[CR] รีวิว+วิเคราะห์เรื่องทาโกปี้ ฉบับคนชอบดูการ์ตูนธรรมดา (สปอยล์เยอะ)



ดูจบมาจะ 2 อาทิตย์ละ พึ่งมาขยันรีวิว ดังนั้นโปรดเข้าใจเราด้วย หากมีการเล่าซีนที่วิเคราะห์ในหัวไว้สลับลำดับกันนะ

ช่วงรีวิว - ขอเริ่มที่ลายเส้นก่อน ทีมอนเมชั่นเก็บรายละเอียดภาพลายเส้นมังงะมาดีมาก ชอบสุดๆ ลายเส้นคือน่ารักมาก ตัวละครในเรื่องน้อย เล่นง่าย ประเด็นไม่ต้องเว่อร์วังอลังการ ค่อนข้างเรียล จับต้องได้ นี่เชื่อมากว่าหลายๆ คนต้องเข้าใจความรู้สึกหรือประสบกับสิ่งที่เด็กในเรื่องเคยได้รับมาบ้างแหละ ตอนจบดี  เคลียร์ปมสำคัญหมด แค่มีบางอย่างที่อยากรู้เพิ่มเติม(เดี๋ยวเขียนในช่วงวิเคราะห์)เฉยๆ เนื้อเรื่องเครียดไหม มันก็เครียดจริงจังแหละ แต่นี่เป็นคนชอบงานแนวนี้(มาก)อยู่แล้ว เลยดูชิลๆ แต่ยังไงก็อย่างที่คนเตือนกัน ว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ทำมาเพื่อทุกคนจริงๆ

วิเคราะห์:-

นี่เข้าใจว่าคนเขียนตั้งใจสร้างน้องทาโกปี้มาให้เต็มไปด้วยความบริสุทธ์เพื่อสะท้อนถึงทั้งผู้ใหญ่และเด็ก อย่างในตอนแรกที่น้องมาเจอชิซุกะ แล้วอวดของวิเศษเยอะเเยะ เพื่อจะทำให้ชิซุกะจังมีความสุข โดยที่แม้ชิซุกะจะบอกว่าไม่ต้องการ ก็ยังเอาของออกมาโชว์เรื่อยๆ พอชิซุกะบอกว่า ไม่ว่าจะเอาอะไรออกมา ก็ไม่สามารถทำให้น้องยิ้มหรือว่ามีความสุขได้หรอกนะ แต่ทาโกปี้ก็ยังยืนยันว่าตัวเองต้องมีแน่ๆ นี่มองว่าคนเขียนตั้งใจใช้ซีนนี้มาสะท้อนถึงผู้ใหญ่ที่ไม่เคยสนใจจะฟังเสียงของเด็กๆ เอาแต่พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี โดยไม่สนใจจะถามเลยว่าเด็กเหล่านั้นต้องการหรือกำลังมีปัญหาอะไรอยู่กันแน่ ยิ่งซีนที่ชิซุกะเริ่มพูดเรื่องที่ตัวเองกำลังมีปัญหากับเพื่อนอยู่ คือยิ่งชัดมาก ตอนที่ทาโกปี้ตอบกลับไปแค่ว่า ทะเลาะกับเพื่อนก็แค่ไปคุยกันสิ จะได้ปรับความเข้าใจกัน เพราะผู้ใหญ่ในชีวิตจริง ที่ไม่รู้รายละเอียดหรือไม่เข้าใจความรู้สึกของการอยู่ตรงนั้นก็คงตอบเเบบนี้เหมือนกันแน่ๆ

ทุกๆ วันที่เจอกับชิซุกะ ทาโกปี้เอาแต่พยายามหาเรื่องทำให้ชิซุกะยิ้ม โดยที่ไม่เคยพยายามจะรับรู้เรื่องราวที่ชิซุกะจังต้องเผชิญมาบ้างเลย กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ให้โบว์กับชิซุกะไปแล้ว จนเธอเอามันไปใช้ผูกคอตาย

