เข้าสู่สุดสัปดาห์ที่ 14 หรือสุดสัปดาห์รองสุดท้ายของ Summer 2025 ซึ่งช่วงเวลานี้ก็มีเซอร์ไพรส์จาก Netflix ด้วยการส่ง KPop Demon Hunters ภาพยนตร์ Animation ขวัญใจวัยรุ่นทั่วโลกเข้าฉายในโรงด้วยโปรแกรมพิเศษ A Sing Along Event ให้แฟนๆของนักล่าอสูรขาแดนซ์ได้มาร้องและเต้นร่วมกันตัวละครสุดที่รักในโรงภาพยนตร์ พร้อมกับ Ne Zha II ภาพยนตร์ทำเงินสูงที่สุดทั่วโลกประจำปีนี้ที่กลับมา Re-release ในรูปแบบพากษ์ภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรกทั่วอเมริกาเหนือ ส่งผลให้หนังใหม่จากสตูดิโอใหญ่ของ Hollywood เองหมองไปทันที โดยคาดว่า Honey Don’t! จะทำเงินมากที่สุดในบรรดาหนังใหม่ของค่ายใหญ่แต่ก็ไม่ถึง 5 ล้านเหรียญ และไม่ติด Top 5 ด้วยซ้ำไป
KPop Demon Hunters A Sing-Along Event (Netflix)
หลังจากสร้างปรากฎการณ์ออนไลน์ Streaming ไปทั่วโลก ในที่สุด Netflix ก็ตัดสินใจส่งนักล่าอสูร Kpop เข้าฉายในโรงประมาณ 1,700 แห่งทั่วอเมริกาเหนือเป็นกรณีพิเศษ 23 และ 24 สิงหาคม 2025 เพียง 2 วันเท่านั้น ซึ่งแฟนๆก็ตื่นเต้นที่จะได้ร้อง เต้น กับเพื่อนๆและตัวละคร KPop Demon Hunters A Sing-Along Event ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งหลังจากประกาศฉายรอบพิเศษผลปรากฎว่ายอดจองตั๋วนั้นแรงทะลุปรอท โดยคาดกันว่า KPop Demon Hunters A Sing-Along Event จะทำรายได้รอบพิเศษ 2 วันไปในระดับเดียวกับ Renaissance: A Film by Beyoncé หรือประมาณ 20+ ล้านเหรียญ ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะได้ทราบตัวเลขอย่างเป็นทางการกันจริงหรือไม่ เพราะ Netflix ไม่เคยรายงานตัวเลขรายได้ของภาพยนตร์ตัวเองที่เข้าฉายในโรงอย่างเป็นทางการเลย ไม่ว่าจะเป็นแบบ Limited Release หรือ Event พิเศษอย่าง Glass Onion: A Knives Out Mystery ที่เปิดตัวฉายในโรง 5 วันก่อนที่จะนำไปลง Streaming อีก 1 เดือนถัดมา ทาง Netflix ก็ไม่เคยรายได้รายได้อย่างเป็นทางการ มีแต่ตัวเลข 13.28 ล้านเหรียญที่ทางโรงภาพยนตร์ประมาณการกันเอาไว้เท่านั้น
Weapons (WB)
แม้จะมี KPop Demon Hunters ที่ประกาศเข้าฉายแบบกระทันหัน แต่ดูเหมือนว่า Weapons จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าใดนักเพราะกลุ่มผู้ชมเป้าหมายเป็นคนละกลุ่มอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม Weapons ก็ยังได้รับผลกระทบบางอย่างคือการเสียโรง PLF บางส่วนไปให้ KPop และเสียโรง IMAX บางส่วนไปให้ Ne Zha II และ Black Swan (Re-release on 21, 24 Aug) ทำให้รายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 3 นี้จะแกว่งตัวอยู่ในช่วง 13-17 ล้านเหรียญ รายได้รวมถึงวันอาทิตย์อยู่ที่ราว 115-120 ล้านเหรียญ ผ่านหลัก 100 ล้านได้เป็นเรื่องที่ 13 ของปีนี้
Freakier Friday (Disney)
ในสุดสัปดาห์ที่ 3 นี้ Freakier Friday ยังคงตามหลัง Weapons เหมือนเดิม และดูเหมือนว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้าฉายของ KPop Demon Hunters มากที่สุด เนื่องจากกลุ่มผู้ชมเป้าหมายคือวัยรุ่นหญิงทับซ้อนกันมากที่สุดในบรรดาหนังทุกเรื่องบนตาราง Box Office แต่ด้วยคำชมแบบปากต่อปากที่ดีมากก็ยังคาดว่า ศุกร์สยอง 4 ร่างสลับรุ่นจะทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ไปอีก 8-10 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปที่ 68-72 ล้านเหรียญ ยังรักษาโอกาสที่จะเป็นหนัง 100 ล้านเรื่องถัดไปได้อยู่
