กัมพูชาลอบกัด! ทำหลุมขวากในพี้นที่ “ภูมะเขือ” ผิดหลักมนุษยธรรม
.
.
เพจดังแฉ! ทหารกัมพูชาลอบกัด ทำ “หลุมขวาก” ในพี้นที่ “ภูมะเขือ” ชี้เสี่ยงต่อพลเรือน ผิดอนุสัญญาเจนีวา-อนุสัญญา CCW
.
จากสถานการณ์สู้รบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แม้ตอนนี้ไทยและกัมพูชาจะมีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว แต่ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชามีการกระทำหลายอย่างที่เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทั้งการฝังทุ่นระเบิด และล่าสุดพบการทำหลุมขวากด้วย
.
โดยเรื่องดังกล่าว เพจ “กองทัพบก ทันกระแส” ได้โพสต์ภาพทหารกัมพูชากำลังทำกับดัก “หลุมขวาก” พร้อมระบุข้อความว่า
“โหดร้ายและลอบกัด หลุมขวาก คือ เครื่องมือดักสัตว์ หรือคน ทำด้วยไม้ หรือเหล็กปลายแหลม ใช้งานโดยปักด้ามลงไปในหลุมดิน พรางตาด้วยตะแกรงไม้ และใบไม้
.
พบในพี้นที่ภูมะเขือ ชี้ชัดกัมพูชาทำจริง เป็นกับดักที่เสี่ยงต่อพลเรือน ซึ่งละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศผิดอนุสัญญาเจนีวา และอนุสัญญา CCW (Protocol II)
.
.
.
ชาวบ้านอพยพเหตุ ‘ไทย’ ปะทะ ‘เขมร’ กลับมาบ้านเจอบิลค่าไฟกว่า 2 พันบาท งง…ไหนรัฐบอกเยียวยา
https://www.dailynews.co.th/news/5035408/
.
ชาวบ้านพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่อหลังลี้ภัยสงคราม ช่วงการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา พอกลับมาบ้านสุดงง??? เจอบิลค่าไฟเรียกเก็บกว่า 2 พันบาท สงสัยรัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านจริงหรือไม่?
.
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในเขต อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงระหว่างมีการปะทะกัน ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ว่า หลังจากเกิดการรบพุ่งกันในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 68 ขณะนั้นชาวบ้านได้อพยพไปอยู่ที่อื่น แต่ปรากฏว่า หลังจากกลับมาอยู่บ้านแล้วพบว่า มีบิลเรียกเก็บค่าไฟพุ่งสูงถึง 1-2 พันบาทกันแบบถ้วนหน้า จึงอยากถามถึงรัฐบาลว่า ที่ประกาศเอาไว้ว่า จะไม่เก็บค่าน้ำค่าไฟกับผู้เดือดร้อนจากการปะทะกัน 2 เดือนนั้นจริงหรือไม่อย่างไร
.
โดย นาย
วิทยา ส่วงเมา อายุ 38 ปี ชาวบ้านสายโท 5 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับจ้าง เล่าว่า ช่วงที่อพยพอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวแต่ละคนต่างเป็นห่วงบ้านห่วงสัตว์เลี้ยงที่ปล่อยทิ้งไว้ตามลำพัง ถึงแม้เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์พักพิงจะให้การดูแลเป็นอย่างดี มีข้าวปลาอาหารเลี้ยงทุกมื้อก็ตามแต่ใจก็มีความกังวลอยู่ลึกๆ จนบางครั้งนอนไม่หลับ จนกระทั่งทราบข่าวว่ารัฐบาลจะมีการช่วยเหลือเยียวยา งดเก็บค่าน้ำค่าไฟให้กับประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยความไม่สงบแนวชายแดน ด้วยการลดภาระไม่ขอเก็บค่าน้ำค่าไฟให้กับผู้เดือดร้อนเป็นเวลา 2 เดือน
.
แต่พอมาวันนี้ (20 ส.ค.68) มาเห็นบิลค่าไฟแล้วตกใจ เพราะมียอดสูงถึงกว่า 2,000 บาท ยอมรับว่าตอนนี้ไม่มีเงินจ่ายและไม่รู้ว่าการไฟฟ้าจะมาตัดไฟวันไหน คงต้องรอเงินเยียวยาครอบครัวละ 3,000 บาท เอามาจ่ายค่าไฟ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้มาเมื่อไหร่อีกเช่นกัน จึงอยากจะฝากถามรัฐบาลถึงกรณีการเยียวยาไม่เก็บค่าน้ำค่าไฟดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่
.