จนในที่สุด ก็เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองควรจะสนใจตัวชิซุกะมากกว่านี้ หลังจากที่ย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขใหม่ ครั้งนี้เลยตั้งใจตามไปดูชิซุกะจังที่โรงเรียนด้วยกัน


ซึ่งตั้งแต่ช่วงนี้ไป เรามองว่านักเขียนจะใช้ทาโกปี้ในการสะท้อนถึงเด็กที่เปรียบเสมือนผ้าขาวบริสุทธ์เพียวๆ แทนละ (ความจริงน่าจะตั้งแต่ตอนที่น้องเห็นชิซุกะผูกคอตายแหละ ที่ยังไม่เข้าใจว่านี่คือการตาย แต่คิดว่าน้องแค่ไปห้อยตัวเล่นเฉยๆ ก่อน)

ทาโกปี้แทบดูไม่ออกเลย ว่าสิ่งที่ชิซุกะกำลังเจออยู่คือการถูกคนรังแก แล้วอะไรกันแน่ที่เป็น Pain Point ของชิซุกะจริงๆ เช่นพอชิซุกะตอบคำถามครูไม่ได้ ก็เข้าใจว่าสิ่งที่เป็นเหตุผลที่ทำให้น้องรู้สึกเสียใจคือการทำการบ้านไม่ได้เฉยๆ หรือการแต่แค่การกินข้าวกลางวันไม่หมด แต่เอาจริงๆ มันมากกว่านั้น เพราะจริงๆ แล้วชิซุกะกำลังโดนเพื่อนรุมบูลี่อยู่โดยที่ไม่เคยมีใครสนใจมากพอจะยื่นมือเข้ามาช่วยเลยตังหาก

สังเกตุได้เลย จากที่น้องโดนเขียนด่าไปชัดขนาดนี้ ทั้งบนเป้และกระเป๋านักเรียน ครูยังไม่สังเกตุเลย เรื่องโต๊ะพอปล่อยได้ เพราะครูคงไม่ไปดู แต่โรงเรียนประถมมันต้องมีครูคอยคุมที่ประตูตอนเด็ก-เข้าออกจากโรงเรียนนี่ จะไม่เคยมีใครสังเกตุเลยเหรอ ว่าเด็กคนนี้โดนเพื่อนเขียนด่าไว้บนกระเป๋านักเรียน

เรื่องมันก็พอแก้ไขไปได้ก็จริง แต่ในการย้อนเวลาครั้งนี้ ก็ทำให้ทาโกปี้ได้รู้จักตัวชิซุกะมากขึ้นจริงๆ ยิ่งรอบนี้ชิซุกะไม่ได้ฆ่าตัวตายด้วย จึงทำให้ทาโกปี้ได้เห็นช่วงเวลาที่บ้านของชิซุกะ จึงได้รู้ว่าที่บ้านเธอนอกจากมีแค่แม่(ที่ไม่เคยอยู่ในเห็นตัว)กับแชปปี้ที่เป็นสุนัขเท่านั้น จริงๆ แล้วเธอเคยมีคุณพ่ออยู่ด้วย(จากที่เคยคิดว่ามนุษย์มีแค่แม่ก็ได้)

แต่ทาโกปี้ก็ยังคิดเหมือนเดิม เรื่องที่แค่เพื่อนทะเลาะกัน หากได้พูดคุยกันแบบเปิดอกก็คงคืนดีและกลับมาคุยกันได้ พอได้ลองแปลงเป็นชิซุกะแล้วไปเจอมารินะจริง ถึงได้รู้ว่าที่นี่ไม่เหมือนดาวแฮปปี้ที่ตัวเองจากมาเลย

