
.
โรม จี้ รัฐบาล ยกระดับปราบ ฮุน เซน ด้วยการฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ ชี้ ไทยไม่ได้เป็นภาคีก็ฟ้องได้ ระบุ จับเข้าคุกในประเทศไม่ใช่สิ่งที่ เขมร กลัว บอกตามองค์ประกอบ ไทย ไม่ได้เสียหายฝ่ายเดียว แต่มี คอลเซ็นเตอร์ ที่นานาชาติโดนด้วย ด้าน เท้ง แนะกดดันทุกช่องทาง ขณะชาวบ้านอุบลฯ บุกถาม ชนวนขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา เกิดเพราะใคร
.
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลดำเนินคดีอาญากับฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยหากพบที่ประเทศไทยสามารถจับกุมได้ทันที ว่า
.
การดำเนินการผ่านกระบวนการยุติธรรมในประเทศไม่ใช่สิ่งที่กัมพูชากลัวที่สุด แต่ก็ต้องดำเนินการ ซึ่งการลงพื้นที่มาเห็นผู้ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถเป็นผู้ร้องเรียนได้ แต่จู่ๆ ชาวบ้านจะไปร้องเรียนเองก็เป็นไปไม่ได้ ต้องดำเนินการโดยรัฐบาล ที่อำนวยความสะดวกในการร้องเรียน
ขณะเดียวกัน กัมพูชาก็เป็นภาคีอนุสัญญาศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) อยู่แล้ว ถึงแม้ประเทศไทยจะไม่เป็นภาคี กระบวนการจะยกระดับไปสู่ศาล ICC ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องไปให้สัตยาบัน ตนจึงอยากให้รัฐบาลยกระดับ เพราะถือเป็นสิ่งการันตี จะทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่เกิดความขัดแย้งตามแนวชายแดนแบบที่ผ่านมา
.
มากกว่านั้น โดยเฉพาะภาพเหตุการณ์ที่เกิดที่ช่องอานม้า เมื่อช่วงเช้า สะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะของกัมพูชา แต่อีกด้านหนึ่งที่ประชาชนมองคือ ความกังวลที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงกว่าการปะทะคารม หรือการผลักกันหรือไม่ ทำให้ประชาชนตามแนวชายแดนรู้สึกไม่มั่นใจ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการศึกษา
.
วันนี้เด็กบางคนตัดสินใจไม่ไปโรงเรียน เพราะไม่รู้ว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นครอบครัวจะมีความพร้อมในการอพยพหรือไม่ ดังนั้น หากอยากทำให้เป็นหลักประกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก การฟ้องศาล ICC สามารถทำได้ และไม่ได้เอาผิดเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับไทยเท่านั้น
.
แต่สามารถหยิบประเด็นอื่น เช่น คอลเซ็นเตอร์ ที่เข้าองค์ประกอบและมีหลักฐานชัดเจนว่าผู้นำกัมพูชามีส่วนเกี่ยวข้อง การโจมตีที่มีเป้าหมายพลเรือน ประกอบกับปัญหาคอลเซ็นเตอร์ที่ทุกประเทศได้รับผลกระทบด้วย ตนเชื่อว่าสามารถสร้างเสถียรภาพตามพื้นที่แนวชายแดน และทำให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ภาวะปกติที่สามารถนั่งคุยเจรจาได้อย่างประเทศศิวิไลซ์ที่หาทางออกเลื่อนเส้นเขตแดน
.
เมื่อถามว่า ทำไมประเทศไทยถึงไม่ยอมฟ้องฮุน เซน ต่อศาล ICC นายรังสิมันต์กล่าวว่า รัฐบาลคงไม่เข้าใจว่า ICC มีกลไกอย่างไร และต้องยอมรับว่าไทยหลีกเลี่ยงกระบวนการระหว่างประเทศ เพราะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับเรื่องนี้ และเชื่อมั่นในกลไกทวิภาคี ซึ่งกลไกทวิภาคีเป็นกลไกที่สำคัญและต้องมาลงรายละเอียดกัน
.