The Fantastic Four: First Steps (Disney)
ยังคงรักษาอันดับใน Top 5 และเริ่มคงระดับการลดลงของรายได้ไม่ให้มากเกินไปได้ในที่สุด คาดว่า F4 จะทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 5 อีก 4.5-6.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมถึงวันอาทิตย์ประมาณ 255-260 ล้านเหรียญ ผ่านหลัก 250 ล้านได้ในที่สุด
The Bad Guys 2 (Universal)
รายได้ของ The Bad Guys 2 ลดลงด้วยสัดส่วนมากกว่าเรื่องอื่นในวันธรรมดา และเพิ่มสูงด้วยสัดส่วนมากกว่าเรื่องอื่นในวันหยุดและ Discount Day แสดงให้เห็นว่าเป็นหนังครอบครัวที่พ่อแม่พาลูกๆไปดูที่โรงอย่างชัดเจน ถึงสุดสัปดาห์ที่ 4 นี้วายร้ายพันธุ์ดีจะได้รับผลกระทบจาก Kpop Demon Hunters รองลงมาจาก Freakier Friday เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆแต่น่าจะน้อยกว่ามาก ทำให้ The Bad Guys 2 น่าจะทำเงินไปอีก 4-5 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปอยู่ที่ช่วง 65-67 ล้านเหรียญ ยังพอมีโอกาสไปถึง 100 ล้านแม้ค่อนข้างจะยากมากก็ตาม
Nobody 2 (Universal)
คนธรรมดา นรกเรียกพี่ภาค 2 ที่เปิดตัวแรงกว่าภาคแรกนิดหน่อย แต่ดูเหมือนว่าจะยืนระยะไม่ดีซักเท่าไหร่จากเกรด CinemaScore ที่ได้ไปแค่ B+ คาดว่าจะทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 2 นี้ 3.5-4.5 ล้านหเรียญ รายได้รวมประมาณ 15-17 ล้านเหรียญ
Ne Zha II (CMC / A24)
กลับมาอีกครั้งในรูปแบบพาษ์อังกฤษสำหรับภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงที่สุดของปี ณ ขณะนี้ Ne Zha II ที่กลับมาฉายในโรงปกติและโรง IMAX ทั่วอเมริกาเหนือ โดยคาดกันว่า Ne Zha II (English Dubbed Re-release) จะทำรายได้ไปประมาณ 3-5 ล้านเหรียญ ทั้งนี้จากการเปิดตัวฉายแบบภาษาจีนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เทพนาจาทำเงินเปิดตัวไป 7.7 ล้านเหรียญ และรายได้รวม 20.9 ล้านเหรียญ การกลับมาอีกครั้งในรูปแบบพาษ์อังกฤษน่าจะเรียกเงินจากผู้ชมชาวอเมริกันที่ปกติทั่วไปไม่ชอบอ่านซับกันได้อีกพอสมควร
ร้อง-เต้นไปกับ KPop Demon Hunters ในโรง 20+ ล้าน Weapons สยองต่อเนื่อง 13-17 ล้าน Freakier Friday ยังวุ่น 8-10 ล้าน
KPop Demon Hunters A Sing-Along Event (Netflix)
หลังจากสร้างปรากฎการณ์ออนไลน์ Streaming ไปทั่วโลก ในที่สุด Netflix ก็ตัดสินใจส่งนักล่าอสูร Kpop เข้าฉายในโรงประมาณ 1,700 แห่งทั่วอเมริกาเหนือเป็นกรณีพิเศษ 23 และ 24 สิงหาคม 2025 เพียง 2 วันเท่านั้น ซึ่งแฟนๆก็ตื่นเต้นที่จะได้ร้อง เต้น กับเพื่อนๆและตัวละคร KPop Demon Hunters A Sing-Along Event ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งหลังจากประกาศฉายรอบพิเศษผลปรากฎว่ายอดจองตั๋วนั้นแรงทะลุปรอท โดยคาดกันว่า KPop Demon Hunters A Sing-Along Event จะทำรายได้รอบพิเศษ 2 วันไปในระดับเดียวกับ Renaissance: A Film by Beyoncé หรือประมาณ 20+ ล้านเหรียญ ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะได้ทราบตัวเลขอย่างเป็นทางการกันจริงหรือไม่ เพราะ Netflix ไม่เคยรายงานตัวเลขรายได้ของภาพยนตร์ตัวเองที่เข้าฉายในโรงอย่างเป็นทางการเลย ไม่ว่าจะเป็นแบบ Limited Release หรือ Event พิเศษอย่าง Glass Onion: A Knives Out Mystery ที่เปิดตัวฉายในโรง 5 วันก่อนที่จะนำไปลง Streaming อีก 1 เดือนถัดมา ทาง Netflix ก็ไม่เคยรายได้รายได้อย่างเป็นทางการ มีแต่ตัวเลข 13.28 ล้านเหรียญที่ทางโรงภาพยนตร์ประมาณการกันเอาไว้เท่านั้น