พอเด็กน้อยได้เรียนรู้โลกของการเป็นผู้ที่อยู่ข้างล่างและขัดขืนไม่ได้ ถึงได้เข้าใจชิซุกะอย่างแท้จริง ว่าทำไมถึงไม่กล้าไปคุยกับมารินะเลย เพราะพอเจอมารินะรังแกครั้งนี้ ทาโกปี้ก็กลัวมากเหมือนกัน จนเป็น Turning Point ให้รู้ว่าตัวเองคนเดียวทำอะไรไม่ได้จริงๆ และเลือกที่จะวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่แทน

หลังจากนั้นนี่ว่าก็ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรให้วิเคราะห์มากนัก จนกระทั่งตัดไปโชว์ให้เรารู้เรื่องบ้านของมารินะ ที่เกิดปัญหาระหองระแหงขึ้น จนกลายเป็นปัญหาระหว่างพ่อกับแม่ ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจ ว่าทำไมมารินะถึงได้เกลียดชิซุกะขนาดนี้ ถึงขนาดยอมปล่อยให้ตัวเองเจ็บตัว จงใจไปตามหาตอนชิซุกะพาแชปปี้ไปเดินเล่น แล้วยัวให้ตัวเองโดนแชปปี้กัด จะได้ให้คนมาจับแชปปี้ไป เพราะที่บ้านพ่อของมารินะไปคบชู้กับแม่ของชิซุกะ แถมคุณแม่ของมารินะยังคอยกลอกหูลูกทุกวันเรื่องนี้อีก ดังนั้นชิซุกะและแม่จะกลายเป็นตัวร้ายในความคิดของมารินะก็ไม่แปลกเลย

ส่วนเหตุผลที่มารังแกชิซุกะอย่างหนัก นั่นก็เป็นเพราะว่าชิซุกะเป็นอะไรเพียงอย่างเดียวที่มารินะจับต้องได้ สำหรับความคิดที่ว่าจะทำอะไรเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาในบ้านตัวเอง

เพราะเอาจริงๆ เรื่องความสัมพันธ์ผัวแม่ ไปรังแกที่ลูกมันไม่มีผลอะไรหรอก แต่ในความคิดของเด็กอายุแค่นี้ คงมองว่าการจัดการตัวร้ายในชีวิตขอตัวเอง คงเหมือนการได้แก้ไขบางอย่างแล้ว

ชิซุกะที่กลายเป็นสิ่งเดียวที่มารินะสามารถจับต้องได้สำหรับการปลดปล่อยหรือระบายความรู้สึกโกรธหรืออดกลั้นตอนอยู่กับแม่ที่บ้าน เลยต้องรับความเจ็บปวดส่วนนี้ไป

จนมาซีนที่ชิซุกะอ้อนวอนขอร้องมารินะให้ยอมรับว่าแชปปี้ยังไม่ตายอย่างที่ตัวเองคิด ส่วนนี้คือจุดที่นักเขียนตั้งใจจะแสดงให้เราเห็นแหละ ว่าแชปปี้คือแสงสว่างเดียวในชีวิตของชิซุกะจริงๆ เพราะตลอดเวลาที่โดนรังแกมา ชิซุกะก็จะยิ้มได้ตอนที่กลับบ้านมาเจอแชปปี้ตลอด พอสิ่งนี้หายไป มันก็เหมือนจุดประสงค์หรือเหตุผลในการมีชีวิตต่อของเด็ฏคนนี้ได้หายไปเรียบร้อยแล้ว

ตัดมาที่ซีนทาโกปีฆ่ามารินะตายต่อ จากที่เราคิดไว้ว่าอาจารย์ตั้งใจให้ทาโกปี้เหมือนผ้าขาว ที่ยังไม่เข้าใจโลกนัก ณ จุดนี้ทาโกปี้เอง ยังไม่รู้สึกผิดหรือกลัวเลย ตอนนี้มารินะตาย เพราะคิดแต่ว่า ถ้าผิดตัวเองก็แค่ย้อนกลับไปใหม่ไง ทาโกปี้เลยไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำความผิดอยู่ แม้ตอนที่รู้ว่าย้อนไปไม่ได้แล้ว ก็ยังไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยว่าตัวเองได้ฆ่าหนึ่งชีวิตไปแล้ว