สำหรับมาตรการการเยียวยาของรัฐบาลช่วยเหลือชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา (สุรินทร์, ศรีสะเกษ, บุรีรัมย์, อุบลราชธานี) ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ งดเว้นค่าสาธารณูปโภค ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) งดเว้นการเก็บค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาเป็นเวลา 2 เดือน (กรกฎาคม-สิงหาคม) ในพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด ทั้งบ้านเรือนประชาชนและศูนย์อพยพ เพิ่มเงินเยียวยาผู้สูญเสีย เจ้าหน้าที่รัฐ (ทหาร/ตำรวจ) ได้รับ 10 ล้านบาทต่อราย ประชาชนได้รับ 8 ล้านบาทต่อราย (จากเดิม 1 ล้านบาท) ผู้บาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่รัฐ 5 แสนบาท, ประชาชน 4 แสนบาท
.
ขยายงบฉุกเฉินให้ผู้ว่าฯ เพิ่มวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าฯ 7 จังหวัดชายแดน เป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาท (จากเดิมจังหวัดละ 20 ล้านบาท) เพื่อความคล่องตัวในการช่วยเหลือ และอนุมัติเบี้ยเลี้ยง ชรบ. เตรียมนำเรื่องเข้า ครม. เพื่ออนุมัติค่าตอบแทนให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รวม 32,740 นาย ใน 7 จังหวัด วงเงินประมาณ 117 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ.
.
.
เครือข่ายประชาชน ยื่นชงกมธ.ป.ป.ช. เชิญปลัดสธ.แจงผลสอบหมอสุภัทร คลายข้อกังขาสังคม
.
‘เครือข่ายประชาชนเข้มแข็ง’ ร้องขอความเป็นธรรม ขอ ‘กมธ.ป.ป.ช.’ เรียกปลัด สธ.แจงปมผลสอบ ‘หมอสุภัทร’ คลายข้อกังขาแก่สังคม
.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) รับยื่นหนังสือจากเครือข่ายประชาชนเข้มแข็ง เพื่อส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบกรณี นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท มีผลสอบวินัยร้ายแรงเรื่องการจัดซื้อชุดตรวจเอทีเคสมัยโควิด-19 ระบาด
.
โดย เลขาธิการเครือข่ายประชาชนเข้มแข็ง กล่าวว่า จากกรณีที่มีการสอบสวน นพ.สุภัทร ซึ่งมีผลออกมาว่า เป็นความผิดวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการนั้น มีความเคลือบแคลงสงสัยจากสังคมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการตรวจสอบเฉพาะเจาะจง ทั้งมีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณคนปัจจุบัน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในกระบวนการทำงาน ช่วงสถานการณ์โควิด-19 จากชมรมแพทย์ชนบทเป็นอย่างสูง ซึ่งมีข้อกังขาว่า การตรวจสอบในครั้งนี้ จะเป็นการเลือกปฏิบัติ เลือกตรวจสอบเฉพาะกรณีของ นพ.สุภัทร ทั้งยังอาจมีความไม่พอใจส่วนตัว
.
เลขาธิการเครือข่ายประชาชนเข้มแข็ง กล่าวต่อว่า ดังนั้น เครือข่ายประชาชนเข้มแข็งจึงเรียกร้องขอให้ กมธ.ป.ป.ช. เรียกปลัดกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจงต่อกมธ.ฯ และผู้ร้อง เพื่อทำให้ประเด็นนี้ มีความโปร่งใส แสดงข้อมูลหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับ นพ.สุภัทร และสร้างความเป็นธรรมาภิบาลในระบบการตรวจสอบ คลายความสงสัยของสังคม
.
ด้าน นายนิติพลกล่าวว่า ประเด็นนี้สำคัญมาก เพราะช่วงโควิด-19 ที่ประชาชนคนไทยเจ็บป่วยล้มตายจำนวนมาก ก็ได้ นพ.สุภัทร มาเป็นตัวตั้งตัวตีในการให้ความช่วยเหลือ
JJNY : ทำหลุมขวากผิดหลักมนุษยธรรม│‘ไทย’ปะทะ‘เขมร’กลับมาเจอบิลค่าไฟ│ยื่นชงกมธ.ป.ป.ช.เชิญปลัดสธ.แจง│รัสเซียไม่สนใจเจรจา
.
