Dream Journey New Zealand | Ep.1 (Motorhome & Holiday Park)

กระทู้สนทนา

ประเทศนิวซีแลนด์ แผนการเดินทางและท่องเที่ยว บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวตามรอยภาพยนตร์

ความเดิมจากตอนที่แล้ว Ep.0 - https://pantip.com/topic/43434603

Ep นี้จะเล่าเรื่องการเดินทางด้วยรถบ้าน และที่พักของรถบ้านแบบ Holiday Park นะคะ

ตอนวางแผนจองรถบ้านครั้งแรก เราเลือกใช้ของ Wendekreisen ซึ่งเป็นแบรนด์ท้องถิ่นของ NZ ที่ราคาไม่แพง แต่มีความสะดวกสบายดีมาก จุดที่เราใช้เลือกรถบ้านคือเราต้องการรถที่สามารถเดินจากที่นั่งคนขับไปทางด้านหลังรถได้เลยโดยไม่ต้องลงจากรถค่ะ รถบ้านบางรุ่นที่เล็กๆ หน่อยจะคล้ายรถตู้ดัดแปลง driver's cabin จะอยู่ด้านหน้ารถ คนนั่ง 3 คนต้องนั่งอยู่ด้วยกันข้างหน้า แล้วถ้าจะไปด้านหลังรถ ต้องลงจากรถก่อนแล้วไปขึ้นประตูด้านข้างอีกที แบบนี้เราไม่เอาค่ะตัดทิ้งเลย

แต่พอถึงตอนวีซ่าผ่านแล้วจะเดินทางจริง รถของ Wendekreisen เค้าเต็มหมดค่ะ ตอนนั้นก็คิดหนักแล้ว ถ้าอัพขึ้นไปอีกเป็นกลุ่ม Maui หรือ Britz ก็จะราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว แต่สุดท้ายเรามาจบที่ตัวท็อปของ Wilderness ค่ะ เพราะคุณพ่อบ้านบอกว่า ไหนๆ ไปแล้วก็เอาให้สุดไปเลย ^^"

รถรุ่น top ของ Wilderness เรียกว่ารุ่น The Suite ลงตัวมากๆ ทั้งพื้นที่ส่วนคนขับ ส่วนคนนั่ง อยู่ด้านหลังคนขับเลย ลูกสาวจะได้นั่งใกล้ๆ พ่อแม่ข้างหน้าไม่ต้องแยกไปไกล การจัดโซนห้องครัว ห้องน้ำ ลงตัวทุกอย่าง ด้านหลังรถเป็น lounge คือเป็นห้องนั่งเล่น กว้างขวาง เก็บของได้ มีประตูปิดแยกพื้นที่ได้ด้วย กลางคืนให้ลูกเข้านอนก่อน คุณพ่อยังต้องประชุมทางไกลกับเมืองไทยก็สามารถทำได้ไม่รบกวนกัน

บริการอื่นๆ ของ Wilderness ก็เรียกได้ว่ายอดเยี่ยม อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ทุกอย่าง หัวต่อก๊อกทุกแบบ ถุงมือ เคมีคอลสำหรับถัง waste เขามีให้ทั้งหมด เครื่องใช้ไม้สอยบนรถ อุปกรณ์ครัว เขียง มีด ผ้าเช็ดจาน กาต้มน้ำ เหยือกกาแฟ ฯลฯ คือครบหมดจริงๆ ค่ะ แล้วถ้าเราซื้อประกันแบบ Full coverage เราจะได้ unlimited road charge คือไม่ต้องเสียค่าภาษีถนน, ฟรีประกันเพิ่มชื่อคนขับที่ 2, ฟรี LPG (ไม่ต้องเติมแก๊สตอนคืนรถ), แถมเตาบาร์บีคิวและเก้าอี้ปิกนิกด้วย เสียดายเราไม่ได้แกะออกมาใช้เลย

ข้อดีที่สุดของการเที่ยวด้วยรถบ้าน คือเราไม่ต้องเก็บกระเป๋าใหม่ทุกวันที่ย้ายเมือง ข้อนี้คุณแม่ชอบมากๆ ทุกอย่างอยู่บนรถอยู่แล้ว อยากย้ายเมืองก็ขับไปได้เลย

สรุปปัจจัยสำคัญในการเลือก Wilderness The Suite

(1) เลือกรถแบบที่สามารถเดินเชื่อมกันระหว่างพื้นที่คนขับด้านหน้า กับด้านหลังรถ ในกรณีฝนตกหรือลมแรง เราไม่ต้องลงจากรถให้ตัวเปียกเพื่อไปเปิดประตูขึ้นหลังรถค่ะ

(2) มีช่องเก็บกระเป๋าท้ายรถที่ใหญ่มาก ใส่กระเป๋าเดินทางของเราทั้ง 3 ใบได้
ความจริงทางบริษัทรถเช่าส่วนมากเขาจะให้ฝากกระเป๋าเดินทางไว้ได้ แต่เราคิดว่าเอาไปด้วยสะดวกกว่า วันสุดท้ายก่อนคืนรถเราจะได้จัดแพคกระเป๋าเตรียมกลับได้เลยค่ะ ไม่ต้องมารอรับกระเป๋าหลังจากคืนรถแล้วมาแพคของอีก

(3) เฉพาะรุ่น The Suite เท่านั้นที่มีห้องนั่งเล่นหลังรถ ซึ่งเราใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ แทนที่มันจะกลายเป็นเตียงนอนแล้วใช้ประโยชน์อื่นระหว่างวันไม่ได้ เราใช้มันเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน (ปิดประตูกันเสียงรบกวนได้) ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องตากผ้าแบบนี้ ผ้าบางอย่างเราไม่อยากใส่เครื่องอบ หรืออบมายังไม่แห้งสนิท ไม่อยากรอแล้วอยากเดินทางแล้ว ขึงเชือกตากผ้าแล้วขับไปโลดเลยจ้า

มีเตียงนอนอยู่บนเพดาน เลื่อนลงมาใช้นอนตอนกลางคืนได้ค่ะ

(4) ชอบห้องน้ำของ Wilderness มาก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นที่โซนอาบน้ำกับโถส้วมมันอยู่ด้วยกัน อาบน้ำทีก็เปียกทั้งห้อง แต่ของ Wilderness ห้องอาบน้ำกั้นแยกสัดส่วน แยกโซนเปียกโซนแห้ง

(5) การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในรถ เราชอบมาก มีที่ให้นั่งใส่/ถอดรองเท้าติดกับประตูทางขึ้นด้านข้าง มีช่องเก็บของจุกจิกมากมาย ตู้เย็นขนาดใหญ่ติดกับครัว มีโต๊ะด้านหลังคนขับให้ลูกนั่งเรียนออนไลน์ ทำการบ้าน วาดรูป หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ช่องเก็บของหน้ารถเราเอาไว้เก็บอุปกรณ์ใช้งานของพ่อแม่ ปลั๊กพ่วง สายชาร์จ อุปกรณ์คอม ช่องเก็บของหลังรถเอาไว้เก็บเสื้อผ้า ยา และของจุกจิก

ในรูปนี้ แม่ลงไปซื้อของจาก supermarket ส่วนคุณลูกก็เรียนออนไลน์จากประเทศไทยค่ะ จอดรถในลานจอดของซุปเปอร์ฯ ถ้าขับรถเก๋งเราทำแบบนี้ไม่ได้