แต่ที่ตลกร้ายคงเป็นการที่ชิซุกะเองก็ไม่ได้รู้สึกผิดเลยเหมือนกัน แถมไม่มีแม้แต่ความกลัวด้วยซ้ำ แถมยังดีใจมากอีกต่างหาก เพราะสำหรับชิซุกะ มารินะคือตัวร้ายในชีวิต ที่คอยทำให้แต่ละวันของน้องไม่มีความสุขเลยเหมือนกัน นี่เลยเหมือนแค่ว่าตัวร้ายคนนั้นหายไปแล้วเฉยๆ


ส่วนอาซุมะคุง นี่ว่าเอตรงๆ ก็ยังเป็นเด็กที่ไม่เข้าใจเรื่องศีลธรรมอะไรขนาดนั้นเหมือนกัน เพราะจากซีนที่บอกให้ชิซุกะไปมอบตัว น้งก็แค่บอกว่าการทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ ตำรวจจะจับ ซึ่งนี่แสดงให้เราคิดว่า เด็กๆ ก็ไม่เข้าใจหรอกว่าการฆ่าคนมันร้ายแรงแค่ไหน แค่มองว่า เอ้อ นี่คือการทำผิดนะ ตำรวจจะจับ งั้นไปมอบตัวก่อนสิ โทษจะได้เบาลง

จนต่อมาที่ทาโกปี้ได้ปลอมตัวเป็นมารินะไปที่บ้าน ทาโกปี้เองก็ยังไม่เข้าใจอีกเหมือนกัน ว่าการทะเลาะกันอย่างรุนแรงของพ่อแม่คืออะไร กลับคิดว่าแค่ว่าพ่อแม่สนิทกันจังนะ คุยกันทุกวันเลยซะงั้น แต่มันก็ทำให้เราเห็นด้วย ว่าพ่อเองก็ไม่ได้สนใจลูกสาวเลย ตรงข้ามกับแม่ที่รู้เลยว่านี่ไม่ใช่ลูกสาวตัวเอง

จนนี่ก็ทำให้ทาโกปี้ได้รู้สักที ว่าการที่ตนฆ่ามารินะไป จริงๆ แล้วมันเลวร้ายแค่ไหน แม้ว่ามารินะจะเป็นต้วร้ายสำหรับชิซุกะยังไง แต่เธอก็ยังเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีใครสักคน(แม่)รักเธอมากเหมือนกัน ซึ่งการฆ่าเธอไปนั้น ก็คือการทำร้ายจิตใจของคนที่รักเธอมากนั่นเอง

ส่วนบ้านอาซุมะ บอกเลยว่าแม่เลี้ยงลูกแย่มาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการที่เปรียบเทียบลูกสองคนนะ วิธีการกระตุ้นให้ลูกเรียนคือแย่จริง เอาของมาวางตรงหน้าลูกแล้วดึงกลับ คือเลวร้ายมากสำหรับเด็กอายุแค่นี้อ่ะ เข้าใจเลยว่าทำไมพอชิซุกะเชื่อใจว่าอาซุมะจะทำเรื่องสำคัญได้ น้องถึงดีใจมาก ดีใจจริงๆ ที่ตอนจบน้องได้มีพี่ชายมาอยู่ข้างตัวเองแล้ว

บทพูดตอนอาซุมะบอกทาโกปี้ว่าครั้งหน้าถาเจอกัน บอกให้น้องทะเลาะกับพี่ชายก็ดีนะ มันทำให้นึกถึงคำว่า ยิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งรักกันจริงๆ