การที่จะให้คนอื่นมาลงรายละเอียดแทนเราเป็นไปไม่ได้ ต้องยอมรับว่ากัมพูชาไม่ยอมใช้กลไกทวิภาคี แต่ถ้ามีกลไกใดที่ทำให้การเจรจากลับเข้าสู่วงทวิภาคีได้ คือการใช้กลไก ICC ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าหากปล่อยให้สถานการณ์บานปลายออกไป จากเดิมสถานการณ์ความขัดแย้งของคนไม่กี่คนใน 2 ประเทศ จะขยายตัวกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างคนไทยและกัมพูชา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะจุดเริ่มต้นความขัดแย้งไม่ได้เกิดจากคนไทยและกัมพูชา
ระหว่างสัมภาษณ์ มีชาวบ้านถามว่าความขัดแย้งเกิดจากใคร นายรังสิมันต์กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่ามีสาเหตุจากอะไร แต่หากอ้างอิงตามที่กระทรวงการต่างประเทศระบุไว้ คือเป็นปัญหาระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล เพราะฉะนั้น หากไม่อยากให้ความขัดแย้งขยายตัว ควรจบปัญหาที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด จะได้กลับมาฟื้นฟูมีความมั่นใจเรื่องการลงทุน
.
ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องใช้กลไกที่มีอยู่ทั้งระบบยุติธรรมในประเทศและต่างประเทศ ไม่สามารถดำเนินการด้วยกลไกอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ต้องดำเนินการกดดันในทุกช่องทาง
.
.
มทภ.2 หนุนรัฐบาลฟ้อง พ่อลูกตระกูลฮุน ผิดอาชญากรสงคราม จ่อรวมหลักฐานส่งตร.-อสส.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5330120
.
มทภ.2 ซัด เขมร ไร้มารยาท ป่วนคณะคณะทูตที่ช่องอานม้า เผย จีนเสนอเป็นตัวกลางเจรจาเก็บกู้ทุ่นระเบิด หากไม่ตอบรับ ไทยจะฟ้องชาวโลก ชี้ ต้องทำฟ้อง ‘ฮุนเซน’ ผิดอาชญากรสงคราม เตรียมรวบรวมหลักฐานส่งตำรวจ-อสส.
.
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) พล.ท.
บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการรับมอบสิ่งของจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน ว่าตรงตามความต้องการของทหารแนวหน้าหรือไม่ ว่า ส่วนใหญ่ผู้บริจาคจะสอบถามมาที่กองทัพภาคที่ 2 ก่อน และได้มีการสอบถามทหารที่อยู่แนวหน้า เพื่อให้ได้รับของตรงกับความต้องการ สิ่งของที่ได้รับวันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องการตรงตามวัตถุประสงค์
.
ส่วนกรณีทหารกัมพูชายั่วยุ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team : IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานีนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เป็นปกติของการปฏิบัติของทหารเขมร เป็นการประท้วงทางสัญลักษณ์ เพราะจุดนั้นเป็นพื้นที่ที่เราแย่งชิง และไทยยืนยันเป็นเส้นเขตแดนของไทย
.
ส่วนการกระทำที่เกิดขึ้นต่อหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ จะส่งผลอะไรหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 มองว่า เรื่องนี้ฝ่ายกัมพูชาจะเสียมากกว่า ไม่มีมารยาท
.
เมื่อถามว่า การประชุม RBC ครั้งนี้จะมีการพูดคุยพื้นที่ช่องอานม้า ที่กัมพูชารุกล้ำเข้ามาตั้งร้านค้าด้วยหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เรื่องช่องอานม้าเป็นเรื่องเดิม ที่ต้องคุยในภาพรวมอยู่แล้วตลอดแนวชายแดน ถ้าเราควบคุมพื้นที่ตรงไหนก็ต้องอยู่ตรงนั้น และจะไม่ให้กัมพูชาเข้ามาใช้ประโยชน์อีก เพราะมันผิดหลักการ MOU เนื่องจากพื้นที่ที่อยู่ใกล้เส้นเขตแดน จะไม่ให้มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ เพราะการปักปันเขตแดนยังไม่แล้วเสร็จ
.
ส่วนไทยมีอำนาจในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของกัมพูชาที่ช่องอานม้าหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เราพยายามให้ทางกัมพูชาเป็นฝ่ายรื้อออกไปเอง
.
ส่วนที่กัมพูชาพยายามแอบอ้างว่าสิ่งปลูกสร้างตรงนั้น เป็นบ้านเรือนของชาวกัมพูชา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กัมพูชารุกล้ำมานานแล้ว เป็นสิ่งที่ไทยประสงค์ให้เขาออกไปเช่นกัน
.
เมื่อถามว่าการเกิดเหตุแบบนี้จะส่งผลต่อการประชุม RBC หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า คงไม่ เป็นเรื่องปกติที่เข้าใจกันได้ โดยการประชุม RBC จะประชุมตามกรอบที่หน่วยเหนือกำหนดให้ ซึ่งแม่ทัพของทั้ง 2 ประเทศจะคุยกัน
.
