ใครเจอปัญหาแบบเดียวกันบ้าง? สร้างวิดีโอ AI บน Veo 3 ไม่สำเร็จง่ายๆเลย

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับทุกคน... ผมมีเรื่องอยากจะมาขอคำแนะนำหน่อยครับ
พอดีกำลังพยายามสร้างวิดีโอ AI ด้วยแพลตฟอร์ม Veo 3
แต่ทำเท่าไหร่ก็สำเร็จยาก
โดยเฉพาะถ้าทำใน
flow   
ไม่ว่าจะลองเปลี่ยน prompt ไปกี่แบบก็ยังติดปัญหาเดิมๆ
ตลอดเลยครับ
บางครั้งก็ขึ้นข้อความว่า "ไม่สามารถสร้างได้"
หรือวิดีโอที่ได้ก็ไม่ตรงกับที่ต้องการเลย
ไม่แน่ใจว่าปัญหาเกิดจากอะไรกันแน่ครับ...

เป็นเพราะผมเขียน prompt ไม่ดีพอหรือเปล่า? มีใครมีคำแนะนำการเขียน
prompt ให้ AI เข้าใจง่ายๆ บ้างไหมครับ?
หรือเป็นเพราะเนื้อหาใน prompt ไปละเมิดนโยบายของแพลตฟอร์ม?
ผมพยายามหลีกเลี่ยงคำที่สุ่มเสี่ยงแล้วนะครับ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่ามีคำไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษอีก
ไหม
โดยเฉพาะพวกคำที่อาจจะดูรุนแรง หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศครับ

ใครเคยมีประสบการณ์เจอปัญหาแบบนี้ แล้วมีวิธีแก้ไขยังไงบ้าง
รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้
...........
หลังจากศึกษา
ก็ลองใช้วิธีนี้
ก็พอแก้ปัญหาได้บ้าง
เพื่อนๆลองดูนะครับ

สั่งai germiniหรือchat gpt
เขียนpromptใหม่  โดยใช้แนวคิดของ
ผู้กำกับและตากล้องหรือนักถ่ายภาพยนตร์

1.ผู้กำกับจะมองภาพรวมทั้งหมดของเรื่องราว อารมณ์ และการแสดง
เขาหรือเธอจะให้ความสำคัญกับส่วนที่กำหนดทิศทางของวิดีโอมากที่สุด:


Dialogue/Voice-over (บทพูด/เสียงบรรยาย): นี่คือหัวใจของเรื่องราว
ผู้กำกับจะดูว่าบทพูดสะท้อนตัวตนของตัวละครและถ่ายทอดอารมณ์ที่ต้องการได้หรือไม่

Detail Subject (รายละเอียดตัวละคร): รายละเอียดของตัวละครแต่ละตัว,
ชุดที่สวมใส่,
และนิสัยที่แสดงออก จะช่วยให้ผู้กำกับสามารถกำกับนักแสดงให้สื่อสารอารมณ์ออกมาได้
ตรงตามที่วางแผนไว้

Action (การกระทำ): การเคลื่อนไหวของตัวละคร
เช่น "บัวงามเดินเข้ามาในกระท่อมและนั่งลงข้างขิง"
เป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพ ซึ่งผู้กำกับจะให้ความสำคัญกับการกำกับท่าทางเหล่านี้

Style (สไตล์): ผู้กำกับคือคนกำหนดสไตล์โดยรวมของวิดีโอ เช่น
แนว "Vlog อบอุ่นและเป็นกันเอง" เพื่อให้ทุกองค์ประกอบไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับตากล้อง


2.ตากล้องหรือนักถ่ายภาพยนตร์จะเน้นไปที่การนำวิสัยทัศน์ของผู้กำกับมาสร้างให้เป็นภาพจริง
เขาจะให้ความสำคัญกับส่วนที่เป็นเทคนิคและการถ่ายทำ:

Camera Details (รายละเอียดกล้อง): เช่น
รุ่นกล้องอย่าง Leica จะส่งผลต่อสีสันและคุณภาพของภาพที่ได้

Camera Angle, Distance, Movement (มุมกล้อง, ระยะ, การเคลื่อนไหว):
นี่คือหัวใจของการทำงานของตากล้องเลยครับ เพราะคือการกำหนดว่าผู้ชมจะเห็นอะไรในเฟรม
และการเคลื่อนไหวกล้องแบบ "slow pan" หรือการใช้ "static shot"
เป็นสิ่งที่ตากล้องต้องทำตามอย่างละเอียด

Lighting (แสง): "แสงอบอุ่น" และการจัด "แสง 3 จุด"
เป็นหน้าที่ของตากล้องในการจัดแสงให้ได้ตาม
Mood ที่ต้องการ

Rendering Style (สไตล์การเรนเดอร์): การควบคุม color grading
และคุณภาพภาพแบบ 4K UHD คือการทำให้ภาพที่ถ่ายทำออกมามีรูปลักษณ์สุดท้ายที่สมบูรณ์แบบ

...............
ส่วนเสริม อาจไม่ต้องใช้ครับ ลดความยาวpromptก็ทำให้aiไม่สับสน
เขียนpromptใหม่  โดยใช้แนวคิดของ
Sound Recordist / Sound Mixer (ผู้บันทึกเสียง/ซาวด์มิกซ์เซอร์):
ตำแหน่งนี้จะทำหน้าที่บันทึกเสียงสดจากกองถ่าย เช่น บทสนทนาและเสียงรอบข้าง 
เพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพและชัดเจนในขณะถ่ายทำ 
Boom Operator (คนถือไมค์บูม):
รับผิดชอบในการถือไมโครโฟน (ไมค์บูม)
เพื่อจับเสียงจากนักแสดงโดยไม่ให้ไมค์เข้าไปในเฟรมภาพ และทำงานร่วมกับ Sound Recordist
เพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุด 
Sound Designer (นักออกแบบเสียง):
ในขั้นหลังการผลิต (Post-Production) นักออกแบบเสียงจะสร้างสรรค์เสียงที่ไม่ได้อัดในกองถ่าย
เช่น เสียงเอฟเฟกต์ เสียงบรรยากาศต่างๆ เพื่อเพิ่มมิติให้กับภาพยนตร์ 
หน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเสียง
Foley Artist (โฟลีย์อาร์ทิสต์):
สร้างเสียงประกอบต่างๆ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในฉากถ่ายทำ แต่จะนำเสียงเหล่านี้มาสร้างใหม่ในสตูดิโอ 
เพื่อให้เสียงสอดคล้องกับภาพและสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชม เช่น เสียงฝีเท้า
เสียงการกระทำต่างๆ 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่