพี่ที่ทำงานอย่างสนุกสนาน...........ก็บ้าละครับ พักเที่ยงนั่งกินข้าวคนเดียวคนเดินผ่านมองอย่างกับมาเที่ยวเขาเขียว เหมือนไม่เคยเห็นคนนั่งกินข้าวคนเดียวไงงั้น และพอกลับมาก็แทบจะเปื่ยอเลยครับ เพราะปกติผมเป็นคนเล่นเกมกับไปยิมคลายเคลียดแต่พอไปทำงานไม่ได้ทำทั้งสองอย่างเลย เพราะงานที่ทำมันอย่หน้าคอมตลอด 8-9 ชั่วโมง และทำ 6 วัน/สัปดาห์ เลยกลับมาละนอนเลยเพราะตาล้ามากถึงแม้ว่าในใจอยากออกไป Deadlift แต่แค่ขับรถก็ไม่ไหวแล้ว ตอนนอนก้จะมีแมวอ้วนสีส้มมานอนปลอบตลอด แฟนก็จะเอาแทวท่ปลอบตลอด และพากย์สียงแบบ "สู้ๆนะกะตาต๋า" เลยมีกำลังใจในการทำงานมาตลอดและเวลาก็ผ่านมา 2 อาทิตย์กว่าๆ ถึงจะได้ทำงานจริง.
ทำงานจริงวันแรกจะมีพี่เลี้ยงมานั่งข้างๆ แต่ทำไมก็ไม่รู้พี่เลี้ยงของผมถึงเป็นหัวหน้าและการทำงานมันกดดันมากเพราะพี่เลี้ยงเหมือนดูจอตลอดเวลาเลย จ้องจนตาโปนอะ เหมือนจับผอดตลอดเวลาซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเป็หน้าที่ของพี่เลี้ยงแต่อันนี้จ้องทุกการกระทำจนผมทำผิดเขาเลยต้องบอกว่าให้ทำงี้และน้ำเสียงมันดูเป็นอารมณ์เสียมากกว่า เพราะปกติหัวหน้าคุยกับคนอื่นจะเปนอีกโทนนึงแต่พอเอามาคุยกับมเหมือนคนเป็นเมนส์เลย ถึงแม้กระทั่งผมที่จะเปิดเดอะโกสเพราะง่วง

วายป่วงง่วงจนกาแฟไม่ช่วยอะไรเลย เลยต้องฟังเดอะโกสและนั่นแหละครับ.........ผมโดนดุครับหาว่าไม่ได้ตั้งใจทำงานเพราะมัวแต่เลือกเรื่องที่จะฟัง ทั้งที่บางคนทำเสร็จหนึ่งงานไถเฟสไถ Tiktok ให้พี่เลี้ยงที่เป็นหัวหน้าผมดูยังไม่ว่าเลย แต่พอผมจับมือถือเท่านั้นแหละโดนเลย แรกๆผมก็พอทน หลังๆพอเลย ผมก็ได้แต่นั่งสงสัยว่าคนที่มาฝึกก่อนและใกล้ผ่านเป็นยังไงผมเลยเนียนว่าจะลุกไปกินน้ำและสังเกตดู กลายเป็นว่านั่งตอบแชทสาวครับและพี่เลี้ยงที่อยู่ข้างๆเล่นเฟสดูไลฟ์สด Tiktok บางทำก็เล่น ROV ผมก็เลยคิดว่าโหดีจังมานั่งไกลหัวหน้า หรือเป็นเพราะคนที่ฝึกคนนั้นหบ่อก็ไม่รู้เพราะที่ผมไปทำงานกลุ่มผมมีแต่ ผญ และ ผช สองคนคือผมกับมัน ไม่รู้ว่าทำไมบริษัทรับแต่ ผช แต่ผช ส่วนใหญ่ไปอยู่อีกกลุ่ม ซึ่งนี่อาจเป็นดวงซวยของผมก็ได้ที่มาอยู่กลุ่มนี้และทุกเดือนจะมีการประเมินการทำงานตลอด.