ส่วนผลการหารือ RBC ในพื้นที่ของกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ที่ทางกัมพูชาไม่ตอบรับการจัดการทุ่นระเบิด คิดว่าในส่วนของการพูดคุยของกองทัพภาคที่ 2 จะเป็นลักษณะใด พล.ท.บุญสินกล่าวว่า เห็นว่าทางประเทศจีนจะเข้ามาเป็นตัวกลาง ขอความร่วมมือทั้ง 2 ประเทศ ให้เก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่เราจะใส่ไปในการพูดคุย RBC
.
เมื่อถามว่าทางกัมพูชาจะยอมฟังประเทศจีนหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ถ้าไม่ฟัง ไทยก็จะชี้แจงให้ชาวโลกรู้ ว่าเขมรไม่ยอมรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
.
ส่วนที่กัมพูชาออกมาระบุไทยพยายามจัดฉากเรื่องหุ้นระเบิด ทางกองทัพหลักฐาน ที่จะพิสูจน์เรื่องนี้หรือไม่ ว่าทุ่นระเบิดเป็นของกัมพูชา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ก็เราไม่ได้ใช้ เพราะทุ่นระเบิดเป็นอาวุธที่ค่ายสังคมนิยมใช้ ซึ่งไม่มีใช้ในไทย และเราเคารพอนุสัญญาออตตาวาอยู่แล้ว เรื่องนี้เข้าใจอยู่แล้วว่าใครเป็นคนวาง เราเข้าใจบุคลิกของประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว
.
ส่วนการพูดคุย RBC ในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 จะมีข้อตกลงแตกต่างกันหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ก็คล้ายกัน เพราะเป็นแนวเส้นเขตแดนเดียวกัน มีพื้นที่ติดกัน ส่วนใหญ่ข้อหารือก็จะคล้ายกัน
.
“
เรื่องทุ่นระเบิด เขาวางเอง เขาก็ปฏิเสธเองอยู่แล้ว คงไม่มีใครยอมรับ เรื่องนี้เราจึงพยายามเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากล จะได้เก็บกู้ร่วมกัน โดยองค์กรสากลที่เป็นกลาง”
.
เมื่อถามว่า การประชุม RBC จะยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า คงไม่ได้เอาเข้าที่ประชุม ถ้าสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายไปในทางที่ดี เราก็คงยังไม่มีการคุยกันเรื่องนี้
.
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับรั้วลวดหนามในขณะนี้ เราควรวางรั้วลวดหนามในบริเวณชายแดนยาวเลยหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนก็เห็นด้วย แต่ว่ารั้วที่วางระหว่างประเทศ หากจะให้เกิดความเรียบร้อย ทั้งสองฝ่ายต้องเข้าใจตรงกัน มิฉะนั้นหากฝ่ายหนึ่งวาง ฝ่ายหนึ่งรื้อ และฝ่ายหนึ่งประท้วง มันก็จะไม่จบ จะต้องมีการหารือในระดับรัฐบาล ว่าแนวเส้นเขตแดนที่เราตกลงกันได้ มีอยู่จุดใดบ้าง แล้วจึงดำเนินการ เช่นนั้นถึงจะเรียบร้อย
.
เมื่อถามว่า ฝ่ายกัมพูชามีการมาแอบรื้อบ้างหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ส่วนใหญ่จะเป็นการวางรั้วลวดหนามตามปกติ ในแนวทางป้องกันของฝ่ายทหารไทย ยังไม่มีการรื้ออะไรเกิดขึ้น
.
เมื่อถามว่า ที่แม่ทัพกล่าวว่าสถานการณ์ขณะนี้อาจจะมีการสู้รบกันใหม่เกิดขึ้นในความเป็นไปได้ 50:50 มีปัจจัยใดที่จะส่งผลให้เกิดการสู้รบขึ้น พล.ท.บุญสินกล่าวว่า ปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้นำกัมพูชา
.
เมื่อถามย้ำว่า ในวันนี้เขามีความพร้อมที่จะรบกับไทยแล้วหรือไม่ พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “ถ้าเขาพร้อม เราพร้อมอยู่แล้ว”
.
เมื่อถามต่อว่า ปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกิดการรบครั้งใหม่ อาจมาจากการที่ไทยเตรียมดำเนินการฟ้องร้องกัมพูชาในข้อหาอาชญากรสงคราม รวมทั้งกรณีที่สร้างความสูญเสียต่อพื้นที่พลเรือนของไทยหรือไม่ พล.ท.