Weapons (WB)
แม้จะมี KPop Demon Hunters ที่ประกาศเข้าฉายแบบกระทันหัน แต่ดูเหมือนว่า Weapons จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าใดนักเพราะกลุ่มผู้ชมเป้าหมายเป็นคนละกลุ่มอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม Weapons ก็ยังได้รับผลกระทบบางอย่างคือการเสียโรง PLF บางส่วนไปให้ KPop และเสียโรง IMAX บางส่วนไปให้ Ne Zha II และ Black Swan (Re-release on 21, 24 Aug) ทำให้รายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 3 นี้จะแกว่งตัวอยู่ในช่วง 13-17 ล้านเหรียญ รายได้รวมถึงวันอาทิตย์อยู่ที่ราว 115-120 ล้านเหรียญ ผ่านหลัก 100 ล้านได้เป็นเรื่องที่ 13 ของปีนี้
Freakier Friday (Disney)
ในสุดสัปดาห์ที่ 3 นี้ Freakier Friday ยังคงตามหลัง Weapons เหมือนเดิม และดูเหมือนว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้าฉายของ KPop Demon Hunters มากที่สุด เนื่องจากกลุ่มผู้ชมเป้าหมายคือวัยรุ่นหญิงทับซ้อนกันมากที่สุดในบรรดาหนังทุกเรื่องบนตาราง Box Office แต่ด้วยคำชมแบบปากต่อปากที่ดีมากก็ยังคาดว่า ศุกร์สยอง 4 ร่างสลับรุ่นจะทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ไปอีก 8-10 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปที่ 68-72 ล้านเหรียญ ยังรักษาโอกาสที่จะเป็นหนัง 100 ล้านเรื่องถัดไปได้อยู่
The Fantastic Four: First Steps (Disney)
ยังคงรักษาอันดับใน Top 5 และเริ่มคงระดับการลดลงของรายได้ไม่ให้มากเกินไปได้ในที่สุด คาดว่า F4 จะทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 5 อีก 4.5-6.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมถึงวันอาทิตย์ประมาณ 255-260 ล้านเหรียญ ผ่านหลัก 250 ล้านได้ในที่สุด
The Bad Guys 2 (Universal)
รายได้ของ The Bad Guys 2 ลดลงด้วยสัดส่วนมากกว่าเรื่องอื่นในวันธรรมดา และเพิ่มสูงด้วยสัดส่วนมากกว่าเรื่องอื่นในวันหยุดและ Discount Day แสดงให้เห็นว่าเป็นหนังครอบครัวที่พ่อแม่พาลูกๆไปดูที่โรงอย่างชัดเจน ถึงสุดสัปดาห์ที่ 4 นี้วายร้ายพันธุ์ดีจะได้รับผลกระทบจาก Kpop Demon Hunters รองลงมาจาก Freakier Friday เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆแต่น่าจะน้อยกว่ามาก ทำให้ The Bad Guys 2 น่าจะทำเงินไปอีก 4-5 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปอยู่ที่ช่วง 65-67 ล้านเหรียญ ยังพอมีโอกาสไปถึง 100 ล้านแม้ค่อนข้างจะยากมากก็ตาม
Nobody 2 (Universal)
คนธรรมดา นรกเรียกพี่ภาค 2 ที่เปิดตัวแรงกว่าภาคแรกนิดหน่อย แต่ดูเหมือนว่าจะยืนระยะไม่ดีซักเท่าไหร่จากเกรด CinemaScore ที่ได้ไปแค่ B+ คาดว่าจะทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 2 นี้ 3.5-4.5 ล้านหเรียญ รายได้รวมประมาณ 15-17 ล้านเหรียญ
Ne Zha II (CMC / A24)
กลับมาอีกครั้งในรูปแบบพาษ์อังกฤษสำหรับภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงที่สุดของปี ณ ขณะนี้ Ne Zha II ที่กลับมาฉายในโรงปกติและโรง IMAX ทั่วอเมริกาเหนือ โดยคาดกันว่า Ne Zha II (English Dubbed Re-release) จะทำรายได้ไปประมาณ 3-5 ล้านเหรียญ ทั้งนี้จากการเปิดตัวฉายแบบภาษาจีนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เทพนาจาทำเงินเปิดตัวไป 7.7 ล้านเหรียญ และรายได้รวม 20.9 ล้านเหรียญ การกลับมาอีกครั้งในรูปแบบพาษ์อังกฤษน่าจะเรียกเงินจากผู้ชมชาวอเมริกันที่ปกติทั่วไปไม่ชอบอ่านซับกันได้อีกพอสมควร