การประเมินครั้งแรกจากการทำงานครั้งแรกครบ 1 เดือน บอกเลยว่าดีครับจะโดนแต่เรื่องไม่ค่อยคุยกับใครเพราะคุยไม่เก่งแต่หลังจากประเมินผมก็พยายามคุยกับพี่ที่ทำงานแล้วถึงแม้ที่ทำงานเขาจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงดูโกรธตลอดก็เถอะแต่พักเที่ยงเป็นอะไรที่ดีครับเพราะพอทำงานนานไปเริ่มสนิทกับพี่ที่ทำงานแต่เป็น ผช ที่อยู่อีกกลุ่มเพราะอีกคนพอพักเที่ยงก็หายไปเลย ลืมบอกไปเลยนะครับว่ามีพี่ที่มาฝึกวันเดียวกันด้วย เป็น ผญ นะครับเริ่มสนิทนิดหน่อยอะนะและผมก็ทำงานผ่านไป โดยที่อยู๋แบบนี้จะโดนหัวหน้าบ่นอย่างน้อยๆวันละ 2-3 รอบนะครับ ได้ยินจนเป็นกิจวัตรเลย ได้ยินจนท้อมาก +- กับพลังงานแมวแล้ว พลังงานแมวเริ่มไม่ไหวละครับในใจเร่มติดลบเรื่อยๆแต่ก็ยังผ่านไปได้ด้วยพุงแมว และตอนใกล้สิ้นเดือนก็มาเข้าใจพนักงานเงินเดือนเลยเพราะแทบไม่เหลือเงินจะกินเพราะเอาเงินไปซื้ออาหารแมว ไม่อยากให้ลูกๆหลานๆต้องอดอยาก อยากให้อ้วนๆนอนจกพุงได้ตอนกลับมาจากทำงานและก็วนลูปจนเข้าการทำงานเดือนที่สอง.
เดือนที่สองไม่มีอะไรมากครับมีอีเว้นต์อบรมแต่ผมมาสายสิบกว่านาที HR จำไปจนออกเลยครับ คือคนอื่นมาสายไม่ว่าอะไรแต่พอผมมาสายรอบเดียวก็ว่าผมเลย และมาสายแค่รอบเดียวตลอดทั้งการฝึกงานนะครับอันนี้ ในเดือนนีก็โดนด่าอีกครับ เหมือนจะโดนหนักกว่าเดิมเพราะตัวผมเริ่มเอื่อยกับการทำงานนี้ผมรู้สึกได้ แบะสุดท้ายการประเมิน ใช้ครับคะแนนประเมินผมตกฮวบเลยเพราะผมเริ่มเอื่อยแบบบอกไม่ถูกร่างกายเหมือนไม่มีคสามสุขเหมือนเคยละครับจากกินข้าวกับอะไรก็อร่อยก้เริ่มไม่อร่อยละครับ จากคนที่กินเก่งเล่นเวท กลายเปนคนกินน้อยนอนเยอะเลยครับ ถึงแม้บากทีจมาเช็คสภาพตัวเองจนอยากไปยิม เคยไปมาแล้วครับหน้ามืดตั้งแต่เซ้ทวอร์มเลย การทำงานมันดูไม่หนักนะครับแค่หน้าคอมเมื่อก่อนคิดงั้น พอมาทำจริงเหนื่อยมากและเครียด้วยเพราะตอนนั้นมีแค่ผมที่ทำงาน เพราะแฟนทำเล็บขายแต่ลูกค้าไม่ได้เยอะขนาดที่เอาเงินมาใช้ได้มากขนาดนั้นแค่ซื้อของมาทำก็เต็มกลืน ผมต้องจ่ายนู่นนี่มากมายเลยครับและใช่ครับ ติดลบการใช้จ่ายติดลบอย่างแน่นอน เพราะลูกแมวเริ่มโดตแล้วกินเก่งมวาก และไหนจะค่าวัคซีนอีกอันนี้โดนไปหนักถึงขั้นยืมทางบ้านเลยครับ เพราะมันหลายพันบาทและสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจแหละครับ ผมโดนว่าไม่ปรับปรุงตัว ทั้งที่พยายามแล้วคุยแล้วจากไม่ค่อยคุยแถมโดนบ่นว่าทำงานช้าหรือก็คือทำงานได้น้อยเพราะผมทำงานใหญมันเลยช้าและได้น้อย ซึ่งอีกคนที่มาฝึกได้เยอะเพราะงานง่าย ถ้าวันนั้นมีโอทีพี่ที่มาฝึกด้วยตอนใกล้เลิกงานพี่แกเชิงว่าทำช้าด้วยเพราะไม่อยากทำงานใหม่ เพราะไม่อยากทำตลอเลยเป็นแบบนี้จนจบเดือนที่ 2 ไป.