บุญสินระบุว่า เป็นสิทธิของเราอยู่แล้ว และตนก็เห็นด้วยตามแนวทางปฏิบัติของทางรัฐบาล โดยให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยื่นฟ้องในส่วนที่เกี่ยวข้องตามหลักสากล ยืนยันว่าต้องปฏิบัติ
.
ส่วนจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การพูดคุยกันยากขึ้นหรือไม่นั้น มองว่า ในทางกลับกันทางกัมพูชาก็ยื่นฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในประเด็นพื้นที่พิพาท 4 แห่ง ดังนั้นไทยก็จะยื่นฟ้องในประเด็นนี้เช่นกัน เนื่องจากมีหลักฐานในทางกายภาพชัดเจน
.
เมื่อถามว่า ทางกองทัพจะส่งหลักฐานให้กับตำรวจภูธรภาคที่ 3 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการสูงสุดพิจารณา เอาผิด 2 ผู้นำกัมพูชาด้วยหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า ใช่ และกองทัพภาคที่ 2 พร้อมสนับสนุนหลักฐานอยู่แล้ว เพื่อดำเนินการตามกระบวนการ เพื่อนำไปดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด
.
เมื่อถามว่า กรณีทหารที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กองทัพภาคที่ 2 จะเป็นผู้แทนในการดำเนินคดีฟ้องร้องให้ด้วยหรือไม่ พล.ท.บุญสิน บอกว่า จะดำเนินการในฝ่ายทหารที่เราทำได้ในกรอบของกฎหมาย เช่นการดูแลสิทธิต่างๆ ตามแนวทางเมื่อมีการปะทะกัน ระหว่างทหารทั้งสองประเทศ
.
ส่วนที่ปรากฏข่าวว่า กัมพูชาพยายามใช้มวลชนเป็นโล่มนุษย์ พล.ท.
บุญสิน กล่าวว่า เท่าที่ทราบคือ หมู่บ้านที่ทางกองกำลังกัมพูชาใช้เป็นฐานที่ตั้ง มีประชาชนอยู่อย่างหนาแน่น เขาก็อาจจะใช้มวลชนที่อยู่ในพื้นที่นั้นเข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งเชื่อว่าทางกองทัพภาคที่ 1 ก็คงจะมีวิธีในการรับมืออยู่แล้ว ส่วนพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เราไม่ให้เข้าอยู่แล้ว แบบในพื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี โดยยืนยันว่า ไม่มีการให้ประชาชนกัมพูชาล้ำเข้ามาในพื้นที่ชายแดนไทย
JJNY : 5in1 โรมจี้ฟ้องศาล ICC│มทภ.2หนุนรบ.ฟ้อง│ผญบ.โอดควักตังค์ซื้อเอง│คนดังพท.ซัดสจ.อ๋อง│เหตุประทะฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5330042
.
.
.
มทภ.2 หนุนรัฐบาลฟ้อง พ่อลูกตระกูลฮุน ผิดอาชญากรสงคราม จ่อรวมหลักฐานส่งตร.-อสส.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5330120
.
มทภ.2 ซัด เขมร ไร้มารยาท ป่วนคณะคณะทูตที่ช่องอานม้า เผย จีนเสนอเป็นตัวกลางเจรจาเก็บกู้ทุ่นระเบิด หากไม่ตอบรับ ไทยจะฟ้องชาวโลก ชี้ ต้องทำฟ้อง ‘ฮุนเซน’ ผิดอาชญากรสงคราม เตรียมรวบรวมหลักฐานส่งตำรวจ-อสส.
.
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการรับมอบสิ่งของจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน ว่าตรงตามความต้องการของทหารแนวหน้าหรือไม่ ว่า ส่วนใหญ่ผู้บริจาคจะสอบถามมาที่กองทัพภาคที่ 2 ก่อน และได้มีการสอบถามทหารที่อยู่แนวหน้า เพื่อให้ได้รับของตรงกับความต้องการ สิ่งของที่ได้รับวันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องการตรงตามวัตถุประสงค์
.
ส่วนกรณีทหารกัมพูชายั่วยุ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team : IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานีนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เป็นปกติของการปฏิบัติของทหารเขมร เป็นการประท้วงทางสัญลักษณ์ เพราะจุดนั้นเป็นพื้นที่ที่เราแย่งชิง และไทยยืนยันเป็นเส้นเขตแดนของไทย
.