อีกพาร์ทของความตลกร้ายคือ ตอนที่ทาโกปี้จำได้ ว่าจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ตัวเองตั้งใจจะทำให้มารินะยิ้มมาก่อน แล้วตั้งใจจะมาฆ่าชิซุกะเพราะคิดว่าชิซุกะคือตัวร้ายในชีวิตของมารินะ แต่พอมาเจอชิซุกะ มารินะนี่แหละคือตัวร้ายในชีวิตของชิซุกะ

จนน้องตัดสินใจไม่ได้ว่าควรทำยังไง เพราะจะฆ่าก็ไม่ได้ เพราะการฆ่ามันทำให้คนเสียใจ

อย่างซีนออกเดินทางไปหาแชปปี้ ตอนชิซุกะเจอพ่อตัวเองคือน่าสงสารจริง เพราะการที่เด็กคนนึงจะยอมรับว่าพ่อของตัวเอง เป็นพ่อของคนอื่นที่ไม่ได้เป็นพี่น้องของตัวเองจริงๆ มันยากนะ การมองว่าพ่อของตัวเองกลายเป็นพ่อของคนอื่นไปแล้ว นอกจากเสียใจเรื่องนี้ ยังต้องช็อค 2 ว่าแชปปี้ที่คิดว่าอยู่กับพ่อยังไม่มีอีก ยิ่งน้องเอาแชปปี้มาเป็นความหวังในการมีชีวิต ทำให้น้องยิ่งฝังใจ น้องเลยเชื่อไปแล้วว่าแชปปี้เคยมาที่นี่จริงๆ จนเชื่อว่าบ้านนี้กินแชปปี้ไปแล้ว จนพยายามจะเช็คกระเพาะอีก

ทุก Elements ในเรื่องมันทำให้เด็กๆ ที่พึ่งเกิดมาไม่กี่ปี ยังไม่ได้เข้าใจโลกขนาดนั้น พยายามปกป้องตัวเองด้วยวิธีที่ผิดจนกลายเป็นเรื่องเลวร้ายใหญ่โตไปหมดจริงๆ


ซีนที่ชิซุกะระเบิดความอัดอั้นทั้งหมดออกมาจนทำร้ายทาโกปี้ มันคือสุดแล้วจริงๆ สำหรับเด็กคนนี้ ยิ่งประโยคที่ชิซุกะถามว่าตัวเองเป็นแบบนี้ ทำให้นึกคนที่คนบอกคนร้องไห้ ว่าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องร้องไห้เลย การที่คนเราทำอะไรบางอย่างไม่ได้ หรือไม่มีอะไร มันไม่ควรผิดสิ

นี่เลยดีใจที่ตอนจบทาโกปี้ Reset เรื่องราวทั้งหมดใหม่ โดยครั้งนี้ชิซุกะและมารินะสามารถเป็นเพื่อนกันได้แล้ว แถมครั้งนี้มารินะยังสนิทกับชิซุกะมาก ระดับที่พูดคุยเรื่องแม่ที่ป่วย(ทางจิต)ของตัวเองที่ไม่เคยพูดกับเพื่อนคนไหนเลยด้วย ตอนจบเด็กทั้ง 3 มีความสุขขึ้นแล้วจริงๆ


แต่แอบเสียดาย ที่เขาไม่อธิบายตอนจบของน้อง ว่าน้องตายเหรอ แค่สละร่างกายจนเหมือนกลายเป็นวิญญาณที่เด็กๆ มองไม่เห็นแล้วแทน หรือหายไปเลย มีแค่เสียงบรรยายที่พวกเราได้ยินกันเฉยๆ

โดยรวมชอบเรื่องนี้นะ ดูเพลินดี แต่โปรดอย่าเอาเรื่องนี้ไปหลอกคนอื่นว่าใสๆ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโอเคกกับอะไรแบบนี้ อาจมีคนซึมเศร้าที่หวังหาอะไรฮีลใจมาโดนคุณหลอกจนเขาที่ไปดูแล้ว ต้องเสียใจหนักกว่าเดิมแทนก็ได้
ชื่อสินค้า:   กำเนิดบาปทาโกปี้
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่