ชาวบ้านอพยพเหตุ ‘ไทย’ ปะทะ ‘เขมร’ กลับมาบ้านเจอบิลค่าไฟกว่า 2 พันบาท งง…ไหนรัฐบอกเยียวยา
https://www.dailynews.co.th/news/5035408/
.
ชาวบ้านพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่อหลังลี้ภัยสงคราม ช่วงการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา พอกลับมาบ้านสุดงง??? เจอบิลค่าไฟเรียกเก็บกว่า 2 พันบาท สงสัยรัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านจริงหรือไม่?
.
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในเขต อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงระหว่างมีการปะทะกัน ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ว่า หลังจากเกิดการรบพุ่งกันในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 68 ขณะนั้นชาวบ้านได้อพยพไปอยู่ที่อื่น แต่ปรากฏว่า หลังจากกลับมาอยู่บ้านแล้วพบว่า มีบิลเรียกเก็บค่าไฟพุ่งสูงถึง 1-2 พันบาทกันแบบถ้วนหน้า จึงอยากถามถึงรัฐบาลว่า ที่ประกาศเอาไว้ว่า จะไม่เก็บค่าน้ำค่าไฟกับผู้เดือดร้อนจากการปะทะกัน 2 เดือนนั้นจริงหรือไม่อย่างไร
.
โดย นายวิทยา ส่วงเมา อายุ 38 ปี ชาวบ้านสายโท 5 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับจ้าง เล่าว่า ช่วงที่อพยพอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวแต่ละคนต่างเป็นห่วงบ้านห่วงสัตว์เลี้ยงที่ปล่อยทิ้งไว้ตามลำพัง ถึงแม้เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์พักพิงจะให้การดูแลเป็นอย่างดี มีข้าวปลาอาหารเลี้ยงทุกมื้อก็ตามแต่ใจก็มีความกังวลอยู่ลึกๆ จนบางครั้งนอนไม่หลับ จนกระทั่งทราบข่าวว่ารัฐบาลจะมีการช่วยเหลือเยียวยา งดเก็บค่าน้ำค่าไฟให้กับประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยความไม่สงบแนวชายแดน ด้วยการลดภาระไม่ขอเก็บค่าน้ำค่าไฟให้กับผู้เดือดร้อนเป็นเวลา 2 เดือน
.
แต่พอมาวันนี้ (20 ส.ค.68) มาเห็นบิลค่าไฟแล้วตกใจ เพราะมียอดสูงถึงกว่า 2,000 บาท ยอมรับว่าตอนนี้ไม่มีเงินจ่ายและไม่รู้ว่าการไฟฟ้าจะมาตัดไฟวันไหน คงต้องรอเงินเยียวยาครอบครัวละ 3,000 บาท เอามาจ่ายค่าไฟ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้มาเมื่อไหร่อีกเช่นกัน จึงอยากจะฝากถามรัฐบาลถึงกรณีการเยียวยาไม่เก็บค่าน้ำค่าไฟดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่
.
สำหรับมาตรการการเยียวยาของรัฐบาลช่วยเหลือชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา (สุรินทร์, ศรีสะเกษ, บุรีรัมย์, อุบลราชธานี) ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ งดเว้นค่าสาธารณูปโภค ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) งดเว้นการเก็บค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาเป็นเวลา 2 เดือน (กรกฎาคม-สิงหาคม) ในพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด ทั้งบ้านเรือนประชาชนและศูนย์อพยพ เพิ่มเงินเยียวยาผู้สูญเสีย เจ้าหน้าที่รัฐ (ทหาร/ตำรวจ) ได้รับ 10 ล้านบาทต่อราย ประชาชนได้รับ 8 ล้านบาทต่อราย (จากเดิม 1 ล้านบาท) ผู้บาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่รัฐ 5 แสนบาท, ประชาชน 4 แสนบาท
.
ขยายงบฉุกเฉินให้ผู้ว่าฯ เพิ่มวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าฯ 7 จังหวัดชายแดน เป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาท (จากเดิมจังหวัดละ 20 ล้านบาท) เพื่อความคล่องตัวในการช่วยเหลือ และอนุมัติเบี้ยเลี้ยง ชรบ. เตรียมนำเรื่องเข้า ครม. เพื่ออนุมัติค่าตอบแทนให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รวม 32,740 นาย ใน 7 จังหวัด วงเงินประมาณ 117 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ.
.
.