ส่วนการกระทำที่เกิดขึ้นต่อหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ จะส่งผลอะไรหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 มองว่า เรื่องนี้ฝ่ายกัมพูชาจะเสียมากกว่า ไม่มีมารยาท
.
เมื่อถามว่า การประชุม RBC ครั้งนี้จะมีการพูดคุยพื้นที่ช่องอานม้า ที่กัมพูชารุกล้ำเข้ามาตั้งร้านค้าด้วยหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เรื่องช่องอานม้าเป็นเรื่องเดิม ที่ต้องคุยในภาพรวมอยู่แล้วตลอดแนวชายแดน ถ้าเราควบคุมพื้นที่ตรงไหนก็ต้องอยู่ตรงนั้น และจะไม่ให้กัมพูชาเข้ามาใช้ประโยชน์อีก เพราะมันผิดหลักการ MOU เนื่องจากพื้นที่ที่อยู่ใกล้เส้นเขตแดน จะไม่ให้มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ เพราะการปักปันเขตแดนยังไม่แล้วเสร็จ
.
ส่วนไทยมีอำนาจในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของกัมพูชาที่ช่องอานม้าหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เราพยายามให้ทางกัมพูชาเป็นฝ่ายรื้อออกไปเอง
.
ส่วนที่กัมพูชาพยายามแอบอ้างว่าสิ่งปลูกสร้างตรงนั้น เป็นบ้านเรือนของชาวกัมพูชา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กัมพูชารุกล้ำมานานแล้ว เป็นสิ่งที่ไทยประสงค์ให้เขาออกไปเช่นกัน
.
เมื่อถามว่าการเกิดเหตุแบบนี้จะส่งผลต่อการประชุม RBC หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า คงไม่ เป็นเรื่องปกติที่เข้าใจกันได้ โดยการประชุม RBC จะประชุมตามกรอบที่หน่วยเหนือกำหนดให้ ซึ่งแม่ทัพของทั้ง 2 ประเทศจะคุยกัน
.
ส่วนผลการหารือ RBC ในพื้นที่ของกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ที่ทางกัมพูชาไม่ตอบรับการจัดการทุ่นระเบิด คิดว่าในส่วนของการพูดคุยของกองทัพภาคที่ 2 จะเป็นลักษณะใด พล.ท.บุญสินกล่าวว่า เห็นว่าทางประเทศจีนจะเข้ามาเป็นตัวกลาง ขอความร่วมมือทั้ง 2 ประเทศ ให้เก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่เราจะใส่ไปในการพูดคุย RBC
.
เมื่อถามว่าทางกัมพูชาจะยอมฟังประเทศจีนหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ถ้าไม่ฟัง ไทยก็จะชี้แจงให้ชาวโลกรู้ ว่าเขมรไม่ยอมรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
.
ส่วนที่กัมพูชาออกมาระบุไทยพยายามจัดฉากเรื่องหุ้นระเบิด ทางกองทัพหลักฐาน ที่จะพิสูจน์เรื่องนี้หรือไม่ ว่าทุ่นระเบิดเป็นของกัมพูชา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ก็เราไม่ได้ใช้ เพราะทุ่นระเบิดเป็นอาวุธที่ค่ายสังคมนิยมใช้ ซึ่งไม่มีใช้ในไทย และเราเคารพอนุสัญญาออตตาวาอยู่แล้ว เรื่องนี้เข้าใจอยู่แล้วว่าใครเป็นคนวาง เราเข้าใจบุคลิกของประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว
.
ส่วนการพูดคุย RBC ในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 จะมีข้อตกลงแตกต่างกันหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ก็คล้ายกัน เพราะเป็นแนวเส้นเขตแดนเดียวกัน มีพื้นที่ติดกัน ส่วนใหญ่ข้อหารือก็จะคล้ายกัน
.
“เรื่องทุ่นระเบิด เขาวางเอง เขาก็ปฏิเสธเองอยู่แล้ว คงไม่มีใครยอมรับ เรื่องนี้เราจึงพยายามเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากล จะได้เก็บกู้ร่วมกัน โดยองค์กรสากลที่เป็นกลาง”
.
เมื่อถามว่า การประชุม RBC จะยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า คงไม่ได้เอาเข้าที่ประชุม ถ้าสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายไปในทางที่ดี เราก็คงยังไม่มีการคุยกันเรื่องนี้
.