เดือนนี้เป็นอะไรที่โค-ตะ-ระ เลยหล่ะครับเพราะเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นอย่างแรก ได้ทำงานคู่กับพี่ที่มาฝึกและแบ่งงานกันให้งานง่ายไปและพี่แกก็ทำเสร็จอย่างไวละมาอวดว่าทำเสร็จรึยังแถมพอเขข้ามาใกล้ก็เหม็นรักแร้ อันนี้ไม่ได้จะบูลลี่นะแต่คนมันดซ้นสิทีฟกับกลิ่นและพอเช็คจริงๆนั่นแหละครับงานไม่เสร็จบางอันขาดบางอันหาย ผมที่เอามาทำต่อเหมือนทำใหม่หมดเลย ในใจก็คิดว่าพี่แกจะไม่เอาไรเลยและชอบลุกไปห้องนำบ่อยมากเหมือนทำเสร็จซัก 2-3 งานก็เข้าห้องน้ำละเหมือนกระเพาะปัสสาวะรั่ว และก็โดนหัวหน้าด่ากว่าเดิมด้วยโดนด่าจนพักเที่ยงต้องนั่งฟุบเที่ยงละคิดว่านี่เราทำอะไรผิดรึเปล่าวะ ไปฆ่าใครตอนไหนหรือทำกรรมอะไรไว้ ถึงได้ตามมาขนาดนี้ ตามมาทีละนิดก็ได้กรรมอะ ตามมาทำไมทีเดียวงี้ และบางวันก้โดนด่าจนซึมไม่กินข้าวเลยและก็มานอนร้องไห้ให้แฟนกับแมวจ๋องอีก 7 ตัวฟังก้มีแมวอ้วนมานอนกอดทุกคืนเลย จนเวลาก็ผ่านไปจนประเมินเืดอนสุดท้ายวันปรระเมินผมร้องไห้เลยครับที่ทุกอย่างเขาพูดมาใการประเมินและเขาถามว่ามีอะไรจะแย้งไหม ในใจผมอยากจะแย้งแทบทุกอันเลยครับว่าอันนี้มันเป็นแบบนี้ไม่ใช่แบบที่พี่บอกน้า ที่ผมเล่นมือถือไม่ใช่อะไรหรอกเพราะจะหาไรฟังงี้ แต่ผมกลับตอบว่าไม่มีอะไรแย้งครับละก็น้ำตาเริ่มซึมเลยครับละอยู่แก้มทั้งสองของผมก็มีน้ำตาไหลเป็นสายน้ำลงมาแบบไม่รู้ตัวและวันนั้นเป็นวันที่ผมกินอะไรไม่ค่อยลงเลยถึงแม้แฟนจะบังคับให้กินเพราะถ้าไม่กินมันจะแย่เอา ซึมมาหลายวัน ร้องไห้ง่ายกว่าปอกกล้วย ชนิดที่ว่านั่งกินข้าวเฉยๆ น้ำตาก็ไหลออกมาเลย ทั้งที่เกมก็ได้เล่น ยิมก็ได้ไป แต่ยกไม่ได่เลยครับแรงหายไปเยอะมากกลับมานั่งเฉยก็ร้องได้ครับ ร้องไห้จนอีกวันลืมตาแทบไม่ขึ้นเลย พ่อกับแม่ก็โทรมาบอกอย่าคิดมาก แฟนก็บอก แต่ให้ทำไงได้หล่ะครับ ผมเป็นคนนึงที่คิดเล็กคิดน้อย และคิดเยอะด้วย.
สุดท้ายผมก็ย้ายที่อยู่เพราะแบกค่าใช้จ่ายไม่ไหวและแมวก็ต้องเอากลับบ้านพ่อกับแม่ ถ้าถามว่าเป็นห่วงไหมเป็นห่วงมาก กลัวไม่กินอาหาร กลัวไม่ชิน กลัวโดนยุงกกัด กลัวนู่นกลัวนี่ แต่สุดท้ายทำไงได้ก็ต้องให้ลูกๆหบานๆไปอยู่ท่ดีกว่าเพราะถ้าอยู่กับเราอาจไม่มีไรกินเพราะหลังจากที่ไม่ผ่านงานผมก็ว่างเลยครับ เคว้งย้ายมาอยู่บ้านแฟนเพราะมาหางานแต่จะเอาแมวมาก็ยังไม่ได้เพราะต้องหางานก่อนไม่งั้นจะไม่มีค่าเปียกกับอาหารให้และผมก็หามาเกือบๆเดือนนึงละครับ จนเริ่มเป็นคนเบื่ออาหารไปแล้วตอนนี้นอนบางครั้งก็ร้องไห้บ้างก็มีเลยลุกขึ้นมาพิมพ์ใส่อะไรไว้จะได้ไม่เครียดและเก็บเอาไว้.
**** สุดท้ายนี้ถึงแม้ว่ามันจะยาวแต่ก็ขอยคุณที่อ่านเรื่องไร้สาระที่ไม่มีค่าของชีวิตน้อยๆของผมนะครับถึงแม้ว่าจะเลื่อนผ่านหรือเบื่อนลงมาดูผมก็ขอบคุณเพราะผมแค่อยากเล่าให้ใครฟังซักคนที่เข้าใจ ถึงแม้ทุกคนจะบอกว่าทำไมไม่เล่าให้แฟนเพราะผมไม่อยากให้แฟนมาคิดมากกับเรื่องนี้เพราะผม ****
เมื่อ First Jobber แย่จนกลัวที่จะหางานทำต่อ...