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับรั้วลวดหนามในขณะนี้ เราควรวางรั้วลวดหนามในบริเวณชายแดนยาวเลยหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนก็เห็นด้วย แต่ว่ารั้วที่วางระหว่างประเทศ หากจะให้เกิดความเรียบร้อย ทั้งสองฝ่ายต้องเข้าใจตรงกัน มิฉะนั้นหากฝ่ายหนึ่งวาง ฝ่ายหนึ่งรื้อ และฝ่ายหนึ่งประท้วง มันก็จะไม่จบ จะต้องมีการหารือในระดับรัฐบาล ว่าแนวเส้นเขตแดนที่เราตกลงกันได้ มีอยู่จุดใดบ้าง แล้วจึงดำเนินการ เช่นนั้นถึงจะเรียบร้อย
.
เมื่อถามว่า ฝ่ายกัมพูชามีการมาแอบรื้อบ้างหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ส่วนใหญ่จะเป็นการวางรั้วลวดหนามตามปกติ ในแนวทางป้องกันของฝ่ายทหารไทย ยังไม่มีการรื้ออะไรเกิดขึ้น
.
เมื่อถามว่า ที่แม่ทัพกล่าวว่าสถานการณ์ขณะนี้อาจจะมีการสู้รบกันใหม่เกิดขึ้นในความเป็นไปได้ 50:50 มีปัจจัยใดที่จะส่งผลให้เกิดการสู้รบขึ้น พล.ท.บุญสินกล่าวว่า ปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้นำกัมพูชา
.
เมื่อถามย้ำว่า ในวันนี้เขามีความพร้อมที่จะรบกับไทยแล้วหรือไม่ พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “ถ้าเขาพร้อม เราพร้อมอยู่แล้ว”
.
เมื่อถามต่อว่า ปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกิดการรบครั้งใหม่ อาจมาจากการที่ไทยเตรียมดำเนินการฟ้องร้องกัมพูชาในข้อหาอาชญากรสงคราม รวมทั้งกรณีที่สร้างความสูญเสียต่อพื้นที่พลเรือนของไทยหรือไม่ พล.ท.บุญสินระบุว่า เป็นสิทธิของเราอยู่แล้ว และตนก็เห็นด้วยตามแนวทางปฏิบัติของทางรัฐบาล โดยให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยื่นฟ้องในส่วนที่เกี่ยวข้องตามหลักสากล ยืนยันว่าต้องปฏิบัติ
.
ส่วนจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การพูดคุยกันยากขึ้นหรือไม่นั้น มองว่า ในทางกลับกันทางกัมพูชาก็ยื่นฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในประเด็นพื้นที่พิพาท 4 แห่ง ดังนั้นไทยก็จะยื่นฟ้องในประเด็นนี้เช่นกัน เนื่องจากมีหลักฐานในทางกายภาพชัดเจน
.
เมื่อถามว่า ทางกองทัพจะส่งหลักฐานให้กับตำรวจภูธรภาคที่ 3 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการสูงสุดพิจารณา เอาผิด 2 ผู้นำกัมพูชาด้วยหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า ใช่ และกองทัพภาคที่ 2 พร้อมสนับสนุนหลักฐานอยู่แล้ว เพื่อดำเนินการตามกระบวนการ เพื่อนำไปดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด
.
เมื่อถามว่า กรณีทหารที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กองทัพภาคที่ 2 จะเป็นผู้แทนในการดำเนินคดีฟ้องร้องให้ด้วยหรือไม่ พล.ท.บุญสิน บอกว่า จะดำเนินการในฝ่ายทหารที่เราทำได้ในกรอบของกฎหมาย เช่นการดูแลสิทธิต่างๆ ตามแนวทางเมื่อมีการปะทะกัน ระหว่างทหารทั้งสองประเทศ
.
ส่วนที่ปรากฏข่าวว่า กัมพูชาพยายามใช้มวลชนเป็นโล่มนุษย์ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เท่าที่ทราบคือ หมู่บ้านที่ทางกองกำลังกัมพูชาใช้เป็นฐานที่ตั้ง มีประชาชนอยู่อย่างหนาแน่น เขาก็อาจจะใช้มวลชนที่อยู่ในพื้นที่นั้นเข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งเชื่อว่าทางกองทัพภาคที่ 1 ก็คงจะมีวิธีในการรับมืออยู่แล้ว ส่วนพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เราไม่ให้เข้าอยู่แล้ว แบบในพื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี โดยยืนยันว่า ไม่มีการให้ประชาชนกัมพูชาล้ำเข้ามาในพื้นที่ชายแดนไทย